ยื่นคำร้องฝากขัง 'เปรี้ยว-เอิร์น-แจ้' รอบสอง

ยื่นคำร้องฝากขัง 'เปรี้ยว-เอิร์น-แจ้' รอบสอง

สภ.เขาสวนกวาง ยื่นคำร้องฝากขัง "เปรี้ยว-เอิร์น-แจ้" ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพรอบสอง ก่อนครบกำหนดผลัดแรกวันพรุ่งนี้ ชี้ต้องรอผลดีเอ็นเอที่รีสอร์ทก่อนสรุปสำนวน

ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศีรวนิชย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเขาสวนกวาง ร่วมกันกล่าวถึงความคืบหน้าคดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม หลังจากที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุ จำนวน 5 คน ประกอบด้วย น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือ เบนซ์หรืออ้อม น.ส.กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ และนายวศิณ นามพรหม หรือ วิน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้คุมตัวไปฝากขังอยู่ภายในเรือนจำกลางขอนแก่นไปก่อนหน้านี้

พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนยังอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมซึ่งยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากต้องดูว่าพยานหลักฐานต่างๆ นั้น มีความเกี่ยวข้องกับใครมากน้อยแค่ไหน เบื้องต้นที่ได้ตั้งข้อหากับผู้ต้องหาไปก็สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในขั้นต้นว่า โดยในกรณีของ น.ส.เบนซ์ ตามข้อเท็จจริงก็พบว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหาที่มีทรัพย์สินของคนตาย หากการสอบสวนปรากฎชัดว่าใครมีความเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมมากน้อยเพียงใดก็จะมีการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

"ตำรวจยังมีเวลาในการรวบรวมพยานหลักฐาน เมื่อถึงเวลาก่อนที่ส่งสำนวนให้อัยการ ก็จะต้องมีความเห็นทางคดีว่าจะฟ้องใครหรือไม่ฟ้องใคร ซึ่งขณะนี้การทำงานของพนักงานสอบก็ยังไม่สิ้นสุด เพราะในระหว่างที่สอบสวนไปก็มีการลงความเห็นทางคดีควบคู่กันไป แต่ก็ต้องดูที่ชั้นอัยการอีกครั้งว่าจะมีความเห็นอย่างไร ซึ่งตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะฟ้องใครหรือไม่ฟ้องใครบ้าง เพราะเรายังทำสำนวนยังไม่แล้วเสร็จ และยังต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ DNA จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานเพื่อนำมาประกอบสำนวน ซึ่งต้องขอเวลาในการทำสำนวนให้สมบูรณ์และรัดกุมมากที่สุด ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามกรอบระยะเวลา 84 วัน แน่นอน" พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าว

พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศีรวนิชย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่เร่งรัดในการทำคดี จะให้เวลาตำรวจทำสำนวนให้รอบคอบมากที่สุด ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ประกอบด้วย น.ส.เปรี้ยว น.ส.เอิร์น และ น.ส.แจ้ จะครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 1 ในวันที่ 16 มิ.ย. 60 ดังนั้นวันนี้พนักงานสอบสวนจึงได้เข้ายื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อขอฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ในระหว่างการพิจารณาคดีในผลัดที่ 2 ซึ่งศาลจะมีการพิจารณาคำร้องขอฝากขังในวันพรุ่งนี้ ส่วนหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่จะนำมาใช้ประกอบการสรุปสำนวน เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานกำลังดำเนินการ ขณะที่การให้ปากคำของพยานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ก็ยังสอบคำให้การไปเรื่อยๆ เพื่อเกิดความสอดคล้องและรัดกุม ซึ่งถ้าหากสำนวนการสอบสวนมีความสมบูรณ์ก็จะส่งให้อัยการและส่งฟ้องต่อศาลตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

"การสืบสวนสอบสวนในเวลานี้ ยังคงพบว่ามีผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุเพียง 5 คน ยังไม่มีมากไปกว่านี้ แต่ถ้าหากสืบสวนสอบสวนพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องมากกว่า 5 คนนี้ ก็จะออกหมายจับเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีอย่างแน่นอน กรณีที่มีข้อสงสัยว่า อาจมีสาวทอมคนสนิทของผู้ตาย มีส่วนร่วมในการฆ่านั้น ที่ผ่านมาได้มีการเชิญตัวมาสอบปากคำไปแล้วและอยู่ในระหว่างการรวบรวมคำให้การ แต่จะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไรต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน ที่ผ่านมาจะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรอง กับผู้ต้องหาทั้งหมด ยกเว้น น.ส.เบนซ์ ที่ไม่ถูกตั้งข้อหานี้ รวมทั้งในวันทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก็ไม่ได้คุมตัว น.ส.เบนซ์ ไปทำแผน แต่สุดท้ายแล้ว น.ส.เบนซ์จะเกี่ยวข้องจริงหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะต้องพิสูจน์ต่อไป หากไม่เกี่ยวข้องก็จะไม่สั่งฟ้อง" พล.ต.ต.เจริญวิทย์ กล่าว

ด้าน พล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4 ระบุว่า การจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 5 คน จำเป็นที่จะต้องยึดตามพยานหลักฐานที่มี หากมีความชัดเจนว่าใครไม่เกี่ยวข้องก็สั่งไม่ฟ้อง พนักงานสอบสวนให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหาทั้งหมด เพราะในขั้นตอนการสอบสวนต้องพิจาณาอย่างละเอียดว่า ผู้ต้องหาแต่ละคนมีความเกี่ยวข้องกับการฆาตรกรรมมากน้อยแค่ไหน ซึ่งอยู่ในสำนวนการสอบสวนแล้วทั้งหมด หากญาติของผู้ต้องหามีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ให้นำมาพบกับพนักงานสอบสวน สภ.เขาสวนกวาง หรือ ที่ตำรวจภูธรภาค4 ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อประสานมาแต่อย่างใด