MORNING CALL ACTION NOTES (19 มิ.ย.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (19 มิ.ย.60)

รีบาวด์ขึ้นต่อ

ตลาดหุ้นไทยวันก่อนปรับตัวขึ้นเล็กน้อยตามแรงซื้อกลุ่มหุ้นที่มีประเด็นข่าวรายตัว รวมถึงแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง – เล็ก อย่างไรก็ตามความกังวล Fund Flow ที่ผันผวนยังเป็นแรงกดดัน ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,576.58 จุด (+3.05 จุด) ด้วย Vol. 4 หมื่นลบ.โดย Foreign Net +1,002 ลบ. TFEX Net +12,506 สัญญา และตลาดตราสารหนี้ -957 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ คาดการประชุมครม.พรุ่งนี้จะสรุปแนวทางใช้ ม.44 แก้ปมใช้ที่ดินผลิตปิโตรเลียม-ทำเหมือง-พลังงานทดแทน

+/- ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน แม้ว่าตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนพ.ค. -5.5%MoM สู่ 1.09 ล้านยูนิต , ดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นของผู้บริโภคสหรัฐเดือนมิ.ย.ปรับตัวลงสู่ระดับ 94.5

+/- ราคาน้ำมันรีบาวด์ขึ้นเล็กน้อยล่าสุด 44.7 US/Barrel จากแรงเก็งกำไร แม้ว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 6 แท่น สู่ 747 แท่น ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 22 ติดต่อกัน

+/- Fund Flow ต่างชาติผันผวนตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย.เป็น Net Sell ราว 3.8 พันลบ. อย่างไรก็ตามเงินบาทยังแข็งค่าล่าสุด 33.9 Bath/USD

+/- สัปดาห์นี้จีนลุ้น MSCI นำหุ้น A share เข้ารวมคำนวณดัชนี MSCI Emerging Markets Index

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้ปัจจัยบวกจากความคาดหวังครม.จะสรุปแนวทางการใช้ม.44 แก้ปมใช้ที่ดินผลิตปิโตรเลียม รวมถึง Sentiment เชิงบวกกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันรีบาวด์ขึ้น อย่างไรก็ตาม Fund Flow ที่ผันผวนยังคงเป็นแรงกดดันดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะดีดตัวขึ้นในกรอบจำกัดบริเวณแนวต้าน 1,580 – 1,585 จุด

กลยุทธ์การลงทุน ซื้อเก็งกำไรแบบ Selective Buy

- VTE-QTC-ECF ร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 220 MW ในเมียนมา พร้อม COD ใน Q1/61

- BSR (บ.ร่วม BTS STEC RATCH) เซ็นสัญญารับงานรถไฟฟ้าสีชมพู-เหลือง วงเงินรวม 9.24 หมื่นล้านบาท

- TVO ราคาน้ำมันถั่วเหลืองดีดตัวขึ้น +7% YTD ล่าสุด 33.3 US/Bushel

- กลุ่มรับเหมาและสายการบินได้ประโยชน์ต้นทุนราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง

- หุ้นที่เข้าคำนวณรอบใหม่ (มีผล 1 ก.ค. – 31 ธ.ค.2560 )

        SET50 ได้แก่ BJC BPP EA MTLS RATCH SCCC TISCO

        SET100 ได้แก่ ANAN BCPG BJC BPP EA GFPT MALEE MEGA MONO PTL RATCH SCCC WORK

        SETHD ได้แก่ ANAN KBANK LHBANK ROBINS



หุ้นแนะนำพิเศษ

SYNTEC (ราคาปิด 5.00 แนะนำซื้อ ราคาเหมาะสม 6.27)

- ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 60 ขึ้น 33% สู่ระดับ 1 พันล้านบาทเติบโต 15%YoY เนื่องจากบริษัทสามารถบริหารต้นทุนได้ดีส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น 1Q60 เพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 20% (อัตรากำไรขั้นต้นปี 59 อยู่ที่ 17%) และคาดว่าจะทรงตัวได้ทั้งปี

- เตรียมขยายฐานรายได้ Recurring income โดยกำลังเจรจาเพื่อลงทุนในรีสอร์ท 1 แห่งมูลค่าราว 700-2,000 ล้านบาท จากในปัจจุบันที่มีเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ 3 แห่งมีห้องพักรวม 434 ห้อง และเป็นเจ้าของ 1 โครงการมิกซ์ยูส The 8 Thonglor (ถือหุ้น 60%) มีพื้นที่ค้าปลีก 6 พันตร.ม.


หุ้นมีข่าว

- (+) PTT (ราคาปิด 379 Bloomberg Consensus 422.88) ปรับเพิ่มงบลงทุนปี 60 เป็น 9.4 หมื่นลบ.จาก 8.37 หมื่นลบ.หลังเพิ่มแผนลงทุนหาโอกาสในห่วงโซ่ LNG

- (+) BBL (ราคาปิด 180 ซื้อเมื่ออ่อนตัว ราคาเหมาะสม 192) ผู้บริหารมั่นใจสินเชื่อปีนี้โต 5% ตามเป้า รับปีนี้โตได้จากรายใหญ่ ย้ำเน้นปล่อยแบบระมัดระวัง แม้ว่าในช่วง 4 เดือนแรกสินเชื่อยังหดตัว โดยการเติบโตจากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่เป็นหลัก ที่เป็นจุดแข็งของธนาคาร โดยคาดว่าสินเชื่อจะเริ่มขยายตัวในช่วงครึ่งหลังของปีที่มีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล

   ความเห็น ในช่วงนี้จะได้รับข่าว BBL เป็นผู้สนับสนุนเงินกู้โครงการใหญ่ๆ ได้แก่ กลุ่ม BSR ที่เป็นผู้รับสปทานในโครงการรถไฟฟ้าสายสีขมพูและสายสีเหลือง และปล่อยกู้วงเงินสินเชื่อ 2.2 พันล้านบาท ให้กับ “สิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล” ในการเข้าซื้อหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิบางส่วนจากผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีในการปล่อยสินเชื่อ ทั้งนี้ 4M60 สินเชื่อหดตัวเล็กน้อย 0.68%YTD ซึ่งเราคาดจะเห็นการปล่อยสินเชื่อเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

- LHHOTEL เข้าเทรดหน่วย ทรัสต์เพิ่มเติม 20 มิ.ย.นี้ หลังนักลงทุนให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนส่งผลให้ปิดการขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ชูศักยภาพ "โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์พอยต์ ราชดำริ" แข็งแกร่งมีอัตราเข้าพักในไตรมาส 1/60 ที่ผ่านมาอยู่ที่ร้อยละ 90 เชื่อทรัสต์ LHHOTEL จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน จากการให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า (ที่มา ทันหุ้น)

   ความเห็น : LH ได้ประโยชน์ในแง่ของการบันทึกกำไรจากการขายสินทรัพย์ เนื่องจากถือหุ้น 60% ในบจ.แอลแอนด์เอช พร็อพเพอร์ตี้ที่เป็นเจ้าของโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ ซึ่งคาดว่าจะบันทึกรายการพิเศษที่เป็นกำไรก่อนภาษีราว 900 – 1,000 ลบ.ในช่วง 2Q60 นี้ ซึ่งเป็นอัพไซต์จากประมาณการกำไรปกติที่ราว 8.5 พันล้านบาท +5%YoY ทำให้กำไร 2Q60 มีแนวโน้มเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากระดับ 2.6 พันลบ.ใน 2Q59 และ 1.8 พันลบ. ใน 1Q60

- (+) CHEWA เล็งเปิด 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 7.7 พันลบ.ใน H2/60 เชื่ออสังหาฯยังสดใส

- ประเด็นบวกกลุ่มรับเหมา - "สมคิด"คาดรถไฟฟ้า 3 เส้นเข้าครม.ก่อนสิ้นปีนี้, ได้ตัวผู้รับเหมาฯรถไฟทางคู่ครบ 5 เส้นทางใน ส.ค.60

- EIC จะเพิ่มทุน 5.36 พันล้านหุ้น ส่วนใหญ่ขายผถห.เดิม 1:5 หุ้นละ 0.15 บ. พร้อมแถมวอร์แรนต์

- STAR จะขายหุ้นทั้งหมด 100% ใน StarT มูลค่ารวม 150 ลบ. คาดแล้วเสร็จในมิ.ย.


สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +24.38 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,384.28 จุด เพิ่มขึ้น 24.38 จุด หรือ +0.11% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,433.15 จุด เพิ่มขึ้น 0.69 จุด หรือ +0.03% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,151.76 จุด ลดลง 13.74 จุด หรือ -0.22% นำโดยการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากมีรายงานว่า อเมซอนประกาศแผนซื้อกิจการโฮลฟู้ด อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ซบเซา

ตลาดน้ำมัน NYMEX +0.28 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.63% ปิดที่ 44.74 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากราคาน้ำมันปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วัน

ส่องหุ้น

- UV แนวรับ 8.90-8.85 บาท แนวต้าน 9.20-9.25 , 9.55 บาท

- ระดับราคาเริ่มดีดกลับขึ้นมาได้อีกครั้งโดยมีวอลุ่มซื้อขายสูงมากและระดับราคาสามารถประคองตัวปิดได้ในระดับสูงของวัน ซึ่งเป็นการทำ New high ในรอบสัปดาห์อีกด้วย ประกอบกับ MACD ละ RSI ที่กำลังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หากวันนี้ระดับราคาอ่อนตัวกลับลงมาไม่หลุดปิดต่ำกว่าแถวๆ 8.90-8.85 บาทซะก่อน ระดับราคามีโอกาสดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ เส้น BollingerTop ที่ 9.20-9.25 บาท โดยมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 9.55 บาท

- PPS แนวรับ 1.52 บาท แนวต้าน 1.57 , 1.61-1.62 บาท

- ระดับราคาเริ่มดีดกลับขึ้นมาทำ New high ต่อเนื่องหลังจากไม่หลุดลงมาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันที่ 1.50 บาทจึงมีแรงซื้อกลับ ประกอบกลับมีวอลุ่มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแล้ว หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 1.52 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นปรับตัวขึ้นต่อได้แถวๆ 1.57 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบเส้น BollingerTop แถวๆ 1.61-1.62 บาทต่อไป

- AU แนวรับ 8.85-8.80 บาท แนวต้าน 9.05 , 9.25-9.35 บาท

- ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันได้แล้ว และเป็นการทำ New high ในรอบสัปดาห์ ประกอบกับวอลุ่มซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย และ MACD กำลังจะผ่านขึ้นยืนเหนือศูนย์อีกด้วย หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 8.85-8.80 บาทซะก่อน ระดับราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้แถวๆ 9.05 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบ 3 สัปดาห์และเส้น BollingerTop แถวๆ 9.25-9.35 บาทต่อไป