วิคเตอร์คลับบูมธุรกิจประชุมจับกลุ่มสตาร์ทอัพ

วิคเตอร์คลับบูมธุรกิจประชุมจับกลุ่มสตาร์ทอัพ

โกลเด้นแลนด์ส่งวิคเตอร์ คลับ แตกไลน์ธุรกิจประชุมสัมมนา เจาะช่องว่างตลาดกรุ๊ปขนาดกลางแข่งขันต่ำ ยึดทำเลตึกเอฟวายไอ จับตลาดย่านพระราม4-อโศก ชี้กลุ่มลูกค้าสตาร์ทอัพ-สมาร์ทเทค โตแรง ชูสตรีทฟู้ดจัดเลี้ยงตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

นางสาวปิยะวัลย์ สร้อยน้อย ผู้อำนวยการวิคเตอร์ คลับ กล่าวว่า วิคเตอร์ คลับ ซึ่งเป็นธุรกิจบริการให้เช่าสถานที่เพื่อการจัดงานประชุม สัมมนา และงานเลี้ยง อยู่ภายใต้การพัฒนาของบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (โกลเด้นแลนด์) ได้ขยายธุรกิจให้บริการสถานที่จัดประชุมเป็นแห่งที่ 2 ในกรุงเทพฯ มีที่ตั้งอยู่ในอาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ ต่อจากสาขาแรกที่ สาทรสแควร์ โดยทั้ง 2 แห่งเป็นอาคารสำนักงานในโครงการของโกลเด้นแลนด์เช่นกัน โดยวิคเตอร์ คลับ เอฟวายไอ เปิดบริการมาตั้งแต่ปลายปี 2559 มีพื้นที่การใช้สอยรวม 950 ตร.ม. ใกล้เคียงกับสาขาแรกที่สาทรมีพื้นที่ใช้งานกว่า 922 ตร.ม. และเปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2558

การแตกไลน์มาจับธุรกิจดังกล่าว เนื่องจากเห็นช่องว่างของตลาดให้บริการเช่าสถานที่จัดประชุมในไทยในกลุ่มขนาดกลาง (ไซส์ M) พื้นที่เฉลี่ย 500-1,000 ตร.ม. ความจุรองรับได้ไม่เกิน 300 คน ยังมีจำนวนอุปทานไม่มากเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น จากการศึกษาตลาด พบว่าในย่านสาทรมีพื้นที่รวมของทุกรายรวมกันราว 1.1 หมื่นตร.ม. และย่านพระราม 4 ถึงอโศก มีรวมกันราว 1.1 หมื่นตร.ม. ขณะที่อุปสงค์ตลาดที่ต้องการยังมีสูงมาก เพราะขยายตัวตามการเติบโตของกลุ่มธุรกิจประเภทสตาร์ทอัพ, สมาร์ท เทคโนโลยี และ กลุ่มที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor) ซึ่งที่ผ่านมาเป็นลูกค้าหลักครองสัดส่วนกว่า 40%, 30% และ 20% ตามลำดับ

“กลุ่มสตาร์ทอัพ เข้ามาเป็นหลัก เพราะเทรนด์ของธุรกิจเหล่านั้นจะเป็นขนาดกลางและย่อม มักเลือกเช่าพื้นที่สำนักงานในพื้นที่จำกัด เนื่องจากราคาต่อตารางเมตรในกรุงเทพฯ ถีบตัวสูงขึ้น ดังนั้นการมีบริการอย่างวิคเตอร์ คลับมาเสริม จะช่วยกลุ่มลูกค้าลดต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) ด้วยการมาเลือกใช้บริการจัดประชุมเสริมเมื่อมีความจำเป็นแทน โดยนอกจากสตาร์ทอัพแล้ว กลุ่มสมาร์ทเทค ก็น่าจับตาเพราะมีอัตราการเติบโตกว่า 10% ส่วนใหญ่ต้องการพื้นที่เพื่ออบรมการใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมา เช่นเดียวกับกลุ่มที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ต้องการพื้นที่จัดคอร์สอบรมต่างๆ เช่น การเทรดหุ้นออนไลน์ เป็นต้น”

นอกจากนั้น การวางทำเลที่ตั้งบนย่านที่มีรถไฟฟ้าผ่าน ทำให้นอกจากลูกค้าเป้าหมายในอาคารสำนักงานที่ตั้งเดียวกันแล้ว ยังสามารถขยายไปยังกลุ่มโดยรอบ และสามารถขยายไปยังกลุ่มลูกค้าโรงแรมด้วย เพราะจากการศึกษาพบว่าโรงแรมใหญ่ในย่านสาทร มักจะมีพื้นที่จัดงานขนาดไซส์ L ขนาด 1,000-5,000 ตร.ม. รองรับในระดับ 3,000 คน มีบริการเต็มรูปแบบพร้อมความหรูหรา ซึ่งอาจจะเกินความต้องการของกรุ๊ปประชุมสัมมนาบางรูปแบบ ที่ต้องการความยืดหยุ่น เน้นบริการตัวเอง (Self service) และงบประมาณจำกัดในการจัดงานมากกว่า เนื่องจากวางระดับราคาต่ำกว่าห้องประชุมโรงแรมราว 15-20% ในช่วงเปิดตัววางราคาแนะนำไว้ที่ 495 บาท/คน สำหรับการประชุมครึ่งวัน

สำหรับวิคเตอร์ คลับ เอฟวายไอ แม้จะตั้งตรงข้ามกับศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แต่ไม่เป็นคู่แข่งโดยตรง เนื่องจากศูนย์ฯ จะเน้นการรับงานขนาดใหญ่พิเศษ (XL) เช่นการจัดนิทรรศการหรือประชุมขนาดใหญ่ที่ต้องใช้พื้นที่กว่า 1 หมื่นตร.ม.ขึ้นไป หรือมีผู้เข้าร่วมระดับ 1 หมื่นคนขึ้นไปมากกว่า ขณะที่การมีโรงแรมโมเดน่า บาย เฟรเซอร์ อยู่ในบริเวณเดียวกัน จะกลายเป็นประโยชน์ในการทำตลาดเหนือคู่แข่งรายอื่นๆ เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือ เพื่อจัดแพ็คเกจประชุมและที่พักแบบครบวงจรนำเสนอพร้อมกัน

นางสาวปิยะวัลย์ กล่าวว่า ตั้งเป้าอัตราการใช้พื้นที่เฉลี่ยปีนี้ 50% สำหรับทั้งสองสาขา และมีการเติบโตเฉลี่ยราว 20% โดยสาขาเอฟวายไอ กลุ่มลูกค้าหลักมาจากบริษัทที่เช่าพื้นที่สำนักงานเอฟวายไอที่มีอยู่กว่า 85% แล้ว และส่วนใหญ่เป็นการนำเสนอแพ็คเกจคอร์ปอเรตสำหรับการใช้งานระยะยาว ซึ่งจะมีราคาต่ำกว่าการใช้งานเป็นรายครั้ง กลุ่มธุรกิจที่เข้ามาใช้งานมากที่สุดคือการประชุมขนาด 50-80 คน ซึ่งเป็นไปตามเทรนด์การจัดประชุมในปัจจุบัน ที่จะเน้นย่อขนาดลงเหลือ 40-60 คนต่อครั้งมากขึ้น

นอกจากนั้น เพื่อเป็นการตอบสนองการใช้งานของธุรกิจสตาร์ทอัพที่เป็นคนรุ่นใหม่ จึงออกแบบบริการที่ตอบสนองความต้องการโดยเฉพาะ เช่น บริการจัดอาหารสตรีทฟู้ด เป็นทางเลือกจากอาหารมาตรฐานโรงแรม 5 ดาว โดยสามารถให้คำแนะนำร้านดังหรือติดต่อร้านตามที่ลูกค้าต้องการ เพื่อมาให้บริการภายในงานได้ รวมถึงการอำนวยความสะดวกในการจัดปาร์ตี้ส่วนตัว หรือการสังสรรค์ในโอกาสต่างๆ ที่เป็นส่วนตัวมากกว่าร้านอาหารหรือโรงแรม และสามารถหยืดหยุ่นเวลาในการสังสรรค์ดึกกว่าโรงแรมทั่วไปได้ด้วย