'บอย ยูนิตี้'ไม่รู้โดนหมายจับ ถูกกองปราบบุกรวบคดีฉ้อโกงปชช.

ช่วงบ่ายวันนี้ นายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือ “บอย ยูนิตี้” กรรมการบริษัท เอสทีที ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ย่านรัชดาภิเษก และสุขุมวิท 63 ได้เดินทางมาที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อนำหลักฐานมายื่นฟ้อง พ.ต.อ.ไพสิษฐ์ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กับพวก ซึ่งเป็นรองอธิบดี และพวก รวม 12 คน ฐานปฎิบัติหน้าที่มิชอบ , บุกรุก และแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อศาล กรณีดีเอสไอ สั่งปิดโชว์รูมรถยนต์ 2 แห่ง 

ภายหลังนายอินทระศักดิ์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเสร็จ ได้ขึ้นรถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยู สีดำ ป้ายแดง หมายเลขทะเบียน บ-1186 กรุงเทพมหานคร ออกจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

ระหว่างนี้เอง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้นำกำลังดักรอ นายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือ “บอย ยูนิตี้” พร้อมเข้าควบคุมตัวตามหมายจับข้อหาฉ้อโกงประชาชน

พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป. เปิดเผยถึงการควบคุมตัวนายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือ “บอย ยูนิตี้” กรรมการบริษัท เอสทีที ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ว่า ตั้งแต่ต้นปี 2560 มีผู้เสียหาย 5 ถึง 6 คน เข้าแจ้งความว่าได้ซื้อรถยนต์หรู มูลค่าตั้งแต่ 8 ล้านบาท ถึง 30 ล้านบาท จากบริษัทในกลุ่มของนายอินทระศักดิ์ แล้วเกิดปัญหาถูกกรมศุลกากร และตำรวจจับ ทางตำรวจจึงได้รวบรวมหลักฐานในส่วนของผู้เสียหายที่ซื้อรถยนต์พอร์ช ราคา 8 ล้านบาท

ซึ่งมีหลักฐานชัดเจน จึงขอศาลออกหมายจับ นายอินทระศักดิ์ เมื่อวานที่ผ่านมา ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และนำกำลังเข้าจับกุมวันนี้ที่ถนนนครไชยศรี หลังนายอินทระศักดิ์ ยื่นฟ้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมเตรียมข้อหาอีกคดีที่ผู้เสียหายซื้อลัมโบกินี่ มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท แล้วเกิดปัญหาภายหลังด้วยเช่นกัน

พ.ต.อ.จิรภพ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ยังได้ตรวจค้นรถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยู พร้อมกับอายัดรถของนายอินทระศักดิ์ เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเบื้องต้นตรวจค้นพบป้ายทะเบียนรถยนต์ และชาร์จแสดงการเสียภาษีรถที่นายอินทระศักดิ์ เคยนำเสนอต่อสื่อมวลชน

ส่วนการออกหมายจับ และนำกำลังเข้าจับกุมโดยไม่ออกหมายเรียก เนื่องจากคดีมีอัตราโทษเกิน 3 ปี พนักงานสอบสวนสามารถออกหมายจับ หรือออกหมายเรียกได้ แต่ตำรวจใช้แนวทางการออกหมายจับและจับกุมทันที เนื่องจากพยานหลักฐานชัดเจน

ด้านนายอินทระศักดิ์ หรือ บอยยูนิตี้ ระบุว่า รู้สึกแปลกใจ และ งงๆ ที่ถูกจับแบบไม่ทันตั้งตัว และเห็นว่าตำรวจสามารถออกหมายเรียกได้ โดยตัวเองก็ยังไม่ทราบรายละเอียดการจับกุม แต่ยินดีให้ความร่วมมือกับตำรวจ