'กสิกรไทย' คุมเอ็นพีแอลตามเป้า

'กสิกรไทย' คุมเอ็นพีแอลตามเป้า

“กสิกรไทย” คุมเอ็นพีแอลตามเป้า รับธุรกิจเอสเอ็มอีน่าห่วง-ผนึกเจซีบีออกบัตรใหม่เจาะกลุ่มชื่นชอบญี่ปุ่น

กสิกรไทยคงเป้าสินเชื่อปีนี้โต 4-6% ระบุคุมคุณภาพหนี้ได้ตามเป้าทั้งปีเอ็นพีแอล 3.3-3.4% แม้มีกรณีของบริษัทเอิร์ธก็ไม่กระทบ มองเป็นเรื่องปกติของธุรกิจธนาคารที่ต้องแก้ปัญหา จับมือเจซีบีออกบัตรเครดิตใหม่ กระตุ้นการใช้จ่ายหลังไตรมาสแรกยอดใช้โต 1% จากเป้าที่ตั้งไว้ 10%

นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า จากต้นปีจนถึงปัจจุบัน ธนาคารสามารถควบคุมคุณภาพหนี้ได้ดี ทำให้สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ปรับลดลงเล็กน้อยจากสิ้นปี 2559 อยู่ที่ระดับ 3.32% มาอยู่ที่ระดับ 3.31% ในช่วงสิ้นไตรมาสแรกของปีนี้ และมองว่าทั้งปีจะรักษาระดับเอ็นพีแอลให้อยู่ที่ระดับ 3.3-3.4% ได้

“ผมไม่ขอพูดเรื่องบริษัทเอ็นเนอยี่ เอิร์ธ เพราะเป็นเรื่องรายบริษัท แต่ถ้าดูในภาพรวมของพอร์ตสินเชื่อ คุณภาพหนี้ของแบงก์ก็ยังปกติ ทำในสิ่งที่ต้องทำเวลาให้เงินกู้ เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจแบงก์ เวลามีปัญหาก็ต้องช่วยกันแก้ เท่าที่ดูก็ไม่ได้มีผลกระทบ เป้าหมายคุณภาพหนี้เราตั้งไว้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ไม่ได้ปรับ และหากดูเป็นกลุ่ม สินเชื่อรายเล็ก หรือเอสเอ็มอีก็น่าเป็นห่วงมากที่สุด”

ทั้งนี้ ธนาคารยังคงเป้าการเติบโตของสินเชื่อปีนี้ไว้ 4-6% โดยมองว่าสินเชื่อจะเร่งตัวขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้เป็นต้นไป จากการเบิกจ่ายงบลงทุนของภาครัฐที่จะเข้ามาช่วย นอกเหนือจากการเติบโตของภาคการส่งออก และการท่องเที่ยวแล้ว

ในส่วนของการใช้จ่ายหรือกำลังก็น่าจะดีขึ้นในช่วงปลายปีเช่นเดียวกัน จากช่วงไตรมาสแรกที่เติบโตเล็กน้อย เพราะประชาชนยังไม่ค่อยกล้าจับจ่าย เห็นได้จากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของธนาคารกสิกรไทยที่เติบโตเพียง 1% ขณะที่ภาพรวมตลาดโต 2% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 10%

อย่างไรก็ตาม มองว่าทั้งปีการใช้จ่ายผ่านบัตรจะเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 10% และมีจำนวนบัตรใหม่ 2.8 แสนใบ มีลูกค้าใหม่ 1.4 แสนคน ทำให้สิ้นปี 2560 มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทั้งหมด 3.96 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรได้ร่วมกับเจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ให้บริการบัตรเครดิตชั้นนำในประเทศญี่ปุ่น และเอเชียแปซิฟิก ออกบัตรเครดิตเจซีบีกสิกรไทยสำหรับกลุ่มลูกค้าผู้ที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์แบบญี่ปุ่น ด้วยคอนเซปต์ “ขั้นสุดจริง! เพื่อสายอินเจแปน” ประกอบด้วยบัตรแพลทินัม บัตรทอง และบัตรคลาสสิก เจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์ญี่ปุ่น ทั้งการใช้จ่ายในไทย และญี่ปุ่น โดยตั้งเป้าหมายออกบัตรภายใน 1 ปี ประมาณ 1 แสนบัตร และมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 2.2 พันล้านบาท

เขากล่าวว่า กระแสความนิยมญี่ปุ่นของคนไทยยังมีอย่างต่อเนื่องและเป็นปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นๆ โดยมีคนไทยเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้วถึง 9 แสนคน มีการใช้จ่ายสูงเป็นอันดับ 6 จากนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเมื่อปีที่แล้ว มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทยในประเทศญี่ปุ่นประมาณ 3,300 ล้านบาท ซึ่งหมวดยอดนิยมในการใช้จ่าย 3 อันดับแรก ได้แก่ ที่พัก เครื่องแต่งกาย และร้านค้าปลีก ทำให้ตลาดญี่ปุ่นเป็นตลาดที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ธนาคารจึงได้ออกบัตรร่วมกับทางเจซีบี

ด้านนายคิมิฮิซะ อิมาดะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่าประเทศไทยเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ ของเจซีบีในแผนการขยายธุรกิจและการให้บริการแก่ผู้ถือบัตรเจซีบี เนื่องจากความนิยมในประเทศญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยครั้งนี้ นับว่าเป็นก้าวสำคัญอย่างมากต่อยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจของเจซีบีในไทย เพราะกสิกรไทยเป็นผู้นำด้านร้านค้ารับบัตรและด้านยอดใช้จ่ายผ่านบัตรในไทย ทั้งยังเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ซึ่งความร่วมมือนี้จะทำให้ผู้ถือบัตรเครดิตเจซีบีกสิกรไทยได้รับความสะดวกในการใช้จ่ายและท่องเที่ยวทั้งในไทยและที่ญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน เจบีซี อินเตอร์เนชั่นแนลฯ ได้ออกบัตรเครดิตภายใต้การเป็นตัวแทนชำระเงินของเจซีบี 23 ประเทศทั่วโลก เป็นจำนวน 105 ล้านบัตร