'ออมสิน' เผยมี 4 ข้าราชการทุจริตเงินทอนวัด

'ออมสิน' เผยมี 4 ข้าราชการทุจริตเงินทอนวัด

"ออมสิน" รอผลสำนักพุทธฯ ชี้ขาดพักงานข้าราชการ​เอี่ยวโกงเงินทอนวัด เชื่อกฎของบฯปฏิสังขรณ์รัดกุมดีแล้ว

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตเรียกคืนเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัด 60 ล้านบาทว่า พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้แจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้ง 8 คนแล้ว โดยเป็นข้าราชการ พศ. 4 คน และพลเรือน 4 คน และมีเรื่องต้องรอกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ(ปปป.)รายงาน เมื่อถามว่าจำเป็นต้องสั่งพักงานข้าราชการที่เกี่ยวข้องก่อนหรือไม่ นายออมสิน กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามผอ.พศ.อีกครั้ง เพราะถ้าทั้ง 4 คนเป็นข้าราชการที่ยังอยู่ในหน้าที่อาจต้องพักงาน และตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย

เมื่อถามอีกว่าต้องมีการกำหนดระเบียบการรับเงินบริจาคเข้าวัดหรือไม่ นายออมสิน กล่าวว่าการบริจาคเงินให้วัดเป็นศรัทธาของประชาชน คงต้องไปดูอีกครั้งหนึ่ง เพราะวัดเป็นนิติบุคคล มีเจ้าอาวาสเป็นผู้มีอำนาจดำเนินการเรื่องต่างๆ โดยมีไวยาวัจกรวัดและคณะกรรมการวัด ร่วมพิจารณาด้วย ดังนั้นต้องดูเป็นเรื่องๆไป เนื่องจากเรื่องเหล่านี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน จึงอยากให้ดูกันรอบคอบรัดกุม เพราะจะไปกระทบกับเรื่องของพระค่อนข้างเยอะ ซึ่งพระส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีความผิดอะไรด้วย เหมือนกับท่านถูกหลอก ทางฆราวาสที่ไปจากผอ.พศ.ก็ไปบอกกับท่านว่า ให้ท่านรับเงินและจ่ายเงินคืนมาจะเอาเงินไปบูรณปฏิสังขรณ์วัดที่อื่น จึงอาจจะมองได้ว่าท่านไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะท่านไม่ได้รู้

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการป้องการเหตุการณ์อย่างกรณีนี้อย่างไรบ้าง นายออมสิน กล่าวว่า เรื่องมาตรการต่างๆต้องมาดูว่ามีจุดอ่อนตรงไหน เราจะทำอะไรได้บ้าง ต้องดูเป็นเรื่องๆอย่าไปตีเหมารวม เพราะคนดีในสังคมมีเยอะ แต่ทุกสังคมย่อมมีคนไม่ดีแอบแฝง จึงต้องระมัดระวัง อย่างในสังคมของพระจะไปกล่าวโทษว่าพระไม่ดีทั้งหมดไม่ได้ เชื่อว่าประชาชนจะยังไม่เสื่อมศรัทธาในศาสนา ซึ่งประชาชนศรัทธาอยากสร้างอุโบสถสามารถทำได้ แต่เรื่องการมีทุจริตเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เมื่อถามว่า ต้องหารือกับมหาเถรสมาคม (มส.) เรื่องกฎเกณฑ์ในการยื่นของบประมาณเพื่อขอบูรณปฏิสังขรณ์หรือไม่ นายออมสิน กล่าวว่า พศ.ได้แก้ไขให้ทางวัดไม่สามารถของบประมาณจากทางพศ.ได้โดยตรง ต้องขอผ่านทางพศ. จังหวัด เพื่อพิจารณาความเหมาะสมก่อนส่งมายังพศ.ส่วนกลางและเมื่อมีงบประมาณลงไปต้องผ่านไปยังพศ.จังหวัดอีกครั้ง ซึ่งจะมีคณะกรรมการพิจารณา ส่วนนี้ก็มีความรัดกุมรอบคอบเพียงพอแล้ว แต่หากไม่เพียงพออย่างไรค่อยมาว่ากันอีกครึ่งหนึ่ง