‘เดลต้า’ ลุยอิเล็กฯรับเมกะเทรนด์โลก

‘เดลต้า’ ลุยอิเล็กฯรับเมกะเทรนด์โลก

ลงทุนหนักหุ่นยนต์ คลาวด์ ยานยนต์ไฟฟ้า-ทุ่ม50ล้านดอลล์ผุดศูนย์อาร์แอนด์ดี บังกาลอร์

“เดลต้า อีเลคโทรนิคส์” ปรับโฉมธุรกิจลุยผลิตภัณฑ์เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์-ออโตเมชั่น-อินฟราสตรักเจอร์ รับยุคอุตสาหกรรม 4.0 ปักธงลงทุนตลาดอินเดีย-เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปูทางเติบโตแข็งแกร่งในระยะยาว มั่นใจปี 2560 อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทิศทางดี

นายเซีย เชน เยน ประธานบริหาร บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ไทยแลนด์) กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจปี 2560 มุ่งโฟกัสธุรกิจพลังงาน ยานยนต์ไฟฟ้า ระบบออโตเมชั่นสำหรับอุตสาหกรรม รวมถึงโซลูชั่นดาต้าเซ็นเตอร์ ตอบรับเมกะเทรนด์โลกที่กำลังเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 รวมถึงยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 ของประเทศไทย

ทั้งนี้ นับเป็นอีกปีสำคัญของบริษัท ซึ่งได้เปลี่ยนธุรกิจโดยมุ่งโฟกัส 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ คือ เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ ออโตเมชั่น และอินฟราสตรักเจอร์

“เรามุ่งขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรม ปูทางสร้างการเติบโตใหม่ๆ ด้วยโซลูชั่นสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม ขยายธุรกิจสู่กลุ่มพลังงาน ยานยนต์ไฟฟ้า ระบบออโตเมชั่น หุ่นยนต์ และดาต้าเซ็นเตอร์โซลูชั่น”

โดยเดลต้ามีแผนใช้งบการลงทุนสัดส่วน 4-5% ของรายได้ สำหรับวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า ระบบคลาวด์ อินดัสเทรียลออโตเมชั่นและหุ่นยนต์ อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์(ไอโอที) พลังงานทางเลือก และศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์

สำหรับตลาดเป้าหมาย โฟกัสยุโรป อเมริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และโดยเฉพาะตลาดอินเดียซึ่งมีขนาดใหญ่ โอกาสเติบโตสูง ขณะเดียวกันมีความต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก

อินเดียมีการพัฒนาพลังงานทดแทน ระบบออโตเมชั่นในอุตสาหกรรม ทั้งมีนโยบายจะเปลี่ยนเป็นยานยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2530

ส่วนแผนการลงทุน เตรียมสร้างอาคารใหม่เพื่อเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่เมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย พื้นที่ 13 ไร่ และโรงงานพื้นที่ 316 ไร่ที่รัฐทมิฬนาฑู คาดว่าโรงงานในอินเดียและแล้วเสร็จในอีก 1 ปี รวมใช้งบประมาณการลงทุนราว 30-50 ล้านดอลลาร์

ตั้งเป้าว่ารายได้จากอินเดียปี 2561-2562 จะมีสัดส่วน 20% ของยอดขายรวมทั้งหมด ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจาขยายฐานการผลิตแห่งใหม่ในประเทศสโลวาเกีย เพื่อรองรับความต้องการตลาดยุโรป ในภาพรวม 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทให้ความสำคัญลงทุนทั้งในประเทศไทย อินเดีย และพม่า

ด้านการตลาด เพิ่มงบประมาณจากปีก่อนหน้าอีก 3 เท่า โดย 40% จะใช้ไปกับการร่วมงานเทรดโชว์ 37% สื่อสารประชาสัมพันธ์เพื่อเสริมสร้างแบรนด์ 13% สื่อวีดิโอ โชว์รูม และ 10% สื่อออนไลน์และที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง

ล่าสุด เปิดตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ ไฮไลต์เช่น อุปกรณ์และระบบชาร์จไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เหมาะสำหรับสถานีปั๊ม อาคารสำนักงาน คอนโดมีเนียมระดับไฮเอนด์ รวมถึงนวัตกรรมตู้กักเก็บพลังงานจากแสงอาทิตย์ ที่รวม 3 ระบบเข้าไปด้วยกันทั้งระบบแบตเตอรี ระบบบริหารจัดการแบตเตอรี และระบบแปลงพลังงาน

พร้อมกันนี้ ร่วมมือกับสถาบันยานยนต์ เตรียมเปิดศูนย์การเรียนรู้ยานยนต์ไฟฟ้าและสถานีอัดประจุไฟฟ้า ที่สถาบันยานยนต์บางปู เพื่อเป็นต้นแบบถ่ายทอดความรู้ เพิ่มขีดความสามารถให้แก่ผู้ประกอบการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย พร้อมปูทางให้ประเทศไทยกลายเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าหรือยานยนต์สมัยใหม่

คาดยอดขายปีนี้ “5หมื่นล.”
เดลต้า มองว่า ปี 2560 ภาพรวมตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นตลาดเป้าหมายของบริษัทมีทิศทางดีกว่าปี 2559 แน่นอน ส่วนของบริษัทเริ่มต้นได้ดีโดยเมื่อไตรมาสที่ 1 มียอดขาย 12,127 ล้านบาท เติบโต 8.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยรวมยอดขายเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะเพาเวอร์ซิสเต็มส์ที่ใช้ในระบบโทรคมนาคม ขณะที่ไตรมาสที่ 2 ยังมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง

ดังนั้นภาพรวมปีนี้บริษัทจึงเชื่อว่าจะทำได้ดี ด้วยยอดขายไม่น้อยกว่า 5 หมื่นล้านบาท จากปี 2559 ทำได้ 46,887 ล้านบาท ปัจจัยมาจากได้เตรียมความพร้อม ปูทางสร้างรายได้ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และมุ่งเติบโตในระยะยาว

ที่ผ่านมาพบด้วยว่าธุรกิจอินฟราสตรักเจอร์โซลูชั่นในอินเดียและอาเซียนเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์เป็นตลาดมีโอกาสเติบโตได้สูง โดยภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงไทยนับเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง เฉลี่ยต่อปีระดับ 25% ส่วนปัจจัยที่ต้องระวังคือราคาของวัตถุดิบ