เซ็นทรัล ปั้น "ลุคสิ" ออนไลน์แฟชั่นเดสทิเนชั่น

เซ็นทรัล ปั้น "ลุคสิ" ออนไลน์แฟชั่นเดสทิเนชั่น

เซ็นทรัล รีแบรนด์ "ซาโลร่า" ดัน "ลุคสิ" ผงาด ออนไลน์ แฟชั่น เดสทิเนชั่น สร้างประสบการณ์ชอปปิงแบบไร้รอยต่อสำหรับผู้บริโภคยุคดิจิทัล 4.0

กลุ่มเซ็นทรัล สร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อสำหรับผู้บริโภคยุคดิจิทัล 4.0 ที่ใส่ใจในการเลือกซื้อสินค้าและบริการ เปิดตัว ลุคสิ (LOOKSI) หรือ www.looksi.com ศูนย์รวมแฟชั่นแห่งโลกออนไลน์ ปรากฏการณ์ทางแฟชั่นมิติใหม่สำหรับผู้ชื่นชอบแฟชั่นทั้งสตรีทแวร์ และไฮแฟชั่นด้วยการพลิกโฉม ซาโลร่า (ไทยแลนด์) หรือ www.zalora.co.th เว็บไซต์แฟชั่นชอปปิงออนไลน์แห่งเอเชียแปซิฟิค ที่เข้ามาบุกตลาดไทยในปี 2555 ก่อนที่ “เซ็นทรัล กรุ๊ป” จะเข้าซื้อกิจการต่อจากกลุ่มบริษัท ร็อคเก็ต อินเตอร์เน็ต (Rocket Internet) ในปีที่ผ่านมา

นางสาวพรชนก ตันสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจออนไลน์ บริษัท เซ็นทรัล กรุ๊ป ออนไลน์ จำกัด กล่าวว่า ล่าสุด ในเดือน พ.ค. 2560  "เซ็นทรัล กรุ๊ป" ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท พลิกโฉม ซาโลร่า รีแบรนด์ใหม่ เปลี่ยนชื่อเป็น “ลุคสิ” (LOOKSI) ยกระดับให้เว็บไซต์แฟชั่นแห่งนี้เป็นศูนย์รวมสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์บนโลกออนไลน์ที่ครบครันที่สุดในประเทศไทย เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่สำหรับหนุ่มสาวยุคดิจิทัลที่หลงใหลในแฟชั่นและการชอปปิง พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ตามสโลแกนของลุคสิ (LOOKSI) ที่ว่า “UNLIMITED PASSION FOR FASHION” (แรงบันดาลใจ แฟชั่น ไม่รู้จบ)


ด้วยจุดแข็งเดิมที่ "เซ็นทรัล กรุ๊ป" ผู้นำธุรกิจค้าปลีก และห้างสรรพสินค้าที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนานในประเทศไทย เมื่อนำมาผนวกกับความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำด้านแฟชั่นชอปปิงออนไลน์ของ ซาโลร่า (ไทยแลนด์) ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด จึงทำให้การรวมกันของสองธุรกิจนี้ยิ่ง ตอกย้ำความยิ่งใหญ่แห่งวงการค้าปลีก

การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ "เซ็นทรัล กรุ๊ป" ปรับกลยุทธ์การตลาดแบบเดิมให้เปลี่ยนเป็นการตลาดแบบ Omni-channel นั่นคือการผสานช่องทางทั้งหมดของธุรกิจภายในเครือเซ็นทรัล ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน สามารถช่วยเหลือและสนับสนุนกันได้อย่างไร้รอยต่อ เพื่ออำนวยความสะดวกพร้อมสร้างประสบการณ์ที่ดีอย่างต่อเนื่องให้กับผู้บริโภคให้สามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้ทุกที่ และทุกเวลา ด้วยการบริการที่ครบวงจร สามารถชอปปิงได้ทุกที่ผ่านทางแอพพลิเคชั่น (Application) โมบายไซต์ (Mobile site) และเว็บไซต์ (Website) ติดตามสถานะของการจัดส่งสินค้าได้ทุกขั้นตอน สะดวกสบายกับบริการชำระเงินได้ทั้ง บัตรเครดิต บัตรเดบิต PAYPAL และบริการ ชำระเงินสดปลายทางเวลารับสินค้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า พร้อมด้วยบริการจัดส่งที่รวดเร็วถึงมือผู้รับโดยตรง กับทีม LOOKSI C-Fleet และพันธมิตรในการส่ง อาทิ Kerry Express, CJ Logistics และ DHL Express ที่พร้อมจัดส่งสินค้าอย่างรวดเร็วภายใน 1 – 7 วันทั่วประเทศ* และบริการพิเศษกับ LOOKSI Same-day delivery จัดส่งสินค้าด่วนภายในหนึ่งวันในบริเวณกรุงเทพฯ และหากสินค้าไม่เป็นที่พอใจสามารถคืนสินค้าได้ภายใน 30 วัน ได้ที่ เซเว่นอีเลฟเว่น (7-Eleven) ทุกสาขาทั่วประเทศ พร้อมรับเงินคืนเต็มจำนวน

นอกจากนี้เรายังเน้นความหลากหลายของสินค้าจากแบรนด์ดังชั้นนำทั่วโลก ครอบคลุมสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์สำหรับทุกเพศทุกวัย ซึ่งปัจจุบันมีแบรนด์ชั้นนำอยู่กว่า 1,000 แบรนด์ มีสินค้ามากกว่า 50,000 SKUs มีแบรนด์ชั้นนำ อาทิ ไนกี้ (NIKE), ไนน์เวสต์ (Ninewest), จีทูเทาด์ซัน G2000, ลีวาย (Levi’s) เป็นต้น โดยมีการทำงานร่วมกันกับแบรนด์ในรูปแบบพันธมิตร มีการปรึกษาในเรื่องของทิศทางการตลาดเพื่อทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น อีกทั้งลุคสิยังมีแบรนด์พิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จัดจำหน่ายเฉพาะทางออนไลน์กับเราเท่านั้น อาทิ ท็อปช็อป (Topshop), แคลวิน ไคลน์ (Calvin Klein), อัลโด้ (Aldo), ลาคอส (Lacoste’), แดปเปอร์ (Dapper) และล่าสุดกับคอลเลกชั่นพิเศษของ เกสส์ (Guess) แบรนด์แฟชั่นชั้นนำที่จับมือกับศิลปินแร็ปเปอร์ชื่อดังอย่าง เอแซป ร็อคกี้ (A$AP ROCKY) ในคอลเลกชั่นซัมเมอร์ 2017 ซึ่งในประเทศไทยจะจัดจำหน่ายผ่านทาง LOOKSI.COM เท่านั้น

ในอนาคตจะมีการคัดสรรแบรนด์ชั้นนำทั้งในประเทศไทย และแบรนด์ดังจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น แต่ต้องผ่านมาตรฐานที่ทางลุคสิได้ตั้งไว้ ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกแบ่งแยกเป็นหมวดหมู่เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา มีรายละเอียดและภาพสินค้าให้ได้ดูทุกมุมมอง และติดตามข่าวสารพร้อมอัพเดตเทรนด์แฟชั่นใหม่ๆ ได้ทุกวันผ่านทางโซเชียลมีเดีย อาทิ อินสตาแกรม (Instagram) เฟซบุ๊ก (Facebook) ทวิตเตอร์ (Twitter) และยูทูบ (Youtube) พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมมากมายอีกด้วย


ลุคสิมีฐานลูกค้ากว่า 1.2 ล้านคน โดยสัดส่วนแบ่งเป็น 70% เป็นฐานลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัดและ 30% ในกรุงเทพฯ กลุ่มเป้าหมายหลักทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แบ่งเป็น ผู้หญิง ถึง 70% โดยจัดอยู่ในช่วงอายุ 25 – 45 ปี โดยตั้งเป้าขยายฐานลูกค้ากลุ่มผู้ชาย และกลุ่มลูกค้าอายุ 18 -35 ปี เพิ่มขึ้น ตั้งเป้ายอดการเติบโตของธุรกิจเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่า รวมถึงการขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น ภายในปี 2561