โจรแสบ ขโมยป้ายชื่อร้านโบราณ สงสัยออเดอร์ตลาดมืด

พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.สภ.กมลาไสย มอบหมายให้ พ.ต.ท.อาคม นารินทร์ รอง ผกก.สส.สภ.กมลาไสย พ.ต.ท.นรวิชญ์ แสงทัพ สว.สส.สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.กมลาไสย เข้าติดตามคดีลักทรัพย์ ซึ่งเป็นป้ายโชว์ห่วยอักษรไทย-จีน ซึ่งเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2560 เวลา 06.30 น. น.ส.จิราพร เหล่าพงศ์พิชญ์ อายุ 58 ปี เลขที่ 46 หมู่ที่ 1 ต.กมลาไสย อ.กมลาไสย เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.เรืองเดช ชินเกตุ พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี ว่า ป้ายชื่อร้าน “อู๋จั๊ว เล้าสุนกี่” ขนาดความกว้าง 45 ซม. ยาว 75 ซม. เป็นป้ายเปิดกิจการของบรรพบุรุษอายุกว่า 100 ปี ซึ่งติดอยู่หน้าบ้านดังกล่าวถูกโจรลักขโมยไป ซึ่งได้สร้างความเสียใจให้กับครอบครัว เนื่องจากเป็นป้ายร้านค้าและยังเป็นชื่อของบิดาของตนเอง

โดยวันนี้ ตำรวจชุดสายสืบ สภ.กมลาไสย ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรอยการตัดลวดและคาดว่าคนร้ายน่าจะใช้โต๊ะซึ่งตั้งอยู่หน้าบ้าน ก่อนทำการปีนประตูขึ้นไปตัดและยกป้ายลงมา ทั้งนี้จากการตรวจสอบไปที่กล้องวงจรปิด ภายในเขตเทศบาลตำบลกมลาไสย ตามจุดต่างๆ เจ้าหน้าที่ยังพบหลักฐาน คนร้าย ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2560 เวลาประมาณ 20.00 น. คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์เวฟสีน้ำเงิน สวมเสื้อโทนสีส้มหรือน้ำตาล ใส่หมวกปีกใบกว้างคล้ายจะสานด้วยไม้ไผ่ สวมกางเกงขาสามส่วน อายุประมาณ 35-40 ปี ขี่รถจักรยานยนต์มาจากคุ้มใต้ตรงสี่แยกไฟแดง โดยใช้มือซ้ายดึงหมวกปิดบังใบหน้า จนเมื่อเวลา 20.04 น.คนร้ายได้ขับไปจอดที่หน้าร้ายดังกล่าว ก่อนทำการปลดป้าย โดยใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ก่อนทำการขับรถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปตามถนนหลังสถานีตำรวจภูธรอำเภอกมลาไสย ไปทางถนนคุ้มเมืองใหม่ก่อนที่จะหลบหายไปจากกล้องวงจรปิด

น.ส.จิราพร เหล่าพงศ์พิชญ์ อายุ 58 ปี ผู้เสียหายกล่าวว่า ได้เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2560 เวลา 06.30 น. หลังจากที่ได้สังเกตเห็นว่าป้ายชื่อร้าน “อู๋จั๊ว (เล้าสุนกี่) ซึ่งเป็นชื่อของบิดาของตนและคาดว่าจะมีอายุมากกว่าหนึ่งร้อยปี ได้หายไปจากหน้าร้าน ซึ่งในส่วนตัวครอบครัวและญาติพี่น้องรู้สึกตกใจมาก เนื่องจากเป็นป้ายของบรรพบุรุษตั้งแต่รุ่นอากง อาม่า มาอยู่ที่อำเภอกมลาไสย และมาทำการค้าขายวัสดุก่อสร้างจนเจริญรุ่งเรือง และพึ่งจะมาเปลี่ยนเป็นร้ายขายของชำหรือโชว์ห่วย ในปัจจุบัน

ซึ่งป้ายนี้มีอายุมากกว่า 100 ปี แน่นอน เพราะครอบครัว 9 คน เฉพาะพี่ชายคนโตก็มีอายุ 88 ปีแล้ว ส่วนบิดาของตนก่อนจะเสียชีวิตก็มีอายุ 80 กว่าปี และก็เสียไปกว่า 20 ปี จึงขอร้องให้โจรที่ขโมยป้ายไปได้นำมาคืนให้กับครอบครัวด้วยรู้สึกไม่ดี อีกทั้งในส่วนตัวก็สงสัยว่า ป้ายนี้จะมีออเดอร์หรือไม่เพราะก่อนหน้าที่ประมานสองถึงสามเดือน ก็มีคนมาถามซื้อตู้เก่าภายในร้านและถามซื้อป้ายซึ่งก็ให้ราคาสูงหลายหมื่นบาท แต่ไม่ขายเพราะถือเป็นตัวแทนทางจิตใจของบิดาของตน อย่างไรก็ตามขอให้โจรนำมาคืนให้ด้วย โดยส่วนตัวก็ได้ตั้งรางวัลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 10,000 บาทด้วย

ด้าน พ.ต.ท.อาคม นารินทร์ รอง ผกก.สส.สภ.กมลาไสย กล่าวว่า คดีนี้ตำรวจชุดสายสืบได้ทำงานอย่างเต็มที่ตั้งแต่ที่ได้รับแจ้งจนเข้ามาตรวจที่เกิดเหตุและกล้องวงจรปิดอีกครั้ง ซึ่งในขณะนี้ตำรวจได้ภาพหลายจุดจากกล้อง ซึ่งก็กำลังทำการติดตามตัวคนร้าย แต่ในกรณีนี้เชื่อว่าจะเป็นเรื่องของใบสั่ง หรือออเดอร์จากกลุ่มนักสะสมป้ายเก่าที่จะนิยมนำไปแต่งร้านอาหารให้สวยงาม จึงอาจจะเป็นที่ต้องการของตลาดมืด ซึ่งจะมีอยู่ทั่วไปในกลุ่มรับซื้อของเก่า อีกทั้งป้ายนี้เชื่อว่าเนื้อไม้จะเป็นไม้แดง ที่ยังเป็นไม้มงคลที่หายาก จึงทำให้มีราคาการรับซื้อที่สูง อย่างกรณีชิ้นนี้ทราบว่ามีราคาสูงถึง 40,000 บาท จึงขอเตือนประชาชน ชาวไทยเชื้อสายจีนที่ยังคงมีป้ายเก่าเช่นนี้ให้เก็บป้ายเอาไว้ภายในบ้าน เพราะการที่ปล่อยไว้เช่นนี้อาจจะถูกขโมยไปได้ อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะทำการสืบสวนเพื่อจับกุมคนร้ายและนำป้ายมาคืนให้ได้