‘ไอเดีย-เทคโนฯ’เพิ่มมูลค่ามันญี่ปุ่น

‘ไอเดีย-เทคโนฯ’เพิ่มมูลค่ามันญี่ปุ่น

เอสเอ็มอีไทยนำเข้า “มันม่วงญี่ปุ่น” มาแปรรูปเพิ่มมูลค่าด้วยเทคโนโลยีเป็น “ผงสเปรด” เสริมด้วยเทคนิคพิเศษช่วยยืดอายุการเก็บรักษาได้นาน 1 ปี โดยไม่มีสารกันบูดหรือสารแต่งสี เตรียมขยายไลน์ผงสเปรดผักผลไม้ไทยชนิดอื่น สร้างทางเลือกให้กับวงการอาหารเครื่องดืม

สเปรด (spreads) หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ป้ายหรือทาขนมปัง เช่น แยมก็เป็นอีกประเภทหนึ่งของสเปรด เมื่ออยู่ในรูปผงวัตถุดิบจะเพิ่มความสะดวกและหลากหลายในการใช้งาน เช่น ผสมน้ำทำน้ำจิ้มขนมปัง ราดบิงซูหรือทำเป็นไส้เบเกอรี่ต่างๆ

มันม่วงชะลอแก่

ความชอบในอาหารและต้องการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้อง “ศักดิ์เดช เรืองรัตนากร” และเพื่อน จึงชักชวนกันศึกษาหาความรู้และโอกาสทางธุรกิจในงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับอาหารที่ฮ่องกง พบว่า เทรนด์ความนิยมเครื่องดื่มจากมันหวานสีม่วงญี่ปุ่นกำลังเป็นที่นิยม ประกอบกับมีโอกาสพบกับผู้ประกอบการมันม่วงผงจากญี่ปุ่น จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการนำเข้าผงมันฯ จากเมืองคุมาโมโต้ ญี่ปุ่น มาจำหน่ายเป็นวัตถุดิบให้กับร้านอาหาร ร้านขนม โรงแรม ฯลฯ ในลักษณะ B2B ขณะเดียวกันก็คิดจะพัฒนาผลิตภัณฑ์จากมันม่วงผงนี้อีกด้วย

“มันหวานญี่ปุ่นมีสีม่วงสวย อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการอย่างสารสีจากธรรมชาติอย่างแอนโทไซยานินในปริมาณสูงกว่าเบอร์รี่ถึง 3 เท่า บวกกับเทรนด์ความนิยมพืชผักสีม่วงกำลังมาแรง จึงมองว่ามีโอกาสสำหรับตลาดในไทย” ศักดิ์เดช ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท แพนโทริ จำกัด กล่าว

ศักดิ์เดชร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ที่เชื่อมภาคเอกชนกับผู้เชี่ยวชาญในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผงมันม่วง กระทั่งเกิดเป็นแบรนด์ “อิโมะ อิโมะ” (imo imo) ที่แปลว่า มัน ขณะเดียวกันก็ได้พัฒนาสูตรเครื่องดื่มมันหวานสีม่วงต่างๆ ตอบแนวคิดของการเป็นผลิตภัณฑ์อาหารว่างระหว่างมื้อที่มีคาร์โบไฮเดรตและสารอาหารที่จำเป็น พร้อมสารแอนโทไซยานินอีกด้วย

ตามมาด้วยการพัฒนา “ผงสเปรดมันม่วง” เป็นการพัฒนาสูตรที่แตกต่างจากสินค้าในตลาด ด้วยกระบวนการผลิตที่ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาได้นานถึง 1 ปี โดยปราศจากสารกันบูดและสารแต่งสี สามารถนำไปใช้ได้สะดวกเพียงเติมน้ำ

เปิดตลาดสีม่วง

สำหรับกลุ่มลูกค้าของอิโมะ อิโมะ วางไว้เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือคนที่กึ่งรักสุขภาพ เนื่องจากเครื่องดื่มหรือผลิตภัณฑ์จากมันม่วงยังคงมีน้ำตาลหรือแป้งผสมอยู่ ในขณะเดียวกันก็มีกลุ่มผู้ประกอบการทางด้านเครื่องดื่ม เบเกอรี่ที่ต้องการวัตถุดิบที่แปลกใหม่ สีสวย รวมถึงมีจุดเด่นที่ตอบเทรนด์สุขภาพ

“ปัจจุบันแบรนด์ของเรามีการตอบรับที่ดี ระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ลูกค้ารับรู้และเข้าใจผลิตภัณฑ์จากมันม่วงมากขึ้น ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเทรนด์ของพืชชนิดนี้กำลังเป็นที่นิยมทั้งในญี่ปุ่น เกาหลีและไต้หวัน ส่วนตลาดของไทยก็น่าจะตามเทรนด์เหล่านั้น ทำให้เป็นโอกาสที่แบรนด์ของเราจะเติบโต” ศักดิ์เดช กล่าว

แม้เป็นวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น แต่ในอนาคตหากไทยสามารถพัฒนาพันธุ์มันสีม่วงที่มีคุณภาพและสารสำคัญอย่างแอนโทไซยานินให้คงที่และปริมาณผลผลิตที่แน่นอน อาจจะไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม มันสีม่วงของไทยยังต้องการระยะเวลาอีกนานในการพัฒนาสายพันธุ์

ศักดิ์เดช กล่าวอีกว่า จากสเปรดมันม่วงที่ยอดขายเป็นอันดับ 1 ทำให้มีแผนที่จะต่อยอดเป็นผงสเปรดจากผลไม้ไทยอื่นๆ โดยได้ศึกษาความเป็นไปได้ของพืชผักทั้ง มะม่วง มังคุด ทุเรียน กล้วยหอมและมะพร้าว

“หลายคนมองว่า ธุรกิจผงมันม่วงจะเป็นการเล่นตามเทรนด์ที่อยู่ไม่นาน แต่ผมเชื่อว่าอาจจะเป็นเหมือนชาเขียวี่ต้องใช้เวลาสร้างการยอมรับ อย่างไรก็ดี ต้องรอดูว่ามันจะอยู่นานแค่ไหน ที่สำคัญ เรามีจุดเด่นในด้านเทคโนโลยีที่ประยุกต์ใช้กับพืชผักที่หลากหลาย เสริมด้วยการนำการวิจัยและพัฒนาเข้าไปเสริมศักยภาพนั่นเอง” ศักดิ์เดช กล่าว