เตือน! แก๊งป้า-ทอม-ดญ. กินแล้วไม่จ่าย พบก่อเหตุหลายท้องที่

เตือน! แก๊งป้า-ทอม-ดญ. กินแล้วไม่จ่าย พบก่อเหตุหลายท้องที่

แก๊งป้า-ทอมและเด็กหญิง 3สาว3วัยเที่ยวกินแล้วหนีไม่จ่าย เจ้าของร้านแจ้งความ ไม่เสียดายค่าอาหาร แต่กลัวคนอื่นตกเป็นเหยื่อ ขอฝากเตือนไปยังร้านอาหาร ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ไว้

เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม นายธเนศ ดวงโพธิ์พิมพ์ อายุ 36 ปี เจ้าของร้านโมบายสเต็กเฮ้าส์ ถ.ริมคลองสมถวิล ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อ พ.ต.ท.สมพงษ์ อุดมเดช พนักงานสอบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม กรณีเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา มีลูกค้าจำนวน 3 คน ประกอบด้วย หญิงอายุประมาณ 40 ปี 1 คน หญิงลักษณะคล้ายทอม 1 คน และเด็กหญิงอายุประมาณ 6-7 ขวบ 1 คน เข้ามารับประทานอาหารที่ร้าน และสั่งอาหารใส่กล่อง แต่กลับไม่จ่ายเงิน ก่อนอาศัยจังหวะพนักงานในร้านเผลอ ก่อนหลบหนีไป

 นายธเณศ ดวงโพธิ์พิมพ์ เจ้าของร้านอาหารโมบายสเต็ก กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตนเองเปิดร้านตามปกติ เมื่อช่วงเวลาเที่ยง ก็มีลูกค้าเข้าร้านตามปกติจำนวน 4-5 โต๊ะ รวมโต๊ะของคนร้าย ซึ่งมาด้วยกัน 3 คน เป็นหญิงทั้งหมด ประกอบด้วย หญิงอายุประมาณ 40 ปี 1 คน หญิงลักษณะคล้ายทอม อายุประมาณ 20 ปี 1 คน และเด็กหญิงอายุประมาณ 6-7 ขวบ 1 คน โดยขับรถยนต์ฮอนด้าซีวิค สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียนกรุงเทพมหานคร มาจอดที่หน้าร้าน ก่อนสั่งอาหารที่มีราคาสูง เช่น สเต็กพอร์คช็อป แซลมอนวาซาบิ ปลาหมึกชุบแป้งทอด ข้าวผัดปู ข้าวผัดกุ้ง แกงส้ม เป็นต้น รวมเป็นเงิน 845 บาท และได้สั่งอาหารใส่กล่องเพื่อกลับไปทานที่บ้านอีก 506 บาท รวมเป็นเงิน 1,351 บาท เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ หญิงวัย 40 ปี ได้จูงลูกสาวออกไป บอกว่าจะไปเอาเงินที่แฟน โดยให้ทอมรออาหารใส่กล่องอยู่ที่ร้าน ช่วงจังหวะที่พนักงานในร้านเดินเข้าไปในครัว ทอมคนดังกล่าวก็อาศัยจังหวะเดินออกจากร้านไป โดยไม่ได้นำอาหารที่สั่งใส่กล้องไปด้วย คาดว่าต้องมีการนัดแนะสถานที่ขึ้นรถกันแล้วหลบหนีไป จึงได้เข้าแจ้งความต้องพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี

 โดยเรื่องดังกล่าว ตนได้โพสต์ข้อความเตือนภัยบนเฟสบุ๊คส่วนตัว โดยใช้ชื่อว่า“โมบายสเต็ก มหาสารคาม” ระบุข้อความว่า “แจ้งเตือนร้านอาหารในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ตอนเที่ยงของวันนี้ได้มีลูกค้ามาทานข้าวที่ร้านแล้วได้เรียกพนักงานเช็คบิล รอบแรกเป็นเงิน 845 บาทแล้วสั่งใส่กล่องอีก 506 บาท รวมเป็นเงิน 1,351 บาท แล้วบอกพนักงานว่าเดียวไปเอาเงินกับแฟนมาให้ แล้วให้เพื่อนที่มาด้วยรออยู่ที่ร้าน พอดีพนักงานได้เดินเข้ามาในห้องครัว พอเดินออกไปอีกรอบเพื่อนที่นั่งรออยู่ก็หายไป จึงแจ้งเตือนให้ทราบกัน มีผู้หญิง1คน อายุประมาณ 38-40 ปี ทอม 1 คน อายุประมาณ 20 ต้น ๆ และเด็กผู้หญิงประมาณ 6-7 ขวบ สรุปเราโดนชักดาบเซ็งเลยคร้าบ ขับรถเก๋งฮอนด้า ซีวิคสีบรอนซ์เงินทะเบียนจำไม่ได้”

 เมื่อเรื่องดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก็มีคนมาคอมเม้นต์และช่วยแชร์ข้อมูลออกไปเป็นจำนวนมาก โดยมีหลายคอมเม้นต์ที่เข้ามาโพสต์ว่ามีคนร้ายลักษณะแบบเดียวกัน ก่อเหตุในลักษณะแบบนี้ในหลายพื้นที่ โดยมีกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพรถ และผู้ก่อเหตุที่มีลักษณะเป็นทอมได้ และได้ส่งภาพต่อมาให้ โดยกล้องที่สามารถจับภาพได้ อยู่ที่ร้านผลไม้ ในอำเภอเชียงยืน จ.มหาสารคาม ซึ่งจากการสอบถามทราบว่าคนร้ายก่อเหตุขึ้นในหลายพื้นที่ เช่น ร้านอาหาร อำเภอบางไผ่ จ.ขอนแก่น ร้านขายผลไม้ ร้านมินิมาร์ท อ.เชียงยืน และร้านขายไก่ย่างวิเชียรบุรี อำเภอกันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ซึ่งคนร้ายจะอ้างว่าไปเอาเงินที่รถ โดยทิ้งอีกคนนึงไว้ ก่อนอาศัยทีเผลอหลบหนีไป

ด้าน พ.ต.ท.สมพงษ์ อุดมเดช พนักงานสอบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตรวจสอบทะเบียนรถของคนร้ายที่ขับมาใช้ก่อเหตุ ปรากฏว่าเป็นทะเบียนปลอม ซึ่งทางผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษไว้แล้ว ในข้อหาสั่งซื้อและบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่ม โดยรู้ว่าตนไม่สามารถชำระเงินค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่มรวมเป็นเงิน 845 บาทได้ ซึ่งได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่ามีการก่อเหตุขึ้นในหลายพื้นที่และมีผู้เสียหายหลายคน โดยจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน และติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 จึงอยากฝากเตือนไปยังร้านอาหาร ร้านขายของต่าง ๆ ในระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ไว้ ซึ่งที่มาแจ้งความในครั้งนี้ ก็เพื่อไม่อยากให้คนร้ายไปก่อเหตุกับใครอีก และเป็นการเตือนผู้ประกอบการ คนที่ทำมาหากินอาชีพสุจริต ไม่อยากให้ต้องตกเป็นเหยื่อแหมือนกับตนเอง