วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (19 มิ.ย.60)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (19 มิ.ย.60)

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มเล็กน้อย หลังผู้ผลิตบางรายส่งสัญญาณลดการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบ

+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังคาซัคสถาน หนึ่งในผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปค เตรียมปรับลดกำลังการผลิตในเดือน มิ.ย. - ก.ค. ให้ลดลงมาอยู่ที่ระดับที่ได้ตกลงไว้ที่ประมาณ 1.68 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังก่อนหน้านี้ได้ทำการผลิตสูงกว่าโควต้าที่กำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือนติดต่อกัน ซึ่งสอดคล้องกับซาอุดิอาระเบียที่ได้มีการประกาศลดการส่งออกน้ำมันดิบไปยังบางประเทศในเอเชีย สหรัฐ และยุโรป ในเดือน ก.ค.

+ กองทุนเฮดจ์ฟันด์ (Hedged Fund) ปรับลดเงินลงทุนกว่า 400 ล้านดอลลาร์ ในบริษัทผู้ผลิตน้ำมันดิบชั้นหินดินดาน (Shale Oil) ที่เน้นการลงทุนในแหล่ง Permian หลังกังวลการเร่งผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นคาดจะส่งผลกระทบต่อกำไรของผู้ผลิตด้วยเช่นกัน

-/+ การขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐ ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกว่า 22 สัปดาห์ติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม ทิศทางการเพิ่มขึ้นเริ่มชะลอตัวลงหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงมาสู่ระดับต่ำสุดในรอบปีจากความกังวลปัญหาอุปทานล้นตลาด โดย Baker Hughes รายงาน จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด วันที่ 19 มิ.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 6 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 747 แท่น

- ภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดยังคงมีแนวโน้มส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบต่อเนื่อง หลังลิเบียและไนจีเรีย ผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกซึ่งได้รับการยกเว้นจากการปรับลดกำลังการผลิต เพิ่มกำลังการผลิตขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดลิเบียเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นมาที่ระดับ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในสิ้นเดือน ก.ค. จากปัจจุบันที่ 830,000 บาร์เรลต่อวัน โดยผลจากภาวะอุปทานล้นตลาด ส่งผลให้ Traders ได้ใช้เรือน้ำมันดิบขนาดใหญ่ (VLCC) ซึ่งสามารถเก็บน้ำมันดิบได้ 2 ล้านบาร์เรล ประมาณ 10 ลำเพื่อกักเก็บน้ำมันดิบในแถบสิงคโปร์และมาเลเซีย


ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันตลาดน้ำมันเบนซินสหรัฐ ที่อ่อนตัวลง ส่งผลให้ยุโรปส่งออกน้ำมันเบนซินมายังตลาดเอเชียแทนสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเบนซินยังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่สิงคโปร์ที่ปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 7 เดือน

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อจากอินเดีย เวียดนาม และศรีลังกา นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่สิงคโปร์ที่ปรับลดลงมาอยู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์


ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

        ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 43-48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

        ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 45-50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล


ปัจจัยที่น่าจับตามอง

- ภาวะอุปทานน้ำมันดิบส่วนเกินยังคงส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบต่อเนื่อง แม้ว่าโอเปคจะสามารถตกลงยืดระยะเวลาข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือน หลังกำลังการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 835,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากแหล่งผลิตน้ำมันดิบ Sharara เปิดดำเนินการ และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในไนจีเรียที่เพิ่มขึ้น หลังน้ำมันดิบ Forcados กำลังการผลิตราว 200,000-250,000 บาร์เรลต่อวัน กลับมาดำเนินการส่งออก

- ความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปในสหรัฐ อ่อนตัวลงในช่วงฤดูกาลขับขี่ของสหรัฐ โดยอุปสงค์น้ำมันเบนซินในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลงกว่าร้อยละ 3.8 จากปีก่อนหน้า ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐ สิ้นสุด ณ วันที่ 9 มิ.ย. 2560 เพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 242.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีประมาณ 19.4 ล้านบาร์เรล

- ปริมาณการน้ำมันดิบของสหรัฐ คาดจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐ เพิ่มการขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่อง โดย Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด 16 มิ.ย. 2560 ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 22 สัปดาห์ติดต่อกันมาสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 747 แท่น ส่งผลให้สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดในปี 2560 ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ คาดจะปรับเพิ่มขึ้น 430,000 บาร์เรลต่อวันจากปีก่อนหน้า และจะเติบโตขึ้นต่อเนื่องกว่า 780,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2561

----------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)

โทร.02-797-2999