ให้เวลา3วัน! สืบข้อเท็จจริง เหตุส่งเด็กฝึกงานเกาหลีใต้

ให้เวลา3วัน! สืบข้อเท็จจริง เหตุส่งเด็กฝึกงานเกาหลีใต้

“สุเทพ” เผยตั้งกก.สืบข้อเท็จจริงเหตุ วษท.เชียงราย ส่งเด็กฝึกงานเกาหลีใต้

ภายหลังเกิดกรณีนักศึกษาจากวิทยาลัยวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี (วษท.) เชียงราย จำนวน 8 คนเป็นชายจำนวน 5 คนและหญิง 3 คนอายุตั้งแต่ 16-22 ปี ได้ขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัคราชฑูตประเทศไทยประจำเกาหลีใต้ให้ส่งตัวกลับประเทศและเข้าร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่าถูกทางเจ้าของฟาร์มในประเทศเกาหลีใช้แรงงานหนักและถูกลวนลามนั้น ซึ่งในวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมามีรายงานว่า ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) มีหนังสือแต่งตั้งผู้รักษาการในตำแหน่งที่ ศธ 0601/4431 ให้นายเจริญ เชื้อเมือพาน ผู้อำนวยการ วษท.เชียงราย ไปรักษาการในตำแหน่ง ผอ.วษท.ตาก แทน และให้ นายนิมิตร อาศัย ผอ.วษท.ตาก ไปรักษาการที่ จ.เชียงราย โดยให้ไปปฏิบัติงานภายในวันที่ 3 กรกฎาคม 2560

ดร.สุเทพ กล่าวว่า เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นที่สนใจของสังคม เพราะส่งผลกระทบต่อนักศึกษา จึงได้มีคำสั่งลงวันที่ 15 มิ.ย.ให้ นายเจริญ ผอ.วษท.เชียงราย ไปรักษาการตำแหน่งผอ.วษท.ตากและให้ นายนิมิต มารักษาการผอ.วษท.เชียงราย ไปก่อน อีกทั้งในวันเดียวกัน ได้ลงนามในคำสั่ง สอศ.ที่ 863/2560 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง จำนวน 3 คนมีนายประจักษ์ ทาสี ผอ.สถาบันการอาชีวศึกษาเกษตรภาคเหนือ เป็นประธาน ดำเนินการสืบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 3 วันและรายงานผลมายัง สอศ.โดยเร็ว

“การย้าย นายเจริญ ไปรักษาการที่วษท.ตาก เพื่ออำนวยความสะดวกให้การทำงานของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ในการลงพื้นที่สืบหาข้อมูล และเพื่อความสบายใจในการให้ข้อมูลต่างๆ ไม่ได้หมายความว่า นายเจริญ มีความผิดซึ่งตัวนายเจริญ นั้นก็เป็นคนทำงานและมีความรับผิดชอบต่องาน ทั้งนี้ ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับเจ้าตัวแล้ว ซึ่งก็รับทราบและไม่ได้มีปัญหาอะไร และได้กำชับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดูแลนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบด้วย”ดร.สุเทพ กล่าว

ดร.สุเทพ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้กรณีของ วษท.เชียงราย เบื้องต้นทราบว่าวิทยาลัยได้มีความร่วมมือกับบริษัทแห่งหนึ่งของประเทศเกาหลีใต้ ในการส่งนักศึกษาไปฝึกงานซึ่งดำเนินการจนถึงปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 3 โดยในรุ่นที่ 3 มีนักศึกษาเดินทางไปฝึกงานมากกว่า 2 รุ่นแรกที่ส่งไปเพียง 2-3 คนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สอศ.จะใช้โอกาสนี้ดำเนินการตรวจสอบว่าวิทยาลัยในสังกัด สอศ.ที่มีโครงการความร่วมมือกับบริษัทต่างประเทศในลักษณะเดียวกันนี้มีจำนวนกี่แห่ง เพื่อจะได้จัดระบบดำเนินการใหม่ทั้งประเทศให้เหมาะสม โดยในวันที่ 20 มิ.ย.นี้จะเชิญประชุมวิทยาลัยต่างๆ

“เชื่อว่ามีวิทยาลัยในสังกัด สอศ.หลายแห่งเป็นร้อยๆวิทยาลัยที่มีความร่วมมือกับบริษัทต่างประเทศ ส่งนักศึกษาไปฝึกปฏิบัติงาน ซึ่งทุกแห่งมีเจตนาดีที่ต้องการให้นักศึกษาได้ฝึกประสบการณ์ ซึ่งวิทยาลัยสามารถดำเนินการเองได้โดยไม่จำเป็นต้องรายงานที่ สอศ.แต่ผมจะถือโอกาสนี้ตรวจสอบทั้งระบบว่ามีกี่แห่ง กี่โครงการแต่ละโครงการแผนงาน ระบบการติดตาม ตลอดจนการดูแลนักเรียน นักศึกษาดำเนินการอย่างไรบ้าง จะได้จัดระบบใหม่ทั้งประเทศเพราะเรื่องสำคัญที่สุดต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของนักเรียน นักศึกษา”ดร.สุเทพ กล่าว