MORNING CALL ACTION NOTES (12 มิ.ย.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (12 มิ.ย.60)

เลือกเล่นรายตัว

ตลาดหุ้นไทยวันก่อนปรับตัวลง เนื่องจากขาดปัจจัยกระตุ้นการลงทุนรวมถึงแรงขายกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงหลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯเพิ่มขึ้น กดดันให้ SET จะปิดที่ 1,566.65 จุด (-3.63 จุด) ด้วย Volume 4.5 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -1,148 ลบ. TFEX Net -4,662 สัญญา และตลาดตราสารหนี้ -197 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+/- พรรคอนุรักษ์นิยมอังกฤษของนายกฯเทเรซา เมย์ จับมือพรรค DUP เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลผสม 329 เสียง เดินหน้า Brexit รวมถึงนโยบายอื่นๆ

+ ตลาดหุ้น DJ ดีดตัวขึ้น จากผลการเลือกตั้งอังกฤษไม่มีพรรคการเมืองใดครองเสียงข้างมากในสภา รวมถึงคำให้การของนายเจมส์ โคมีย์ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำรงตำแหน่งปธน.ของโดนัลด์ ทรัมป์

+/- ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นเล็กน้อยล่าสุด 46.1 US/Barrel จากแรงซื้อเก็งกำไรหลังราคาน้ำมันทรุดตัวลงแรงจากแนวโน้มภาวะน้ำมันล้นตลาด

+/- Fund Flow ต่างชาติผันผวนล่าสุดพลิกเป็น Net Sell 1.1 พันลบ. แต่เงินบาทแข็งค่าล่าสุด 34 Bath/USD

+ รมว.คมนาคม เตรียมเสนอโครงการรถไฟ 3 เส้นทางให้ครม.พิจารณาในอีก 2 เดือน-รถไฟฟ้า 6 สายใน H2/60

- เลขาฯส.ป.ก.เล็งเรียกค่าเสียหาย"ปตท.สผ.อินเตอร์ฯ"ใช้ที่ดินผลิตปิโตรเลียมโดยไม่ได้รับความยินยอม

** 13-14 มิ.ย. FED ประชุมนโยบายการเงิน (โพลคาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.25% )

ภาวะตลาดหุ้นไทยมี Sentiment เชิงลบจากข่าว ส.ป.ก.เล็งเรียกค่าเสียหาย"ปตท.สผ.อินเตอร์ฯ" ใช้ที่ดินผลิตปิโตรเลียมโดยไม่ได้รับความยินยอม ประกอบกับ Fund Flow ต่างชาติที่ผันผวนตามการคาดการณ์ FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 13 – 14 มิ.ย. อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงหนุนจากกลุ่มหุ้นที่มีประเด็นข่าวรายตัว ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ1,560 – 1,575จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy

- CHO เตรียมเซ็นรับงานติดตั้ง e-Ticket มูลค่า 1,665 ล้านบาทกับขสมก. วันที่ 15 มิ.ย. (ข่าวหุ้น)

- BANPU ราคาถ่านหิน +8% WoW ล่าสุด 79.5 US/Ton

- หุ้นที่ได้เข้าคำนวณ FTSE SET Mid Cap Index รอบใหม่ BPP EA KSL TPIPP VNT WHAUP มีผล 19 มิ.ย.

- หุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณรอบใหม่ของ SET50 EA MTLS BJC BPP TISCO และ SET100 BCPG WORK ANAN GFPT (คาดประกาศกลางเดือนมิ.ย.)

หุ้นแนะนำพิเศษ

AOT Analyst Meeting (ราคาปิด 44.50 Bloomberg Consensus 43.33)

- เป็นเจ้าของท่าอากาศยาน 6 แห่ง ดอนเมือง สุวรรณภูมิ เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต และหาดใหญ่ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 100 ล้านคน โดยผู้บริหารตั้งเป้าหมายขยายการรับผู้โดยสารให้ได้อีก 100 ล้านคนภายในปี 2570 โดยจะเน้นขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 และพัฒนาเชียงใหม่และภูเก็ตเป็นศูนย์กลางในการต่อเครื่องบิน

- ประเด็นกรมธนารักษ์จะเปลี่ยนการเก็บค่าเช่าจากส่วนแบ่งรายได้ 5% เป็นผลตอบแทนจากทรัยพ์สิน ผู้บริหารมองไม่กระทบต่อการดำเนินงานเนื่องจากจะปรับค่าเช่าเฉพาะพื้นที่เชิงพาณิชย์ซึ่งทางบริษัทจะให้เอกชนที่รับสัมปทานจะเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้คาดว่าการปรับรูปแบบการเก็บค่าเช่าจะไม่มีผลย้อนหลัง(ปี 2555-ปัจจุบัน) แต่จะเริ่มใช้หลังการตกลงแล้วเสร็จ

หุ้นมีข่าว

TMILL Analyst meeting

- กำไรงวด 1Q60 ออกมาโตเด่นถึง 150% yoy และ 78% qoq หลักๆเกิดจาก รายได้ที่เติบโต 4.7% yoy และ GPM ที่เพิ่มขึ้นจาก 13.4% มาที่ 22.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผู้บริหารได้ให้รายละเอียดว่าได้ประโยชน์จาก การมีสต็อกข้าวสาลีในช่วงที่ราคาต่ำกว่าปัจจุบัน, ราคารำข้าวสาลีที่ฟื้นตัวตามราคาข้าวโพด (อาหารสัตว์) และได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอีกบางส่วน หลังค่าเงินบาทแข็งค่า

- สำหรับ Outlook การใช้กำลังการผลิตตั้งเป้าเพิ่มขึ้น 10% ต่อปี ในอีก 3 ปีข้างหน้า (2017 - 2019) จากปี 2016 ที่ 65% โดยเน้นแผนการขยายฐานลูกค้าใหม่ในต่างจังหวัด พร้อมกับเพิ่มช่องทางขายผลิตภัณฑ์ใหม่ แก่ลูกค้ารายเดิมใน กทม.และปริมณฑล นอกจากนี้ ในปี 2017 ยังได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงราว 16 ล้านบาทจากปีก่อนหน้า หลังชำระหนี้ระยะยาวหมด โดยงวด 2Q60 นี้เริ่มเห็นการใช้กำลังการผลิตที่มากขึ้น qoq แม้เป็นช่วง low season

-  ความเห็น การเติบโตงวด 1Q60 ดังกล่าว เป็นผลจากราคาสินค้า Commodity ที่เอื้อต่อบริษัทเป็นหลัก ส่งผลให้การคาดหวังต่อการเติบโตในระดับสูงสำหรับช่วงที่เหลือของปีอาจมีหลายความเสี่ยง นอกจากนี้ ราคาปัจจุบัน ก็ได้ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องหลังรายงานกำไรงวด 1Q60 ไปแล้วถึง 49.7% ภายในเวลาเพียง 19 วันทำการ (Trailing P/E ที่ 18.6 เท่า) จึงควรติดตามราคาข้าวสาลี ราคาข้าวโพดอาหารสัตว์ และค่าเงินบาท อย่างใกล้ชิด พร้อมกับเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน

- PTTEP (ราคาปิด 87 Bloomberg Consensus 100.65) เลขาฯ ส.ป.ก.เล็งเรียกค่าเสียหาย"ปตท.สผ.อินเตอร์ฯ"ที่ อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร ใช้ที่ดินผลิตปิโตรเลียมโดยไม่ได้รับความยินยอม โดยจะคิดตั้งแต่วันกระทำละเมิดจนถึงวันที่ 30 พ.ย.58 เป็นเงินประมาณ 20 ล้านบาท (ที่มาอินโฟเควสท์)

  ความเห็น เราคาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อบริษัทแม้ว่าจะเป็นคนละบริษัทกับแหล่งผลิต S1 ก็ตาม เนื่องจากค่าปรับ 20 ล้านบาทคิดเป็นเพียง 0.08% ของคาดการณ์กำไรทั้งปีของ PTTEP ที่ 2.4-2.5 หมื่นล้านบาท ส่วนแหล่งผลิต S1 คาดจะกลับมาผลิตได้เร็วกว่าที่คาด (“ส.ป.ก.” ขานรับ “ก.พลังงาน” เสนอรัฐบาลใช้ม.44 แก้ปัญหาแหล่งปิโตรเลียมบนพื้นที่ ส.ป.ก. ที่มาข่าวหุ้น)

- ประเด็นบวก DTAC (ราคาปิด 50.75 Bloomberg Consensus 40.65) จากกรณีการปรับลดค่าธรรมเนียม USO จากเดิมเก็บ 3.75% ลงเหลือ 2.5% ของรายได้ โดยจะมีดำเนินการจัดเก็บในอัตราใหม่ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. 60 เป็นต้นไป (มติที่ประชุม กทค.เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 60) พบว่า DTAC จะได้รับประโยชน์มากสุดจากผู้ประกอบการทั้ง 3 ราย เพราะมีฐานรายได้ที่ใกล้เคียงขณะที่ฐานกำไรยังต่ำ อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น DTAC ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 16.7% แล้ว ตั้งแต่มีมติที่ประชุมดังกล่าว จึงอาจต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุน

- ประเด็นลบ KTB (ราคาปิด 18.80 ซื้อเมื่ออ่อนตัว ราคาเหมาะสม 21.60) พร้อมช่วยเหลือ EARTH หากแก้ปัญหาจริงจัง ย้ำเงินกองทุนแกร่ง ชี้หากต้องตั้งสำรองเพิ่ม กระทบผลดำเนินงานเพียงเล็กน้อย (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)

  ความเห็น NPL ณ ปลาย 2Q60 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก Q1 ที่เพิ่มขึ้น 10%YTD ณ ปลาย 1Q60 กดดันการตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นจากเดิม ทั้งนี้ consensus คาดกำไรปี 60 ราว 3.26 หมื่นลบ. +13% ซึ่งเป็นไปได้ว่า consensus จะพิจารณาเพิ่มสมมติฐานสำรองหนี้สูญกดดันผลประกอบการให้เติบโตน้อยลงในปีนี้

- D (ราคาปิด 8.85 ซื้อ ราคาเหมาะสม 10.40) เล็งเปิดศูนย์ทันตกรรม "Dental Signature" ในห้างสรรพสินค้าย่านสุขุมวิทภายใน Q3/60 รองรับลูกค้าระดับพรีเมี่ยม ผู้บริหารมองว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพสำหรับลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ ระดับพรีเมี่ยมซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และคาดว่าศูนย์ทันตกรรมแห่งใหม่จะสามารถทำกำไรได้ภายใน 1-2 ปีตามแผน ช่วยผลักดันรายได้ปีนี้โต 5-10% ตามเป้าหมาย (ที่มา อินโฟเควสท์)

  ความเห็น สาขาใหม่จะเป็นสาขาที่ 13 จากปัจจุบัน 12 สาขาอยู่ในกรุงเทพฯ 10 สาขาและภูเก็ต 2 สาขา บริษัทมีแผนเปิดสาขาใหม่ 3-4 สาขาในปีนี้ ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานในอนาคต โดยคาดการณ์รายได้และกำไรสุทธิปี 60 อยู่ที่ราว 465 ล้านบาท และ 56 ล้านบาทซึ่งเติบโต 6% และ 32% ตามลำดับ

- ประเด็นบวกกลุ่มรับเหมา - รฟท.เผย ITD-CK-STEC-UNIQ-NWR-PLE ซื้อซองชิงงานรถไฟทางคู่นครปฐม-หัวหิน 1.58 หมื่นลบ. โดยกำหนดเสนอราคาผ่าน e-Auction ในวันที่ 27 ก.ค. และรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพรมูลค่า 1.25 หมื่นลบ. กำหนดเสนอราคา e-Auction ในวันที่ 30 ส.ค.

- NVD จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 52.7 ล้านหุ้นให้ PP จำนวน 3 ราย ที่ราคาหุ้นละ 5 บาท

- J จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้ผถห.เดิมสัดส่วน 3.35:1 ราคาหุ้นละ 2 บาท หวังใช้เป็นทุนหมุนเวียน-คืนหนี้


ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +89.44 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,271.97 จุด เพิ่มขึ้น 89.44 จุด หรือ +0.42% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,431.77 จุด ขยับลง 2.02 จุด หรือ -0.08% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,207.92 จุด ร่วงลง 113.85 จุด หรือ -1.80% จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มการเงินและพลังงาน อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ลดช่วงบวกลงจากระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในระหว่างวัน หลังจากที่นักลงทุนแห่เทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งฉุดให้ดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลงไปถึงเกือบ 2%

ตลาดน้ำมัน NYMEX +0.19 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 45.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ตลอดสัปดาห์ สัญญาร่วงลง 3.8% เนื่องจากนักลงทุนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาสัญญาน้ำมันปรับตัวลดลงติดต่อกันมา 2 วัน อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายโดยรวมยังคงถูกกดดันจากแนวโน้มภาวะน้ำมันล้นตลาด แม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) พยายามลดกำลัง

ส่องหุ้น

MGT แนวรับ 2.74-2.72 บาท แนวต้าน 2.80 , 2.90-2.94 บาท

- ระดับราคาดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้อีกครั้งหลังจากปรับตัวลดลงติดต่อกัน 3 วัน อีกทั้งยังมีวอลุ่มซื้อขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และปิดได้ในระดับสูงสุดของวัน หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 2.74-2.72 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับผ่าน 2.80 บาท ขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมตั้งแต่เข้าตลาดบริเวณ 2.90-2.94 บาทต่อไป

 BCPG แนวรับ 14.70 บาท แนวต้าน 15.20-15.30 บาท

- ระดับราคาดีดกลับขึ้นมาทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบสัปดาห์อีกทั้งยังปิดได้ในระดับสูงสุดของวันอีกด้วย ในขณะที่วอลุ่มซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นพอสมควร ทำให้วันนี้มีโอกาสที่ MACD จะดีดกลับขึ้นมายืนเหนือเส้น SIGNAL อีกครั้ง หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 14.70 บาทซะก่อน ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับขึ้นทำ New high ต่อแถวๆ 15.20-15.30 บาทต่อไป

TACC แนวรับ 7.00-6.95 บาท แนวต้าน 7.10 , 7.25 บาท

- ระดับราคาดีดกลับขึ้นมาได้อีกครั้งหลังจากในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีแต่แรงขายทำกำไรระยะสั้น แต่วอลุ่มซื้อขายลดลง จนกระทั่งเพิ่มขึ้นสูงในช่วงท้ายสัปดาห์ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 6.95 บาทซะก่อน ระดับราคายังมีโอกาสดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 7.10 บาท และ 7.25 บาทต่อไป