หิ้ว 'แก๊งยากูซ่า' ฝากขัง คดีอุ้มนักธุรกิจเรียกค่าไถ่6ล้าน

หิ้ว 'แก๊งยากูซ่า' ฝากขัง คดีอุ้มนักธุรกิจเรียกค่าไถ่6ล้าน

นครบาลหิ้ว3ชายชาวญี่ปุ่น สมาชิก "แก๊งยากูซ่า" ส่งศาลฝากขัง คดีอุ้มนักธุรกิจเรียกค่าไถ่6ล้าน เผยเข้ามาไทยตามความเคลื่อนไหวเหยื่อหลายเดือนแล้ว

จากกรณีตำรวจสน.ทองหล่อ เจ้าหน้าที่บก.ทท. เจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่น และ เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ร่วมกันเข้าช่วยเหลือนายวาตานาเบ้ ซึเนมิ (Mr.Watanabe Tsunemi) นักธุรกิจเจ้าของบริษัทจำหน่าย เครื่องมือแพทย์ ถูกคนร้าย 3 คนจับตัวมากักขังไว้ในห้องพักเลขที่ 719 ชั้น 7 อพาร์ทเม้นต์ แกรนด์ ไฮ เทค ทาวเวอร์ ภายในซอยเอกมัย 23 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.

และสามารถจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ภายในห้อง เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 9 มิ.ย ที่ผ่านมา พร้อมของกลาง ทั้งธนบัตรไทยและญี่ปุ่น เชือก ไม้เบสบอล และอาวุธปืนลูกโม่เทียม มาตรวจทำบันทึกหลักฐาน เบื้องต้นมูลเหตุครั้งนี้เกิดจากความขัดแย้งทางธุรกิจและเรื่องเงินในอดีต

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 มิถุนายน ตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้ควบคุมตัวนายมาซาโตะ โคบาริ (Mr.Masato Kobari) อายุ 49 ปี นายเลโอ ซึรุโซเอะ (Mr.Reo TsuruZoe) อายุ 41 ปี (หัวหน้าแก๊ง) และ นายคิโยโต้ มิยาตะ (Mr.Kiyoto Miyata) อายุ 57 ปี ทั้งหมดสัญชาติญี่ปุ่น ผู้ต้องหา ในข้อหาปล้นทรัพย์,ร่วมกันทำร้ายร่างกาย,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ขึ้นรถผู้ต้องขัง โดยทั้งสามมีสีหน้าที่เรียบเฉย ปราศจากญาติมาเยี่ยมแต่อย่างใด

ทั้งนี้ในท้ายคำร้องฝากของของพนักงานสอบสวน ระบุว่า ขอคัดค้านการประกัน เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบ และเกิดความยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานอีกด้วย

และมีรายงานข่าวแจ้งว่า ทางชุดสืบสวนได้ข้อมูลสำคัญมาว่า ภายหลังจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พบว่านายมาซาโตะ โคบาริ มีรอยสักตามร่างกายขนาดใหญ่ที่แผ่นหลัง ประกอบกับมีร่องรอยการตัดนิ้วก้อยที่มือฝั่งซ้าย ทำให้ชุดสืบสวนให้ความสำคัญเป็นพิเศษ จนได้รับการยืนยันแล้วว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นสมาชิกแก๊งยากูซ่า ของชาวญี่ปุ่นที่นิยมความโหดเหี้ยม มักชื่นชอบการสักตามร่างกายเพื่อเป็นสัญลักษณ์ อีกทั้งลักษณะการตัดนิ้วก้อยนั้นถือเป็นการลงโทษของชาวแก๊งหากมีการประพฤติผิด

เมื่อทางตำรวจตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของกลุ่มคนร้ายพบว่า มีการพูดคุยกับผู้ที่สั่งการจากต่างประเทศ ถึงเรื่องการเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 6 ล้านบาท (20ล้านเยน) และพบว่าคนร้ายได้เข้ามาติดตามความเคลื่อนไหวของนายวาตานาเบ้ ซึเนมิ มาหลายเดือนแล้ว เนื่องจากพบหลักฐานเป็นรูปถ่ายนายวาตานาเบ้ในโทรศัพท์ของผู้ต้องหาเป็นจำนวนหลายภาพ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ต้องรอนายวาตานาเบ้อาการดีขึ้นเสียก่อนจึงจะสามารถสอบปากคำเพิ่มเติมได้