แฉปมโกงเงินอุดหนุนวัด ใช้วิธีโอนเกิน ก่อนพศ.ท้องที่เรียกคืน

แฉปมโกงเงินอุดหนุนวัด ใช้วิธีโอนเกิน ก่อนพศ.ท้องที่เรียกคืน

เบื้องลึก! ปมโกงเงินอุดหนุนวัด แฉใช้วิธีโอนเกิน ก่อนพศ.ท้องที่เรียกคืน เผยใช้โมเดลเดียวกันทั่วประเทศ

นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ป.) สนธิกำลังบุกค้นบ้านผู้เกี่ยวข้องการทุจริตเงินอุดหนุนงบประมาณบูรณะ และปฏิสังขรณ์วัดกว่า 60 ล้านบาท ว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ได้หารือกับฝ่ายตำรวจถึงแนวทางการปฏิบัติต้องทำอย่างไรแล้ว ว่าจะตอบคำถามสังคมอย่างไร วิธีการด้านการไต่สวนจะทำอย่างไร จะบูรณาการร่วมกันอย่างไรให้ตรวจสอบได้รวดเร็วที่สุด

ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. มอบหมายให้สำนักการข่าวและกิจการพิเศษ ป.ป.ช. เป็นฝ่ายหาข่าวมา เช่น หากมีข้อมูลจากตำรวจที่แถลงข่าวว่า มีการบุกจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐของสำนักพุทธฯในพื้นที่ต่างๆ สำนักการข่าวฯ จะขอข้อมูลตำรวจในพื้นที่นั้นๆ เพื่อนำมาประกอบ โดยตำรวจในท้องที่มีเวลา 30 วันในการส่งข้อมูล

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์ดังกล่าวมาสู่ชั้นการไต่สวนของ ป.ป.ช. หรือไม่ นายสรรเสริญ กล่าวว่า มีกรณีของ ผอ.สำนักพุทธฯ จ.สงขลา ที่ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับเงินคืนจากวัด ปัจจุบันอยู่ในชั้นการไต่สวนของ ป.ป.ช. แต่ไม่ได้เป็นภาพรวม เป็นแค่ระดับท้องที่เท่านั้น แต่ถ้าต้องการเชื่อมโยงกับผู้บริหารระดับสูงในสำนักพุทธฯ จะต้องมีกระบวนการทำงาน และการบูรณาการเพิ่มเติมนอกจากนี้

แหล่งข่าวระดับสูง จากสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า กรณี ผอ.สำนักพุทธฯ จ.สงขลา ก่อนหน้านี้นั้น เบื้องต้นพบข้อมูลว่า อาจมีการเชื่อมโยงถึงผู้บริหารระดับรอง ผอ.สำนักพุทธฯ ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่ถูกตำรวจบุกค้นบ้านหรือไม่ และตรวจสอบเส้นทางการเงินอยู่ในขณะนี้ด้วย ดังนั้น ป.ป.ช. จะใช้ข้อมูลในส่วนนี้ขยายผลการไต่สวนไปทั่วประเทศ

"เท่าที่ทราบข้อมูลตอนนี้ เขาใช้รูปแบบเดียวกันเกือบทั้งประเทศ คือ ใช้วิธีโอนเงินเกินไปก่อนที่จะให้ผู้บริหารสำนักพุทธฯแต่ละท้องที่ไปเรียกเก็บเงินคืนมา เป็นโมเดลเดียวกันหมด ตรงนี้ ป.ป.ช. จะขยายผลการไต่สวนต่อไป และใช้ข้อมูลจากตำรวจมาประกอบด้วย” แหล่งข่าว กล่าว