TISCO - ซื้อ

TISCO - ซื้อ

คาดแนวโน้มกำไรดีทั้งปี

ประเด็นการลงทุน

แม้ว่าสินเชื่อสุทธิรวม 5 เดือนของปี 2560จะหดตัวอยู่ที่ 3.7% YTD แต่เราเชื่อว่า TISCO จะรายงานผลการดำเนินงานที่ดีตลอดปีนี้และปีหน้า โดยมีปัจจัยหนุนดังนี้ 1) การตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯที่ลดลง, 2) ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ดีขึ้น, 3) ยอดขายรถยนต์ใหม่ที่แข็งแกร่งขึ้นในครึ่งหลังปี 2560 และ 4) การเข้าซื้อกิจการสินเชื่อรายย่อยของธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ ประเทศไทย (SCBT) กว่า 4 หมื่นล้านบาทในเดือนก.ย. 2560 เราคาดกำไร TISCO จะอยู่ที่ 6 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 20%) สำหรับปี 2560 และ 6.5 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 8%) สำหรับปี 2561 นอกจากนี้ เราคาดอัตราตอบแทนเงินปันผลสูงถึง 4.8% สำหรับในปีนี้ และ 5.1% ในปีหน้า เนื่องจากสัดส่วนเงินทุนต่อสินทรัพย์มีจำนวนมากอยู่ที่ 19.8% ด้วยส่วนประกอบของ Tier-1 ที่ 14.9% ซึ่งทำให้ธนาคารสามารถเข้าซื้อ SCBT ได้โดยไม่ต้องเพิ่มทุน เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ

คาดไตรมาส2/60 โตดี จากการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯที่ลดลง

เราคาด TISCO จะรายงานกำไรไตรมาส2/60 ที่ 1.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% YoY แต่ลดลง 6% QoQ กำไรที่เติบโต YoY ส่วนใหญ่มาจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ขยายตัวอยู่ที่ 4.10% ในไตรมาส2/60 เพิ่มขึ้นจาก 4.06% ในไตรมาส2/59 เราคาดสินเชื่อรวมจะปรับตัวลดลง 6% นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันและ 2.0% QoQ เนื่องจากมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราผลตอบแทนสูง เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล (สมหวัง เงินสั่งได้) สินเชื่อรถยนต์มือสอง และมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อเช่าซื้อที่เข้มงวดขึ้นสำหรับสินเชื่อเช่าซื้อปกติ เราประมาณการ
ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯของไตรมาสนี้อยู่ที่ 760 ล้านบาท ลดลง 18% YoY จากการจัดการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น เราคาดสัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมจะทรงตัว QoQ อยู่ที่ 2.37% ในปลายเดือน มิ.ย. 2560 กอปรกับอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่สูงถึง 164%

NPL มีแนวโน้มลดลง= โอกาสลดการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯ

จากอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้สูงถึง 164% และสัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมอยู่ในระดับต่ำที่ 2.37% ทำให้ TISCO ยังมีโอกาสปรับลดการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯจากปีที่แล้วมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าประมาณการปัจจุบัน เราคาดว่าธนาคารตั้งสำรองฯอยู่ที่ 3.2 พันล้านบาทสำหรับปี 2560 และ 3.7 พันล้านบาทในปีหน้า ทั้งนี้ TISCO ตั้งเป้าหมายสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯต้นทุนเครดิตปี 2560ที่ 1.3% และที่ 1.4% ในปี 2561

โอกาสเพิ่มประมาณการกำไรจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่าคาด

หากนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธปท.อยู่ที่ 1.50% ตลอดทั้งปีไม่เปลี่ยนแปลงส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยปี 2560 ของ TISCO จะปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากปี 2559 เนื่องจากธนาคารมีแผนระดมเงินฝากเป็นจำนวนมากเพื่อใช้เป็นเงินทุน สำหรับการเข้าซื้อสินเชื่อรายย่อยของ SCBT ที่ 4 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 3/60 ซึ่งหนุนให้ต้นทุนปรับตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้นเราประมาณการส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเชิงอนุรักษ์นิยมอยู่ที่ 3.9% สำหรับปี 2560 และ 2561 ทั้งนี้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยไตรมาส1/60 อยู่ที่ 4.27% หาก TISCO มีส่วนต่างอัตรา
ดอกเบี้ยที่ดีกว่าคาด น่าจะหนุนโอกาสในการปรับเพิ่มประมาณการกำไรสังเกตว่าสินเชื่อ SCBT ส่วนใหญ่ประกอบด้วยสินเชื่อที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง อาทิ เช่น สินเชื่อรายบุคคล (อัตราดอกเบี้ยสูงสุดอยู่ที่ 28%) และสินเชื่อบัตรเครดิต (อัตราดอกเบี้ยสูงสุดอยู่ที่ 20%)