วีทิสตร้า'อิงวิจัยรัฐประกันคุณภาพ

วีทิสตร้า'อิงวิจัยรัฐประกันคุณภาพ

กระแสรักสุขภาพ ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและปลอดเคมี เปิดโอกาสให้เวชเครื่องสำอางสัญชาติไทยเข้าชิงส่วนแบ่งตลาดเครื่องสำอางมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท

กระแสรักสุขภาพ ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและปลอดเคมี เปิดโอกาสให้เวชเครื่องสำอางสัญชาติไทยเข้าชิงส่วนแบ่งตลาดเครื่องสำอางมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท อัตราเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี เช่นเดียวกับ “วีทิสตร้า” อิงงานวิจัยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) การันตีมาตรฐานความปลอดภัยและประสิทธิภาพ สร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้า เตรียมร่วมงานคอสเมติค วัลเลย์ ฝรั่งเศส ปลายปีนี้


สมการความเชื่อมั่น


นายธัชพล เกียรติวิชชุกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทคอสซูติค อินโนเวชั่น แลบอราทอรี่ส์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาสูตรเวชสำอางจากสารสกัดธรรมชาติ ทั้งยังประยุกต์ใช้นาโนเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสู่ใต้ผิวหนัง ล่าสุดเพิ่งเซ็นสัญญากับ วว.เพื่อรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์เวชสำอางนาโนเอสเซ้นท์เซรั่มวีทิสตร้า บำรุงผิวหน้าจากสารสกัดโอลิโกเมอริกโปรแอนโธรไซยานิดินในเมล็ดองุ่นสายพันธุ์ “ป๊อกดำ” ทั้งใช้อนุภาคนาโนมาพัฒนาสูตรปราศจากน้ำมัน เหมาะกับผู้ที่เป็นสิวหรือผู้ชายที่ไม่ชอบทาครีมแต่ต้องการบำรุงผิว
“จุดเด่นคือไม่มีโรงงานไหนสามารถผลิตได้นอกจากศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร วว. ที่พร้อมทั้งอุปกรณ์และผู้เชี่ยวชาญ ที่สำคัญคือ การใช้บริการหน่วยงานภาครัฐเหมือนกับการสร้างแบรนด์เพราะสามารถการันตีถึงคุณภาพและความปลอดภัยได้อย่างชัดเจน ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นโดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์เวชสำอาง”


ที่ผ่านมา ผู้บริโภคส่วนหนึ่งอาจยึดติดกับแบรนด์นำเข้า แต่ปัจจุบันเริ่มมีผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพ มาตรฐานและประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้ นอกจากร่วมวิจัยพัฒนาสูตรกับ วว.แล้ว บริษัทยังนำเสนอสินค้าเข้าร่วมโครงการแปลงเทคโนโลยีเป็นทุนโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ซึ่งเป็นกลไกสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบการทำวิจัยสร้างสิ่งใหม่ โดยมีหลักเกณฑ์คือ ต้องเป็นนวัตกรรมที่มีความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใครในโลก ทั้งยังได้รับคัดเลือกจากศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ หรือทีเซลส์ เพื่อไปร่วมงานคอสเมติค วัลเลย์ ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้


“เรามีบริษัทแม่เป็นโรงงานผู้ผลิตเครื่องสำอาง และได้แยกตัวตั้งบริษัทขึ้นใหม่เพื่อทำงานวิจัยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ มหาวิทยาลัย ในการพัฒนาส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ถือเป็นการต่อยอดงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ที่เน้นเรื่องความปลอดภัย มีสิทธิบัตรและประสิทธิภาพ ในอนาคตมีแผนจะรับจ้างผลิตให้กับผู้ที่สนใจทำแบรนด์เครื่องสำอางที่มีสิทธิบัตรรองรับเหมือนกัน” นายธัชพลกล่าว

เปิดตลาดต่างประเทศไม่ยาก


คอสซูติค อินโนเวชั่นฯ มีรายได้ 12 ล้านบาทต่อปี ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 18 ล้านบาทในปีนี้ ผลจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และรางวัลที่ได้รับ อีกทั้งปีที่ผ่านมาได้ร่วมออกงานแสดงสินค้าหนานหนิง ประเทศจีน ปรากฏว่า ปีนี้เริ่มมียอดการสั่งซื้อเข้ามา คาดว่าสัดส่วนรายได้จากในประเทศ 70% ที่เหลือ 30% มาจากการส่งออก ส่วนช่องทางขายในประเทศจะเน้นออนไลน์เป็นหลัก 95% ที่เหลือ 5% เป็นคลินิกต่างๆ โดยวางกลุ่มลูกค้าหลักเป็นเพศหญิงอายุ 28 ปีขึ้นไป


“ขณะนี้อยู่ระหว่างหาผู้แทนจำหน่ายในมาเลเซีย อินโดนีเซีย เพื่อกระจายสินค้าเข้าไปในร้านค้า เพราะผู้บริโภคในสองประเทศนี้ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ของไทย เหมือนกับที่คนไทยชื่นชอบผลิตภัณฑ์จากเกาหลี ญี่ปุ่น และอนาคตจะขยายสู่ช่องทางโมเดิร์นเทรด” นายธัชพลกล่าวและว่า การนำสินค้าไทยไปต่างประเทศไม่ยาก เพราะผลิตภัณฑ์ของไทยหลายอย่างมีศักยภาพ เพียงแต่ยังขาดช่องทางการประชาสัมพันธ์ ขาดหน่วยงานทำการทดสอบหรือพิสูจน์ประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์นั้นๆ ฉะนั้น หากสามารถพิสูจน์ได้ตามมาตรฐานก็มีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จในตลาดต่างประเทศ ยิ่งเป็นสินค้าที่มีนวัตกรรมก็จะสามารถไปได้ไกลยิ่งขึ้น


อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของบริษัทคือการขยายไปยังสารสกัดอื่นๆ เช่น สารสกัดจากมะขาม โปรไบโอติกจากจุลินทรีย์ ซึ่งเป็นกลุ่มทางเลือกใหม่ที่โซนยุโรปทำมานานเกี่ยวกับการหมักแต่ของไทยยังไม่ชัดเจนทางวิทยาศาสตร์ในแง่ของความปลอดภัยที่จะทำให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจ