ผู้จัดโลกเล็งปั้น‘ไทยแลนด์มาราธอน’ขึ้นชั้นเอเชีย

ผู้จัดโลกเล็งปั้น‘ไทยแลนด์มาราธอน’ขึ้นชั้นเอเชีย

ไทยเตรียมจับมือผู้จัดมาราธอนระดับโลก เจ้าภาพ “ไทยแลนด์ มาราธอน” ปั้นเทียบชั้นโกลด์เลเบลระดับเอเชีย ร่วมมือปิดเมืองรับนักวิ่ง 4 หมื่นคน สร้างรายได้สะพัด 400 ล้านบาท ททท.ร่วมปั้นกลุ่มสุขภาพพ่วงกีฬา กระตุ้นรายได้

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า มีแนวคิดในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาโดยผนวกรวมเข้ากับกลุ่มเวลเนส หรือ การดูแลสุขภาพ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความสนใจใกล้เคียงกัน นักกีฬาที่เดินทางมาแข่งขันปัจจุบันยังมีฐานตลาดไม่ถึง 1% แต่มีศักยภาพในเชิงการเติบโตสูงมาก และหากพ่วงจุดขายที่ไทยโดดเด่นอยู่แล้วในด้านการดูแลสุขภาพ เช่น การตรวจร่างกาย, ฟื้นฟูและชะลอวัย ก็น่าจะทำให้เกิดการจับจ่ายเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 4-5 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ฐานการคิดมาจากการคำนวณการใช้จ่ายของกลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่มีค่าใช้จ่ายต่อการเดินทางมาไทย 1 ครั้งอยู่ที่ 1 หมื่นบาท ส่วนการเล่นกีฬา เช่น กอล์ฟ มีค่าใช้จ่าย 7,000 บาท ดังนั้นต่อหัวจะเพิ่มได้เป็น 1.7 หมื่นบาท และหากเพิ่มกลุ่มนี้ได้ราว 3 ล้านคน หรือราว 9-10% ของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาทั้งหมดก็จะมีรายได้ราว 5 หมื่นล้านบาท

นอกจากนั้น จากการที่ ททท.กำลังเตรียมร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงอีก 4 หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการจัดการแข่งขัน “ไทยแลนด์ มาราธอน” ขึ้นเป็นครั้งแรก คาดว่าจะใช้การแข่งขันดังกล่าว เป็นหนึ่งในมหกรรมกีฬาที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพควบคู่กันไปด้วยอย่างเห็นผล เนื่องจากเป็นการแข่งขันขนาดใหญ่ที่ตั้งเป้าผู้เข้าร่วมงานไว้กว่า 4 หมื่นคน และผู้จัดงานตั้งใจจะยกระดับให้การแข่งขันที่กรุงเทพฯ รายการนี้ เป็นงานมาราธอนระดับเมเจอร์ของโลกในระยะยาว

สำหรับการแข่งขันไทยแลนด์ มาราธอน อยู่ระหว่างการเตรียมสรุปรายในช่วงสุดท้าย โดยอาจใช้ชื่อว่า “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน” ในการเปิดตัวต่อวงการนักวิ่งทั่วโลก ทั้งนี้ นอกจากจุดประสงค์เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติแล้ว ไทยจะมีข้อแลกเปลี่ยนกับผู้จัดงาน ซึ่งเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์จัดแข่งขันมาราธอนระดับเมเจอร์ 6 รายการของโลกอยู่แล้ว ได้แก่ บอสตัน, ชิคาโก้, นิวยอร์ก, โคเกียว, ลอนดอน และเบอร์ลิน ให้มอบโควต้านำนักกีฬาไทยไปแข่งรายการเหล่านั้น 200 คน เพื่อกระตุ้นให้เกิดกระแสความสนใจกีฬาทั้งระดับในและต่างประเทศพร้อมกัน โดยเฉพาะตลาดในประเทศ หากมีขนาดใหญ่พอ โอกาสจะดึงดูดการแข่งขันกีฬารายการใหญ่มาจัด ก็จะเป็นเรื่องง่ายขึ้น

ขณะเดียวกัน ได้เคยนำเสนอต่อกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแล้วว่า ไทยควรพิจารณาส่งเสริมตลาดกีฬาอย่างจริงจังด้วยการออกวีซ่าสำหรับนักกีฬา หลังจากที่เคยให้วีซ่ากลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพกับประเทศกลุ่มซีแอลเอ็มวีและจีนไปแล้ว เพราะปัจจุบันเทรนด์การเล่นกีฬาเริ่มเติบโตสูง

อีกทั้งในปี 2020 ญี่ปุ่นกำลังเตรียมเป็นเจ้าภาพมหกรรมโอลิมปิกเกมส์ ประเทศที่เข้าร่วมซึ่งต้องการปรับตัวกับสภาพอากาศในเอเชีย และหลีกหนีช่วงฤดูหนาวของตัวเอง จะมองหาสถานที่ฝึกซ้อมเก็บตัวจำนวนมาก และไทยก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกจากภาคเอกชนรองรับพอดี

“กลุ่มนักกีฬามาราธอนน่าสนใจมาก เพราะเป็นกำลังซื้อกลางกึ่งบน และทุกประเทศมีฐานตลาดนี้ขยายตัวมาก เช่น ญี่ปุ่น มีประชากรนักวิ่งกว่า 22 ล้านคน ขณะที่ไทยตอบโจทย์ทั้งหมด อาทิ มีเส้นทางวิ่งโดดเด่น, สามารถจัดการจราจรที่ปลอดภัย และพร้อมด้านการประชาสัมพันธ์ได้”

ด้านนายกอบเกียรติ แสงวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทไทยแลนด์ ไตรลี จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนการจัดงานไทยแลนด์ มาราธอน ที่มีความร่วมมือทางธุรกิจกับไอรอน แมน ที่เป็นแบรนด์การตลาดของอีเวนท์กีฬาชั้นนำของโลก กล่าวว่า ไอรอนแมน ได้เข้ามาสำรวจศักยภาพของไทยแล้ว และได้เข้าหารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ททท. เพื่อสอบถามความสนใจในการจัดไทยแลนด์ มาราธอน การแข่งขันวิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศขึ้นมา โดยไอรอนแมนจะยกระดับให้เป็นการแข่งขันระดับ “โกลด์เลเบิล” เทียบเท่ากับ 4 สนามในเอเชียที่มีอยู ได้แก่ ซิดนีย์, สิงคโปร์, โตเกียว และเกาหลีใต้ ซึ่งภายใต้การเป็นการแข่งขันระดับโกลด์เลเบิลดังกล่าว หมายถึงจะมีนักกีฬาระดับท็อป 20 คนแรกของโลกเข้าร่วม และต้องมีแชมป์โลกอย่างน้อย 3 คน เดินทางมาร่วมแข่งขัน

ทั้งนี้ วางเส้นทางตามมาตรฐานมาราธอนระดับโลก 42.195 ก.ม.วางจุดเปิดตัวที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน และเส้นชัยที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยขอความร่วมมือกับกรุงเทพมหานครในการปิดเมืองรองรับการแข่งขัน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ดูแลด้านความปลอดภัย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาแข่งขันทั้งหมดราว 6 ชั่วโมง และในบรรดานักวิ่ง 4 หมื่นคน จะกระตุ้นให้ต่างชาติเข้ามาราว 1 หมื่นคน หรือสูงกว่าเป้าหมายทั่วไปที่เคยจัดมาที่วางสัดส่วนชาวต่างชาติไว้ที่ 15%

ขณะที่ช่วงเวลาการจัดงานนั้น จะบรรจุเข้าไปให้สอดคล้องกับปฏิทินระดับโลก โดยอยู่ในช่วงเดือน ก.พ.หลังจากมาราธอนที่ฮ่องกง และจัดก่อนโตเกียว มาราธอน ที่ญี่ปุ่น