ศาลออกหมายจับอดีตพนง.เวรเปลแล้ว คดีโหดฟันคอรปภ.รพ.ราชวิถีตาย

ศาลออกหมายจับอดีตพนง.เวรเปลแล้ว คดีโหดฟันคอรปภ.รพ.ราชวิถีตาย

คืบหน้า! ศาลอาญาฯ อนุมัติออกหมายจับ "ภัทรพงษ์ เครือนาค" อดีตพนง.เวรเปลแล้ว คดีฟันคอรปภ.ของรพ.ราชวิถีเสียชีวิต

เมื่อเวลา 18.45 น. วันที่ 10 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญา รัชดาฯได้อนุมัติหมายจับ นายภัทรพงษ์ เครือนาค อดีตพนักงานเวรเปลสถันบันโรคผิวนัง รพ.ราชวิถี เลขที่ 1374/60 ลว 10มิย60 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พาอาวุธ(มีด)ไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ภายในอายุความ 20 ปี ภายหลังก่อเหตุฆ่า รปภ. รพ.ราชวิถี เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา จากสาเหตุขัดแย้งเรื่องจอดรถในที่ห้ามจอด

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 มิถุนายน ร.ต.อ.อิทธิพล มีศาสตร์ รอง สว.(สอบสวน) สน.พญาไท รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตที่บริเวณประตูด้านหลัง รพ.ราชวิถี ซอยโยธี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.พญาไท แพทย์นิติเวชรพ.รามาฯ และ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบศพ นายสัญชาย วันงาม อายุ 30 ปี เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ รพ.ราชวิถี สวมชุดพนักงานรักษาความปลอดภัย

สภาพศพมีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคม และมีแผลฉกรรจ์บริเวณลำคอ เสียชีวิตอยู่ห่างจากป้อมยามประมาณ 50 เมตร ใกล้กันมีท่อนเหล็กยาว 1 ฟุต ตกอยู่เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งต่อมา พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง
สอบสวน

เบื้องต้นทราบว่า มีนายภัทรพงศ์ เครือนาค หรือ ต้อย อายุ 28 ปี อดีตเวรเปลที่ทำงานอยู่สถาบันโรคผิวหนัง ซึ่งถูกไล่ออกไป เนื่องจากไม่ค่อยทำงาน ก่อนที่วันนี้ (10 มิ.ย.) นายต้อยจะขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นแจส สีขาว หมายเลขทะเบียน 6516 กรุงเทพมหานคร เข้ามาจอดตรงข้ามกับป้อม แต่มีปากเสียงกันเรื่องที่จอดรถ จนนายต้อยเดินกลับไปที่รถและหยิบอาวุธมีดฟันนายสัญชายภายในป้อมยามได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนนายสัญชายจะคว้าท่อเหล็กออกมาเพื่อต่อสู้ แต่ก็ล้มลงเสียชีวิตในเวลาต่อมา

หลังจากนั้นคนร้ายได้ขับรถออกจากจุดเกิดเหตุ โดยเลี้ยวซ้ายออกไปทางถนนพญาไท ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวน โดยประสานกล้องวงจรปิดเพื่อหาเส้นทางหลบหนี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ก่อนจะเร่งล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป