เผยมีผู้ยื่นซองเสนอราคาข้าวเสื่อมสูงสุด 17 ราย

นายกีรติ รัชโน รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า จากการเปิดซองเสนอราคาประมูลข้าวสารในสตอกรัฐเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนกว่า 2.2 ล้านตัน มีผู้ยื่นซอง 21 ราย พบว่าเบื้องต้นมีผู้เสนอซื้อสูงสุด 17 ราย ปริมาณ 1.67 ล้านต้น คิดเป็นร้อยละ 75 ของปริมาณที่เปิดประมูลทั้งหมด ซึ่งได้ราคาเฉลี่ยประมาณตันละ 2,000-6,700 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 7,600 ล้านบาท คาดว่าน่าจะทราบผลอย่างเป็นทางการเย็นนี้หรือวันพรุ่งนี้

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้คณะทำงานระบายข้าวจะต้องรวบรวมผลทั้งหมด เพื่อนำเสนอประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เพื่อพิจารณาอนุมัติระบายอีกครั้ง หากสามารถขายล็อตนี้ได้เบื้องต้น 1.67 ล้านตัน จะคงเหลือในสตอกทั้งหมดประมาณ 1.2 ล้านตันเท่านั้น แบ่งเป็น ข้าวคุณภาพเพื่อการบริโภค เพียง 160,000 ตัน ข้าวเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน อีก 600,000 ตัน และข้าวในกลุ่มที่ไม่ใช่ทั้งการบริโภคของทั้งคนและสัตว์ อีก 500,000 ตันที่จะนำข้าวกลุ่ม 3 ออกมาประมูลในเดือนกรกฎาคม เพื่อให้การระบายข้าวในสตอกหมดภายในปีนี้ตามเป้าหมาย

ทั้งนี้ จากสตอกข้าวที่สามารถระบายได้เกือบหมดแล้ว โดยเฉพาะข้าวเพื่อการบริโภคที่เหลือเพียง 160,000 ตัน สะท้อนได้ชัดเจนว่าตลาดข้าวเริ่มกลับมาเป็นของผู้ขาย เนื่องจากไม่มีสตอกข้าวปริมาณมากมากดทับ เพราะเริ่มมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศกลับมามากขึ้น เนื่องจากภัยแล้งกระทบผลผลิตหลายประเทศ โดยบังกลาเทศเตรียมเจรจาซื้อข้าวไทยปลายเดือนนี้ ปริมาณ 200,000 ตัน และไทยเตรียมจะเข้าร่วมประมูลขายข้าวให้ฟิลิปปินส์ที่คาดว่าจะออกประกาศเงื่อนไข TOR ภายในสัปดาห์หน้า

ขณะที่ยอดการส่งออกข้าวปีนี้ตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 13 มิถุนายน 2560 รวมปริมาณ 5.4 ล้านตัน โดยเป็นปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.7 คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณกว่า 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ราคาข้าวเริ่มอยู่ในทิศทางขาขึ้น และน่าจะราคาปรับดีขึ้นต่อเนื่องช่วงครึ่งปีหลัง โดยข้าวขาว 5% ราคาเฉลี่ย 455 ดอลาร์สหรัฐต่อตัน และข้าวหอมมะลิ เฉลี่ย 702 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันเป็นต้น