เท 500 ล้านบาท ผุด 'ไลน์ วิลเลจ' กลางสยามสแควร์วัน

“ไลน์ วิลเลจ แบงค็อก” สบช่องแอพไลน์ฮิตตลาดไทย เทงบลงทุน 500 ล้านบาท ผุด “ไลน์ วิลเลจ แบงค็อก” แอดแวนเจอร์พาร์คในร่มแห่งแรกของโลก เลือกสยามสแควร์วันใจกลางกรุงเทพมหานคร ดีเดย์เปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในปลายปี 2560 ตั้งเป้าปั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับเวิลด์คลาส นักท่องเที่ยวตบเท้าเข้าชมปีละไม่น้อยกว่า 12 ล้านราย

นายกัมปนาท วงศ์หงษ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไลน์ วิลเลจ แบงค็อก ผู้ได้รับสิทธิ์จากบริษัทแม่ของไลน์ที่เกาหลีใต้ ให้ทำตลาดสินค้าลิขสิทธิ์ คาแรคเตอร์ไลน์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ กล่าวว่า ได้เปิดตัว “ไลน์ วิลเลจ แบงค็อก (Line Village Bangkok)” แอดแวนเจอร์พาร์คในร่มแห่งแรกของโลกในไทย คาดว่า จะสามารถให้บริการอย่างเต็มรูปแบบได้ภายในสิ้นปี 2560

พาร์คดังกล่าว ใช้งบประมาณการลงทุนกว่า 500 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่อาคารสยามสแควร์วัน ครอบคลุมพื้น 3 ชั้น หรือกว่า 1,500 ตารางเมตร ขณะนี้ได้เริ่มให้บริการเฟสแรกแล้วกับร้าน “ไลน์ วิลเลจ สโตร์” สาขาแรกในประเทศไทย ซึ่งมีสินค้าลิขสิทธิ์แท้ คาแรคเตอร์จากไลน์จำหน่ายกว่า 2,000 รายการ

เอ็กซ์คลูซีฟขายเฉพาะไทย
โดยไฮไลต์ ประกอบด้วย 4 หมวดหมู่หลัก คือ สินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ผลิตขึ้นมาเฉพาะเพื่อตลาดประเทศไทย สินค้าที่ร่วมกับแบรนด์พันธมิตรระดับโลกตามเทศกาล และสินค้าทั่วไป การันตีราคาเท่ากันกับสาขาอื่นๆ ทั่วโลก อาจต่างกันเล็กน้อยตามอัตราแลกเปลี่ยน

แฟนคลับของไลน์และผู้ที่สนใจ สามารถเลือกชมสินค้าลิขสิทธิ์ ของสะสม ที่เป็นไลน์คาแรคเตอร์จากทั่วทุกมุมโลก ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของใช้ในชีวิตประจำวัน อุปกรณ์สำนักงาน ของที่ระลึก โดยที่พลาดไม่ได้ คือ สินค้าสั่งทำพิเศษ เช่น บราวน์ทำท่าสวัสดี นอกจากนี้ มีบริการเครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยวแพ็คเกจจิ้งพิเศษ หมุนเวียนไปตามฤดูกาล รวมถึงตามโอกาสพิเศษต่างๆ

ส่วน ไลน์ วิลเลจ จะเน้นให้สัมผัสกับชีวิตคาแรคเตอร์ ผสานกับเทคโนโลยีไฮเทค ตกแต่งทั้งห้อง สวน พลาซ่าส่วนกลางให้ผู้ชมเดินเล่น ถ่ายรูป เล่นเกมระบบดิจิทัล ที่กระจายอยู่ตามโซนต่างๆ ไฮไลต์มี 6 บ้าน คาแรคเตอร์ยอดฮิต คือ ห้องบราวน์ โคนี่ มูน เจมส์ บอส และซูเปอร์สตาร์ตัวใหม่ช็อคโก น้องสาวแท้ๆ ของบราวน์ เรียกว่า เป็นสถานที่ที่โลกจินตนาการกลายเป็นโลกแห่งความจริงที่สามารถเห็น สัมผัส และเข้าไปมีส่วนร่วม

“ไลน์เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง จากความนิยมอย่างมากที่ได้รับจากการใช้งานแอพพลิเคชั่น เป็นโอกาสที่ดีที่จะนำมาต่อยอดสู่การค้าปลีก เท่าที่ผมทราบ ขณะนี้มีไลน์สโตร์อยู่ทั่วโลกกว่า 45 แห่ง ทว่าที่เป็นไลน์วิลเลจ เต็มรูปแบบเกิดที่ไทยเป็นแห่งแรก"

ด้านแผนการตลาด จะมุ่งเน้นการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ ข้อมูลข่าวสารอัพเดท โปรโมชั่นทั้งบนช่องทางออฟไลน์ สื่อภายนอกอาคาร บนออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ยูทูบ รวมถึงร่วมมือกับไลน์ประเทศไทย และกิจกรรมโรดโชว์กับภาครัฐ โดยเตรียมจัดกิจกรรมต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี

หวังเป็นจุดท่องเที่ยวเวิลด์คลาส
สำหรับการทำรายได้จะมาจาก ตั๋วค่าเข้าชมพาร์ค (ราคาไม่เกิน 800 บาท พร้อมมีของแถมพิเศษ) การจำหน่ายสินค้าของที่ระลึก และการบริการ รวมไปถึงกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆ คาดว่า จะสามารถรับรู้รายได้ได้ในปี 2561 แต่ยังไม่อาจเปิดเผยตัวเลขได้ เบื้องต้นคาดว่ารายได้หลักเกิน 50% จะมาจากค่าตั๋วเข้าชม

บริษัทตั้งเป้า ผลักดันให้ไลน์ วิลเลจ แบงค็อก กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับเวิลด์คลาส แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้าชมไม่น้อยกว่า 12 ล้านราย อนาคตมีความเป็นไปได้ว่าจะขยายไปยังสถานที่อื่นๆ รวมถึงต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ

“ผมเชื่อว่าไลน์วิลเลจแบงค็อกจะกลายเป็นสโตร์ที่สามารถประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกของไลน์ ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมากจากทั้งแฟนคลับชาวไทย และนักท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

บริษัทได้รับสิทธิจากบริษัทแม่ของไลน์ที่เกาหลีใต้ให้ทำตลาดสินค้าลิขสิทธิ์ คาแรคเตอร์ไลน์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยยังไม่มีวันหมดอายุ กับสยามสแควร์วันทำสัญญาเช่าไว้ 12 ปี

ปัจจุบัน แอพพลิเคชั่นไลน์ให้บริการใน 230 ประเทศทั่วโลก มีผู้ใช้งานกว่า 217 ล้านราย โดยไทยเป็นประเทศที่มีความสำคัญลำดับที่ 2 รองจากญี่ปุ่น ด้วยจำนวนผู้ใช้งานกว่า 41 ล้านราย หรือ คิดเป็นสัดส่วน 94% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือทั้งประเทศ

‘ไลน์’ ชี้ไทยตลาดใหญ่มีปัจจัยบวก
ด้านนายแดน ศรมณี ผู้อำนวยการฝ่ายคอนเทนท์ ไลน์ ประเทศไทย ระบุว่า ไลน์ใช้เวลาทำโครงการดังกล่าวมากว่า 3 ปี เหตุที่เลือกไทยเป็นประเทศแรก เนื่องจากเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีความสำคัญกับบริษัทอย่างมาก ปัจจัยบวกมาจากการใช้งานสมาร์ทโฟน รวมถึงโมบายแอพพลิเคชั่นเติบโตก้าวกระโดด

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวเสริมว่า หลังจากนี้ทางกระทรวงฯ มีแผนร่วมมือกับ ไลน์ วิลเลจ แบงค็อก เพิ่มการรับรู้ให้กับตลาดด้วยกิจกรรมโรดโชว์ และงานเทรดโชว์ต่างๆ ไลน์ วิลเลจ แบงค็อก น่าจะเป็นส่วนหนึ่งช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวไทย ขณะเดียวกันผลักดันให้เกิดการใช้จ่ายภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ ข้อมูล ระบุว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวประเทศไทยยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ช่วง 5 เดือนแรกรวมเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและไทยทำได้กว่า 1 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 20% ของจีดีพีประเทศ เฉพาะกรุงเทพมหานครมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากว่า 21.5 ล้านคน ได้รับการจัดอันดับโดยมาสเตอร์การ์ดว่าเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก