Daily Market Outlook (19 มิ.ย.60)

Daily Market Outlook (19 มิ.ย.60)

สัปดาห์แห่งการแสดงแผนยุทธศาสตร์ Thailand 4.0

คาดตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นวันนี้ก่อนงาน “Thailand’s Big Strategic Move” ที่จะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 22-23 มิ.ย. เพื่อชูแผนยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 ในการผลักดันการเติบโตของประเทศในช่วง 20 ปีข้างหน้า ปัจจัยเศรษฐกิจโลกค่อนข้างผสม ตลาดหุ้นสหรัฐปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อวันศุกร์เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ไม่ค่อยดีนักส่งผลให้นักลงทุนไม่แน่ใจโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในอนาคต นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่เด้งกลับเมื่อวันศุกร์ แต่ปรับตัวลงอีกครั้งเช้าวันนี้ ซึ่งอาจไม่ดีต่อหุ้นพลังงานมากนัก ชัยชนะของประธานาธิบดี Macron ในการคว้าเสียงข้างมากในรัฐสภาหนุนหุ้นยุโรป แต่ยังมีความไม่แน่นอนจากปัจจัยการเจรจาเรื่อง Brexitที่จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันนี้ และเรื่องที่ Therasa May จะจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้หรือไม่ ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ไม่ส่งผลต่ออารมณ์ตลาดเท่าใดนัก

หุ้นเด่นวันนี้:ANAN (ราคาปิด 5.40 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย 6.00 บาท)

บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ เป็น Pick of the day จากแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งในปี 2560 และปี 2561 จากมูลค่าหุ้นที่ Undervalued และอัตราเงินปันผลตอบแทนที่น่าประทับใจ ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ค่า PER เพียง 9.0 เท่า และอัตราเงินปันผลที่ประมาณ 4.0% ในปี 2560 โดยปีนี้ ANAN จะมีการเปิดโครงการใหม่ ยอด Presales และการโอนเป็นจำนวนมาก บริษัท มีแผนจะเปิดโครงการใหม่ 7 โครงการในไตรมาส 2/60 มูลค่ารวม 22.7 พันล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ช่วง 1H60 มีการเปิดตัวรวมเท่ากับ 26.2 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 63% ของเป้าหมายปี 2560 ใน 17 โครงการ มูลค่ารวม 41.8 พันล้านบาท บริษัทตั้งเป้ายอด Presales ปี 2560 เท่ากับ 30.4 พันล้านบาท (+ 21% YoY) และ Backlog ณ สิ้นไตรมาส 1/60 เท่ากับ 42.4 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 3% QoQและ 11% YoY ซึ่ง Backlog ที่สูงนี้จะช่วยให้บริษัทมีรายได้ที่สูงเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องในช่วง 3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้เราคาดว่าจะมียอดโอนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2560 ได้แก่ โครงการไอดีโอคิวสยาม - ราชเทวีมูลค่า 3.9 พันล้านบาท กำหนดเริ่มโอนในไตรมาส 3/60 และแอสตัน-อโศกมูลค่า 6.7 พันล้านบาทในไตรมาส 4/60 เชื่อว่าดีมานด์ดี ทำเลยอดเยี่ยม คาดว่าไม่น่าจะมียอดตกค้างสำหรับการโอนโครงการหลักเหล่านี้ ANAN ตั้งเป้าหมายยอดโอนในปี 2560 ไว้ 25 พันล้านบาท (+ 58% YoY) ซึ่ง 48% เป็นโครงการของ ANAN เอง และอีก 52% เป็นกิจการ JV ของ ANAN และ Mitsui Fudosan เราคาดว่ายอดโอนประมาณ 60% ของเป้าหมายทั้งปีจะไปตกอยู่ในช่วงไตรมาส 4/60 เรายังคงแนะนำซื้อ ANAN โดยมีราคาเป้าหมายที่ 6.0 บาท อิงจากประมาณการEPS ปี 2560 ที่ 0.60 บาท/หุ้น (+44% YoY) ในขณะที่เราประเมิน EPS ในปี 2561 เท่ากับ 0.88 บาท/หุ้น (+46% YoY) Price Pattern ของ ANAN มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal บ่งบอกถึงการทำ New High ครั้งใหม่ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 5.90 บาท มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 5.25 บาท (Resistance: 5.45, 5.50, 5.65; Support: 5.35, 5.30, 5.15)

ปัจจัยสำคัญ

ประเด็นในประเทศ:

• นายกฯ นำทีมเศรษฐกิจแถลง Thailและ's Big Strategic Move ในวันที่ 22-23 มิ.ย.นี้ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประเด็นหลักได้แก่แผนกลยุทธ์หลักของประเทศภายใต้ประเทศไทย 4.0 เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศในช่วง 20 ปีข้างหน้า ซึ่งรวมถึงแผนขยายการลงทุนใน 10 คลัสเตอร์สำหรับระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) จุดสำคัญคือมีการพบกันเป็นการส่วนตัวกับกองทุนระดับโลก 20 กองทุนซึ่งมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการรวมแล้วถึง 7.66 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อชี้แจงให้ผู้จัดการกองทุนได้เข้าใจโอกาสของประเทศอย่างเต็มที่ (SET)

• สมคิดตั้งเป้าโครงการโครงสร้างพื้นฐานกว่า 2.4 ล้านล้านบาท รองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กล่าวว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันคาดจะเห็นชอบโครงการโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าทั้งหมด 2.4 ล้านล้านบาท ก่อนที่รัฐบาลชุดต่อไปจะเข้ามาบริหาร โดยการก่อสร้างโครงการเหล่านี้คาดว่าจะเริ่มได้ในช่วง 4-5 ปีข้างหน้า (Bangkok Post)

• ธนาคารโลกชี้ควรเปิดประมูลรถไฟไทย-จีน หลังจากที่นายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประกาศใช้มาตรา 44 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาให้ รฟท. จ้างรัฐบาลจีนในการควบคุมการก่อสร้างโครงการดังกล่าว โดยนายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของเวิลด์แบงก์เห็นว่าการเปิดประมูลจะช่วยหนุนความโปร่งใส รวมถึงทำให้รัฐสามารถเปรียบเทียบต้นทุนและเทคโนโลยีจากผู้ประมูลหลายๆ รายได้ (Bangkok Post)

• เพิ่ม/ลดหุ้นใน SET50 และ SET100 สำหรับงวดครึ่งปีหลังปี 60 BJC, BPP, EA, MTLS, RATCH, SCCC และ TISCO ได้เพิ่มลงไปในดัชนี SET50 และ BA, BCP, CENTEL, CK, PTG, THAI และ WHA ได้ถูกเอาออกจากดัชนี SET50 ANAN, BCPG, BJC, BPP, EA, GFPT, MALEE, MEGA, MONO, PTL, RATCH, SCCC และ WORK ได้เพิ่มลงไปในดัชนี SET100 และ HANA, ICHI, IFEC, KAMART, RS, SAMART, SCN, SGP, SPCG, TTCL, TTW, VIBHA และ VNG ได้ถูกเอาออกจากดัชนี SET100. (SET)

• ยอดเช็คเด้งขยับพ.ค.เพิ่มขึ้น 29% ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่า เดือน พ.ค. 2560 ทั่วประเทศมียอดเช็คเด้งขยับพ.ค.เพิ่มขึ้น 29% จากเดือนก่อนหน้า (โพสต์ทูเดย์)

ต่างประเทศ:

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงขึ้นเมื่อวันศุกร์ โดยพันธบัตรที่กำหนดไถ่ถอนปรับตัวลงเมื่อเทียบรายสัปดาห์หลังข้อมูลอสังหาอ่อนแอกว่าที่คาดได้ก่อให้เกิดข้อกังขาว่าเฟดจะยังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ได้อีกหรือไม่ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปิดที่ระดับ 2.155% ลดลงจากระดับ 2.162% เมื่อวันพฤหัส อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีปิดที่ระดับ 1.319% ลดลงจากที่ระดับ 1.355% เมื่อวันพฤหัส (Reuters)

• ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากข้อมูลอสังหาอ่อนแอและความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำกว่าที่คาดทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลง 0.3% สู่ระดับ 97.126 และลดลง 0.14% ในสัปดาห์ก่อน เงินยูโรแข็งค่า 0.4% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1191 ดอลลาร์สหรัฐ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ไม่สดใสทำให้เงินเยนแข็งค่า ซึ่งก่อนหน้าได้อ่อนค่าสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์เทียบกับดอลลาร์สหรัฐหลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่นคงนโยบายทางการเงิน ซึ่งแตกต่างจากเฟด เงินเยนปิดแข็งค่า 0.12% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 110.78 เยน (Reuters)

สหรัฐ:

• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากอเมซอนดอทคอมจะเข้าซื้อเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตออร์แกนิค โฮลฟู้ด มาร์เก็ต อิงค์ ด้วยวงเงิน 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐส่งผลต่อหุ้นค้าปลีก แต่กลับมีแรงขายในหุ้นวอลมาร์ทและทาร์เก็ต หุ้นกลุ่มพลังงานหนุนให้ดัชนี S&P500 และดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ในขณะที่หุ้นแอปเปิลฉุดดัชนีแนสแดค (Reuters)

• ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านสหรัฐร่วงลง 5.5% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.09 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นสูงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนถึงระดับ 1.22 ล้านยูนิต(Reuters)

• ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐลดลงเกินคาดในช่วงต้นเดือนมิ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นของมหาวิทยาลัยมิชิแกนในเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 84.7 ต่ำกว่าประมาณการของตลาดที่ 87.5 และดัชนีฯ ในเดือนพ.ค. ที่ระดับ 87.7 (Reuters)

ยุโรป:

• หุ้นยุโรปเด้งกลับหลังจากปรับตัวลงในช่วง 2 วันก่อนหน้า เนื่องจากหุ้นกลุ่มการเงินฟื้นตัว หนุนโดยสถานการณ์หนี้ของกรีซที่ผ่อนคลายลง (Reuters)

• ประธานาธิบดี Emmanuel Macron คว้าเสียงข้างมากในการเลือกตั้ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เขามีอำนาจอย่างมากในการผลักดันการปฏิรูป (Reuters)

• คาดสถานการณ์หนี้ผ่อนคลายมากขึ้น โดยรัฐบาลยุโรปเสนอวงเงินสินเชื่อแก่กรีซจำนวน 8.5 พันล้านยูโร (9.5 พันล้านดอลลาร์) เมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา และสถานการณ์ดูคลี่คลายมากขึ้นไปอีกเนื่องจาก IMF ได้เสนอความช่วยเหลือแก่กรีซอีกด้วย หลังจากที่ลังเลในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (Reuters)

เอเชีย:

• นโยบายการคลังของ BOJ ยังคงที่ในวันศุกร์และมีการปรับประมาณการการบริโภคภาคเอกชนและการเติบโตในต่างประเทศส่งสัญญาณถึงความเชื่อมั่นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยการส่งออกมีการขยายตัวได้ดี BOJ คงแนวทางในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ลบ 0.1% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีที่ศูนย์ คงสัดส่วนการถือครองพันธบัตรต่อไป 729.33 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี (Reuters)

• ผู้นำของกลุ่ม AIIB ที่ได้รับการสนับสนุนจากจีนให้การต้อนรับสมาชิกและความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในที่ประชุมประจำปี AIIB ซึ่งมีประเทศสมาชิก 80 ประเทศได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยตอบสนองความต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 26,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเอเชียผ่าน 2573 สหรัฐฯและญี่ปุ่นยังไม่ได้เข้าร่วม AIIB (Reuters)


สินค้าโภคภัณฑ์:

• ราคาน้ำมันดีดกลับจากจุดต่ำสุดรอบปี เพราะผู้ผลิตบางรายลดการส่งออกและจำนวนแท่นขุดเจาะเพิ่มขึ้นในอัตราที่แผ่วลง แต่การดีดกลับก็ยังไม่มากและรายสัปดาห์น้ำมันดิบยังลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 เพราะความกังวลเรื่องอุปทานโลกล้นเกิน น้ำมันดิบเบรนท์บวก 45 เซนต์ปิดที่ 47.37 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าบวก 28 เซนต์ ปิดที่ 44.74 ดอลลาร์/บาร์เรล รายสัปดาห์แล้วลดลงเกิน 1.6% ทั้งคู่ (Reuters)

• ทองคำเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยวันศุกร์ เพราะนักลงทุนประเมินว่าแรงขายจากเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยจะมีต่อไปและดอลลาร์อ่อนลงเพราะตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอ ทองคำตลาดจรบวก 0.1% ปิด 1,254.24 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ลงไปแตะ 1,251.05 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ต่ำสุดนับแต่ 24 พ.ค. ทองคำสหรัฐล่วงหน้าส่งมอบ ส.ค. บวก 0.2% ปิดที่ 1,256.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)