เซลส์ขายยา ปั้น "โซอี้" จากออนไลน์ขยายสู่ห้าง

เซลส์ขายยา ปั้น "โซอี้" จากออนไลน์ขยายสู่ห้าง

อดีตเซลส์มือหนึ่งบริษัทยา เมื่อมาเป็นสะใภ้กงสี ไม่อยากนั่งในตำแหน่งสวยๆไปวันๆ จึงแอบใช้เวลาวันละ 1 ชั่วโมงพร้อมเงินสามหมื่นปั้นแบรนด์“โซอี้”ผ้าพันคอ นวัตกรรม แจ้งเกิดในโลกโซเชียล ก่อนถูกทาบทามขึ้นห้าง จนแบรนด์ติดลมบน

“โซอี้” คือชื่อเล่นของ เภสัชกรหญิงโสภา พิมพ์สิริพานิชย์ ผู้หญิงร่างเล็กๆ สวยใส ใจใหญ่ และชอบทำอะไรพร้อมๆ กันแต่ก็ประสบความสำเร็จ ปัจจุบันเธอคือคุณแม่ลูก 3 ในวัย 36 ปีที่ยังนั่งเก้าอี้บริหารงานถึง 5 บริษัท อาทิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทแฮปปี้โฮม และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทในเครือเล้าเป้งง้วน

สำหรับกิจการส่วนตัว ได้แจ้งเกิดผ้าพันคอ แบรนด์ โซอี้ สคาร์ฟ” (Zoe Scarf)  

ปัจจุบันยังทำหน้าที่เป็นวิทยากร บรรยายเรื่องกลยุทธ์การทำตลาดดิจิทัล โดยใช้ความสำเร็จจากการปั้นแบรนด์ผ้าพันคอบนโลกโซเซียล ให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) ซึ่งแต่ละรอบการบรรยาย มีคนเข้ามาฟังเกินกว่า120คน และเต็มทุกรอบ มียอดจองคิวยาวไปถึงสิ้นเดือนธ.ค.

“โซอี้” เติบโตมาจากครอบครัวคนจีนที่บ้านขายยาและขายของชำในต่างจังหวัด มีพี่น้องหญิงล้วน 3 ใบเถา ทุกคนถูกสอนให้ทำงานจัดของ แพ็คของและเข็นรถส่งของตั้งแต่เด็ก จนแอบนึกอาย ขณะที่เพื่อนขับรถมอเตอร์ไซต์ผ่านหน้าบ้าน เธอกลับต้องเป็นเด็กขนของ แต่เมื่อย้อนกลับมามองถึงความสำเร็จในวันนี้ ต้องนึกขอบคุณพ่อกับแม่ที่สอนให้รู้จักความลำบากก่อนพบความสำเร็จ

ขอบคุณป๊าม๊าสอนให้เรารู้จักความยากลำบากให้เราแต่เด็ก พ่อแม่บางคน ทำร้ายลูกโดยไม่รู้ตัว ให้ลูกสบาย” เธอนึกย้อนวัยเด็กสร้างเธอโตมาแกร่งในวันนี้

เธอเล่าว่า พ่อเป็นแรงบันดาลใจทำให้เธอเข้าเรียนเภสัชศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยรังสิต และเพราะอยากจะช่วยแบ่งเบาภาระช่วยกิจการที่บ้าน จึงทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ทั้งเปิดร้านอาหารญี่ปุ่น รับแสดงละคร เปิดท้ายขายของ ฯลฯ

กลายเป็นใบเบิกทางทำให้เธอจบมาพร้อมกับสิทธิในการเลือกที่ทำงาน เพราะมีประสบการณ์ในการทำงานมาก่อน รู้จักการทำบัญชีรายรับรายจ่าย จนมี 8 บริษัทเรียกตัวเธอทำงาน แต่เธอตัดสินใจเป็นตัวแทนจำหน่ายยาให้กับบริษัทยารายใหญ่ของประเทศ

โซอี้ได้เงินเดือนก้อนแรก1แสนกว่าบาท เพราะพิชิตเป้าหมายยอดขาย ด้วยการเอาใจลูกค้า ทำให้ง่ายต่อการพรีเซนส์สินค้า จนกระทั่งไต่อันดับเป็นเซลล์มือหนึ่งของบริษัท

จุดเปลี่ยนของชีวิตเซลล์เกิดขึ้นหลังจากทำงานได้4ปี พบว่ามีซีสต์ในรังไข่ จนต้องผ่าตัดด่วน ทำให้เธอได้คิดว่าชีวิตคือความไม่แน่นอนจึงต้องเร่งทำชีวิตให้มั่นคง ไม่ใช่แค่ทำงานมีเงินเดือนสบาย รายได้ดี ตื่นเช้าทำงานเย็นไปสังสรรค์กับเพื่อนอีกต่อไป จึงหันมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะมองว่าเป็นธุรกิจที่น่าจะมีเงินเก็บไว้ใช้ในบั้นปลายชีวิต โดยไม่ต้องเหนื่อยหนักเหมือนขายของ

เธอเริ่มจริงจังกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อาทิ ปล่อยกิจการทำเลทองในต่างจังหวัดให้โลตัสเช่า และให้พ่อแม่มาดูแลกิจการอพาร์ทเมนท์ในกรุงเทพฯ โดยที่ตัวเธอเองก็เข้าสู่ถนนอสังหาฯด้วยการไปเรียนปริญญาโทคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขานวัตกรรมการพัฒนาอสังหาฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์พร้อมกับไปตระเวนสำรวจซื้อตึกและที่ดินเพื่อขาย นั่นเป็นอีกจุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอรู้จักสามีในปัจจุบัน (ทายาท เล้าเป้งง้วน) การเข้ามาเป็นสะไภ้ของตระกูลธุรกิจอสังหาฯกลับยังไม่ตอบโจทย์เธอเท่าไหร่นัก ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอบอกว่าไม่อยากนั่งสวยๆไปวันๆ

“ธุรกิจกงสีในบ้านของสามีวางระบบไว้อย่างดีแล้ว เราจึงไม่ต้องทำอะไรมาก” แม้จะสบายแต่ก็เป็นจุดให้ฉุกคิดหาเวทีแสดงผลงานที่สร้างด้วยแนวคิดและไอเดียของตัวเอง

คำตอบของการพัฒนาแบรนด์ ผ้าพันคอ โซอี้ เกิดขึ้นเมื่อตอนไปรื้อตู้เสื้อผ้าแล้วพบว่ามีผ้าพันคออยู่เต็มตู้ พร้อมกับสืบค้นอินเตอร์เน็ทพบว่า ตลาดผ้าพันคอ ลายที่มีสีสัน อย่างที่เป็นไอเดียเธอยังไม่มีใครทำในตลาด จากเงินทุนเริ่มต้น 3 หมื่นบาทพร้อมกับแอบทำธุรกิจบนโลกออนไลน์เพียงวันละ1 ชั่วโมง ทำไปไปนานยอดขายสินค้าเริ่มขยับตัวสูงขึ้น จนห้างสรรพสินค้าเชิญให้นำสินค้าเข้าไปวางบนเชลฟ์

“เราต้องแอบทำเพราะธุรกิจกงสีของสามี ไม่อยากให้เราต้องมาเหนื่อยยุ่งยาก ตอนนั้นท้องลูกคนที่ 2 แล้วด้วย”

“โซอี้” บอกที่มาของการทำสินค้ามีแบรนด์ เพราะกำหนดราคาจากคุณค่าที่ใส่ไปให้กับลูกค้า ซึ่งเจ้าของแบรนด์กำหนดราคาได้เอง ราคาของผ้าพันคอเริ่มต้นที่ผืนละ1,600บาท ราคาสูงสุด3,600บาท ตกแต่งด้วยสวาลอฟสกี้ทั้งผืนระยิบระยับแวววาว

นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผ้าผืนคอแบรนด์โซอี้ เตะใจสาวในแวดวงแฟชั่น ที่ตัดสินใจซื้อด้วยอารมณ์ความรู้สึกล้วนๆ แล้วค่อยหาเหตุผลมาสนับสนุน ยอดขายผ้าพันคอโซอี้จึงขยายรวดเร็ว ขายเข้าเดือนที่8ก็ขยายไปแล้ว8ประเทศ

ลูกค้ารู้จักแบรนด์และเข้าใจในความเป็นตัวตนของแบรนด์ได้จาก เจ้าของแบรนด์รักษาจุดยืน  และความเป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัว(Brand Identity) เช่น แบรนด์โซอี้ มีสโลแกน สีสันในตัวคุณ (Colorfully yours)เป็นผ้าพันคอที่มีสีสันเสริมบุคลิกให้เกิดความสดชื่น ดูสว่างสดใส และเด็กลง

นั่นคือไอเดียที่เธอไม่ได้เก่งวาดรูป หรือเก่งศิลปะ แต่มีรสนิยมที่ฉายภาพนี้ให้ดีไซน์เนอร์ร่างภาพขึ้นมาเป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หนีจากตลาดแข่งขันดุเดือด หรือ แฟชั่นที่มาเร็วไปเร็ว แต่เธอทำให้ผ้าพันคอ เป็นเครื่องประดับตกแต่ง ที่สารพัดประโยชน์ เอนกประสงค์ ทำได้ทั้งกระเป๋า เสื้อ ที่คาดผม กระเป๋า

เราไม่ได้ทำผ้าพันคนเป็นแฟชั่น แต่เราทำให้เป็นแอสเซสเซอรี่ที่ใช้ได้อย่างเอนกประสงค์ในชีวิตประจำวันจึงขายได้เรื่อยๆ"

ไม่เพียงเท่านี้ เธอยังคิดต่อไปอีกว่าผ้าพันคอผืนนี้มีนวัตกรรมที่มีกลิ่นหอม ยิ่งขยี้กลิ่นยิ่งกระจาย หรือผ้าให้ความอบอุ่นในห้องแอร์ แต่ให้ความเย็นสดชื่นเพื่อเจออากาศร้อน นั่นเพราะไปเจอนวัตกรรมจากการเป็นคนช่างสังเกตุ หยิบนั่น ผสมนี่ จนสินค้ามีความแตกต่าง ลงตัวในความเป็นตัวตนของ “โซอี้” ซึ่งปัจจุบันกำลังขยายไปต่างจังหวัด เน้นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยว นำร่องในภูเก็ต เขาใหญ่ รวมถึงตลาดต่างประเทศ มียอดขายกว่าร้อยล้านบาทแล้ว

เธอยังตั้งใจจะทำให้ผ้าพันคอโซอี้ เป็นแบรนด์ผ้าพันคอระดับท็อปในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วโลก และกำลังแตกไลน์สู่สินค้าอื่นๆ

สำหรับธุรกิจโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่เริ่มต้นพร้อมๆ กันกับผ้าพันคอ ยังเติบโตได้ดีสวนกระแสเศรษฐกิจทรงตัว เพราะผลิตภัณฑ์ดูแลความงาม เป็นกลุ่มธุรกิจดาวรุ่งที่กำลังเติบโต บวกกับกระแสที่คนในยุคปัจจุบันนิยม สร้างแบรนด์ครีมของตัวเอง โรงงานจึงมีคำสั่งซื้อเติบโตไปพร้อมกัน

โซอี้ถอดบทเรียนความสำเร็จธุรกิจเอสเอ็มอีในยุคปัจจุบันว่า ถือเป็นยุคเชิงรุกของแบรนด์ ที่จะนำสินค้าบุกไปขายให้ตรงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยใช้สื่อโซเชียลให้เป็นประโยชน์ จากเดิมที่นั่งทำการตลาดเชิงรับ รอให้ลูกค้าค้นเจอ แต่วันนี้ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้าเป็นที่รู้จัก ผ่านเครืองมือสื่อสาร เฟซบุ๊ค อินสตาแกรม ไลน์ และยูทู้บ ที่ปัจจุบันมีไลฟ์ (Liveสด) ทำให้สื่อสารได้ง่ายขี้น

เธอยังแนะนำ4 เทคนิคการตลาดออนไลน์ให้เอสเอ็มอีจดจำไปใช้ ประกอบด้วย การสร้างการรับรู้ (Awareness)ทำให้สนใจ (Interest) เปลี่ยนเป็นความต้องการ (Need)และปิดการขายให้ได้ (Action)

ทิ้งท้ายคำแนะนำ เธอยังบอกว่า โลกออนไลน์หากทำเล่นๆ ไม่ใช้ประโยชน์ก็ได้ผลลัพธ์เล่นๆ แต่หาเราศึกษาลงไปคลุกและจริงจัง เรียนรู้กับมัน ก็จะเข้าใจและหาวิธีการสร้างกลยุทธ์สร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจ

คนอยากเป็นเจ้าของกิจการ ที่เริ่มต้นธุรกิจมีไอเดียเยอะ ให้หาเริ่มจากสิ่งใกล้ตัวที่ตัวเองชอบแล้วลงไปศึกษาอย่างจริงจัง แม้จะไม่มีความรู้มาก่อนก็เรียนรู้ได้ เหมือนโซอี้ ไม่เคยทำอสังหาฯมาก่อน ไม่เคยทำตลาดออนไลน์และไม่มีความรู้ผ้าพันคอแต่เกิดจากการทำสม่ำเสมอ กัดไม่ปล่อย เป็นขีดวัดความสำเร็จ ให้เราก้าวข้ามอุปสรรค

ส่วนคนทำธุรกิจต้องรู้ความถนัดเฉพาะตัวของตัวเองว่า เราถนัดอะไร หากไม่ถนัดก็จ้างให้คนอื่นไปแทนที่จะมานั่งเสียเวลา เช่น โซอี้เคยคิดไปเรียนออกแบบเอง แต่สุดท้ายก็ทำออกมาไม่สวยเหมือนมืออาชีพ ก็ต้องปล่อยให้คนถนัดมาทำ

-------------------------------------------------

เคล็ดลับปั้นแบรนด์ "โซอี้"

-ลุย ศึกษาจริงจัง ทำสม่ำเสมอ กัดไม่ปล่อย

-รักษาตัวตนแบรนด์

-จ้างคนอื่นทำในงานที่ไม่ถนัด

-4ขั้นตอนการตลาดดิจิทัล > รับรู้,สนใจ,ต้องการ,ปิดการขาย