'ตลาด' ย้ำบจ.สุขภาพดี

'ตลาด' ย้ำบจ.สุขภาพดี

ตลาดย้ำ "บจ.สุขภาพดี" เชื่อระดมทุนบีอีชะงักหันกู้แบงก์ทดแทนได้ “เอิร์ธ”ส่งข้อมูลต่อเนื่องแจงไม่แขวนเอสพี

ตลาดหลักทรัพย์ เกาะติดบริษัทกลาง-เล็ก มั่นใจสุขภาพยังดีมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนเฉลี่ย1.2 เท่า เชื่อระดมทุนตั๋วบีอีมีปัญหาหันขอกู้แบงก์แทน ชี้เอิร์ธส่งข้อมูลล่าสุดแล้วไม่จำเป็นต้องขึ้นเครื่องหมายหยุดซื้อขาย วงการแบงก์เผยหลังเกิดปัญหาธปท.ตามติดเรื่องนี้ใกล้ชิด ขณะ โฆษกแบงก์ชาติ ย้ำเงินกองทุนแบงก์แกร่ง

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  กล่าวว่า กรณีที่มีความกังวลของผลการดำเนินงานในบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีปัญหาในการผิดนัดชำระหนี้นั้น ปัจจุบันตลาดได้ติดตามปัญหาอย่างใกล้ชิด และดำเนินการก่อนหน้า ซึ่งมองว่าสุขภาพของบริษัทจดทะเบียนยังเข้มแข็ง 

“ที่ผ่านมาตลาดได้เข้าไปติดตามสถานการณ์ตั้งแต่ช่วงที่ปัญหาตั๋วบีอีรอบที่ผ่านมา และรอบนี้จะเข้าติดตามสถานการณ์เพิ่มขึ้น หากพิจารณาด้านปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนที่มีปัญหาสภาพคล่อง  ตลาดมองว่าไม่น่าเป็นห่วง เพราะหากพิจารณาสัดส่วนหนี้สินต่อทุนเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ1.2 เท่า จึงไม่น่ากังวล”

ด้านการระดมทุนของบริษัทจดทะเบียน มองว่า ขณะที่การระดมทุนรูปแบบตั๋วบีอีหยุดชะงัก ยังมีช่องทางที่สามารถเข้าระดมทุนได้คือ การกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ซึ่งหากภาวะเศรษฐกิจไม่ได้ชะลอตัวระยะยาว เชื่อว่าสถาบันการเงิน น่าจะเข้ามาช่วยสนับสนุน

สำหรับกรณีการผิดนัดชำระหนี้ ของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ ตลาดหลักทรัพย์ยืนยันไม่ขึ้นเครื่องหมายพักการซื้อขาย( SP) หุ้นดังกล่าว หลังบริษัทชี้แจงข้อมูลเพียงพอสำหรับนักลงทุนแล้ว จุดประสงค์ของตลาดคือต้องการให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจหลังจากนี้ ตลาดจะจับตาการแก้ปัญหาตั๋วบีอีที่เหลือประมาณ 470 ล้านบาท

แหล่งข่าววงการสถาบันการเงิน กล่าวว่า หลังเกิดปัญหาผิดนัดชำระหนี้(ดีฟอลท์) ตั๋วแลกเงินของ เอิร์ธ และเกี่ยวโยงมาถึงสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง โดยเฉพาะธนาคารกรุงไทย ซึ่งถือเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ ทำให้ ธปท. เข้ามาดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น โดยได้ขอให้ธนาคารที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริงถึงปัญหาที่เกิดขึ้นไปยัง ธปท.

“ปกติแบงก์ชาติก็เข้ามาตรวจสอบเป็นประจำอยู่แล้ว ถ้าเห็นว่ามีมุมไหนที่ควรต้องปรับเปลี่ยน ก็จะจี้มาให้ปรับ เป็นเรื่องปกติที่ทำกับทุกแบงก์ ในส่วนของกรุงไทยเองที่ผ่านมาก็มีการปรับตัว หรือปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว”

นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ในฐานะโฆษก ธปท. กล่าวว่า ตามที่มีข่าวเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบีอี ของบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่ง และมีคำถามเกี่ยวกับผลกระทบต่อธนาคารเจ้าหนี้หรือไม่นั้น ธปท.ขอเรียนว่า ระบบธนาคารพาณิชย์ยังมีเงินกองทุนอยู่ในระดับสูง

โดยอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ (Common Equity Tier 1) อยู่ที่17.8% และ 15.1% ตามลำดับ และที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์มีการติดตามดูแลคุณภาพของลูกหนี้อย่างใกล้ชิด และมีการกันสำรองตามหลักของการบริหารความเสี่ยงที่ดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ธปท. จะติดตามสถานการณ์และผลกระทบจากกรณีนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป