เจ้าหนี้ 'เอิร์ธ' ไร้ทางออก

เจ้าหนี้ 'เอิร์ธ' ไร้ทางออก

เจ้าหนี้“เอิร์ธ”ไร้ทางออก หุ้นกู้ 1.5 พันล้านผิดนัดจ่ายดอกเบี้ยก้อนแรก ตลาดจ่อขึ้นเอสพียาวย้ำไม่ขยายอายุสัญญาฟิวเจอร์ส

แบงก์เจ้าหนี้เอิร์ธแจงหารือร่วมกับบริษัทไม่มีข้อสรุป ต้องระงับเงินกู้ไว้ก่อน ขณะที่หุ้นกู้ล็อตแรก 1.5 พันล้านผิดนัดจ่ายดอกเบี้ยแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ ส่งสัญญาณจ่อขึ้นเอสพียาว ยันไม่มีนโยบายขยายเวลาสัญญาซื้อขายฟิวเจอร์สเชื่อผู้ลงทุนรับรู้ความเสี่ยงอยู่แล้ว โบรกร้องขอขยายสัญญาหวั่นนักลงทุนเสียหาย 

แหล่งข่าวจากธนาคารเจ้าหนี้บริษัท เอ็นเนอร์ยี เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) EARTH กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทเอิร์ธ ได้เชิญธนาคารเจ้าหนี้ไปหารือพร้อมกัน แต่ผลการหารือยังไม่ได้ข้อสรุป ก็ต้องคุยกันต่อ ซึ่งในฝั่งของธนาคารเจ้าหนี้คงจะมาดูเรื่องแนวทางการจัดการปัญหาให้สอดคล้องกัน เหมือนกับการแก้ไขปัญหาหนี้ปกติ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ หรือรายเล็กต้องดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะทุกคนก็ไม่อยากให้มีความเสียหายเกิดขึ้น

ทั้งนี้เมื่อดูพื้นฐานบริษัทแล้วยังดี น่าจะมีการเติบโตต่อไปได้ แต่ปัญหาหลักอยู่ที่เรื่องสภาพคล่อง และตั๋วบีอีที่ครบกำหนดชำระ จะแก้ปัญหาอย่างไร เพราะแม้ว่าธุรกิจยังดี มีกำไร แต่กว่าจะนำเงินกำไรออกมาได้ ก็ต้องใช้เวลานาน

“ที่ผ่านมาแบงก์เจ้าหนี้ก็ระงับการใช้วงเงินกู้ไปแล้ว รวมถึงวงเงินกู้หมุนเวียนด้วย และก็ยังระงับต่อไป จนกว่าจะมีความชัดเจน ส่วนจะมีการหาเจ้าหนี้รายใหม่มาเทคโอเวอร์หรือไม่นั้น คงบอกไม่ได้ เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก อย่างไรก็ตามทางธนาคารก็ยังไม่ได้มีการจัดชั้นหนี้ของเอิร์ธใหม่แต่อย่างใด”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(19มิ.ย.) ถือเป็นวันครบกำหนดที่ เอิร์ธ ต้องจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ชุดวงเงิน 1,500 ล้านบาท ซึ่งออกเมื่อปี 2558 โดย เอิร์ธ ไม่สามารถที่จะชำระดอกเบี้ยของหุ้นกู้ชุดนี้ได้ ซึ่งตามเงื่อนไขยังมีเวลาอีก 3 วันที่ เอิร์ธ ต้องชำระดอกเบี้ยในส่วนนี้ หากไม่สามารถชำระได้ เท่ากับว่าหุ้นกู้ชุดนี้จะผิดนัดชำระทั้งก้อน ส่งผลให้เจ้าหนี้หุ้นกู้ สามารถที่จะเรียกร้องให้ เอิร์ธ เปิดประชุมผู้ถือหุ้นกู้เพื่อหาแนวทางในการชำระหนี้ก้อนดังกล่าวได้

สำหรับหุ้นกู้ ล็อตนี้มีดอกเบี้ยจ่ายที่ 4.9% และมีเงื่อนไขว่า เมื่อเกิดกรณีผิดนัดชำระหนี้ขึ้น ผู้ถือหุ้นกู้ที่มีสัดส่วน 25% ขึ้นไปสามารถออกหนังสือให้ เอิร์ธ เปิดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ได้ ซึ่งที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้อาจลงมติให้เงินก้อนนี้ถึงกำหนดชำระโดยพลัน

เมื่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้มีมติให้เงินต้นครบกำหนดชำระแล้ว เอิร์ธ มีหน้าที่ต้องดำเนินการชำระหนี้ หากไม่ชำระหนี้ภายใน 7 วันทำการ นับแต่วันที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ผู้ถือหุ้นกู้มีสิทธิทำหนังสือไปยัง เอิร์ธ เพื่อฟ้องร้องบังคับชำระหนี้ตามหุ้นกู้ที่ค้างชำระได้ภายใน 14 วัน นับจากวันที่ผู้ถือหุ้นกู้ได้มีหนังสือแจ้งไปยังเอิร์ธ

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์  กล่าวว่าการที่หุ้นเอิร์ธถูกขึ้นเครื่องหมายห้ามซื้อขาย(เอสพี)นั้น ส่งผลกระทบถึงสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงหุ้นเอิร์ธ โดยต้องหยุดพักการซื้อขาย และถ้าหุ้นเอิร์ธไม่สามารถเปิดซื้อขายหุ้นได้ภายใน 30มิ.ย.นี้ จะทำให้ ฟิวเจอร์สอ้างอิงเอิร์ธ รุ่น EARTHM17จะครบกำหนดทันที 

“ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถกลับมาทำการซื้อขายได้ก่อนหมดอายุสัญญา ตลาดหลักทรัพย์จะทำตามกฎเกณฑ์ก็คือจะใช้ราคาล่าสุดของการซื้อขายเพื่อใช้อ้างอิงในการส่งมอบ การดำเนินการดังกล่าวจะเป็นลักษณะเดียวกันกับใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ หรือ ดีดับบลิว ที่หมดอายุก็ใช้รูปแบบเดียวกันในการดำเนินการ ซึ่งเบื้องต้นตลาดหลักทรัพย์จะไม่มีการขยายอายุสัญญาออกไป ”

ทั้งตลาดเชื่อว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ลงทุนฟิวเจอร์สมีไม่มาก เนื่องจากนักลงทุนรับทราบความเสี่ยงมาก่อนแล้ว 

อย่างไรก็ตาม บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานว่า สัญญาซื้อขายล่วงหน้าอ้างอิงหุ้นรายตัวของเอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ  EARTHM17 เดือนที่จะหมดอายุสัญญา มิ.ย.2560 มีสัญญาคงค้าง 15,271 สัญญา ในขณะที่ EARTHU17 สัญญาหมดอายุเดือน ก.ย. 2560 มีสถานะคงค้างที่ 21,357 สัญญา EARTHZ17 หมดอายุธ.ค. 2560 มีสถานะคงค้างที่ 24,795 สัญญา และ EARTHH18 สัญญาหมดอายุ มี.ค. 2561 มีสถานะคงค้าง 1,400 สัญญา

แหล่งโบรกเกอร์กล่าวว่า การขึ้นเอสพีหุ้นเอิร์ธ มีผลกระทบกับนักลงทุนในตลาดฟิวเจอร์ส เนื่องจากไม่ได้ทราบว่าหุ้นอ้างอิงจะถูกขึ้นเอสพี และผู้ลงทุนที่ได้รับผลกระทบมากสุดคือกลุ่มที่ใช้บริการบ็อกซ์เทรด ดังนั้นสิ่งที่ตลาดควรดำเนินการคือการขยายอายุสัญญาอ้างอิงหุ้นเอิร์ธออกไปจนกว่าหุ้นจะกลับมาซื้อขายได้ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์กับโบรกเกอร์อยู่ระหว่างหาทางออกคาดว่าจะชัดเจนภายในสัปดาห์นี้