ไม่คืบหน้า!อัยการหวังจับ'บอส'ก่อนหมดอายุความ ตร.เงียบหลบสื่อ

ไม่คืบหน้า!อัยการหวังจับ'บอส'ก่อนหมดอายุความ ตร.เงียบหลบสื่อ

คดีดังไม่คืบหน้า! เปิดข้อซักถามหลังการประชุมร่วม "อัยการ-ตำรวจ" ตามจับ "บอส อยู่วิทยา" ด้านอัยการหวังได้ตัวก่อนหมดอายุความ ส่วนตำรวจเงียบหลบสื่อ เผยไม่มีคำตอบหมายจับสากลและส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

ที่ห้องประชุม 303 สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ - นายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะทำงานอัยการติดตามตัวนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหาตามหมายจับที่อัยการสั่งฟ้องคดีขับรถหรูเฟอร์รารี่ โดยประมาท ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 พร้อมด้วยนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมแถลงข่าวภายหลังการประชุมร่วมระหว่างคณะทำงานอัยการสำนักงานต่างประเทศ กับคณะทำงานเจ้าหน้าที่ตำรวจกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่นำโดย พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผบก.กองการต่างประเทศ โดยการประชุมใช้เวลานาน 1 ชั่วโมงเศษ

ทั้งนี้ อธิบดีอัยกานสำนักงานต่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญตำรวจสำนักงานต่างประเทศ มาพูดคุยเพื่อเตรียมความพร้อมในการตรวจสอบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ ที่ใด และขั้นตอนการเตรียมเอกสารซึ่งอัยการต้องการเพื่อไม่ให้เสียเวลาหากมีการยื่นเอกสารจากทางตำรวจเข้ามา

นายอำนาจ กล่าวต่อว่า จากการพูดคุยเราก็ได้ข้อยุติ และได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากทางตำรวจ ส่วนที่มีการถามมาว่าปัจจุบันสำนักงานอัยการสูงสุด ทราบตัวที่อยู่ของนาย วรยุทธ หรือมีการแจ้งมาหรือไม่นั้น เป็นส่วนหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเป็นผู้แถลงต่อไป

เมื่อถามว่า ในที่ประชุมได้มีการพูดคุย ได้มีการพูดคุยถึงแนวทางนอกจากการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว ยังมีเรื่องการประสานขอความร่วมมือตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพล ตามจับกุมตัวได้อีกหรือไม่ นายอำนาจ กล่าวว่า ตามขั้นตอนก็สามารถทำเรื่องประสานได้ แต่การจะทำได้ผลหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับกฎหมายภายในของประเทศที่ผู้ต้องหานั้นหลบหนีอยู่ ถ้าประเทศมีความร่วมมือและสามารถทำได้และพิจารณาทำก็จะสามารถส่งกลับมาในประเทศที่ผู้ต้องหามีสัญชาติอยู่ ซึ่งขั้นตอนนี้ถือเป็นกระบวนการยุติอีกส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่อัยการกำลังทำอยู่

ส่วนการพิจารณาว่า จะใช้วิธีดังกล่าวหรือไม่นั้น เป็นการพิจารณาที่เกี่ยวข้องกับมิติในด้านความสัมพันธ์ และเป็นช่องทางที่จะส่งผู้ต้องหากลับโดยใช้การส่งผู้ต้องหากลับด้วยกฎหมายเฉพาะด้าน แต่เราก็คาดหวังเฉพาะในส่วนนี้ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องนโยบายของแต่ละประเทศจะต่างกัน

ส่วนที่ว่า มีการใช้วิธีขออกหมายจับไปทางตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพลแล้วหรือไม่นั้น ในที่ประชุมก็มีการพูดเรื่องนี้อยู่ แต่เราไม่อาจตอบในส่วนนี้ได้เป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการตอบคำถามในการแถลงข่าวครั้งต่อไป และส่วนจะนัดประชุมกับตำรวจอีกเมื่อใด ต้องรอดูเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง ระหว่างต้องให้ตำรวจไปดำเนินการก่อน

"ในทางปฏิบัติทางกองการต่างประเทศของตำรวจและสำนักงานอัยการต่างประเทศ มีการประสานโดยใกล้ชิดอยู่แล้ว คดีนี้เป็นคดีที่เหมือนคดีอื่นทั่วไป ข้อเท็จจริงก็ไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่ว่าเป็นคดีที่ประชาชนสนใจเราเลยต้องมีการเตรียมความพร้อมเพื่อไม่ให้มีการติดขัด"

อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวและว่า เอกสารที่เราต้องการจะสามารถส่งไปได้ทุกประเทศ ไม่ว่าประเทศนั้นจะมีสนธิสัญญาหรือไม่ ถ้ามีสนธิสัญญาเงื่อนไขก็จะง่าย ถ้าประเทศไม่มีสนธิสัญญาเราก็จะใช้การขอโดยเงื่อนไขการทูตต่างตอบแทน ตอนนี้เราจึงต้องขอข้อมูลที่จะใช้ประโยชน์ให้มีความสมบูรณ์ที่จะดำเนินการส่งอัยการสูงสุดว่า จะขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่โดยเร็ว ส่วนเรื่องที่ทางตำรวจจะต้องส่งเอกสารให้อัยการในวันไหนนั้น เราไม่ได้กำหนด แต่เท่าที่คุยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้ทำเต็มความสามารถแล้ว เบื้องต้นก็จะมีการแปลเป็นภาอังกฤษที่สามารถใช้ได้ทั่วโลก ตอนนี้เราขอให้เขาเตรียม แต่เราก็เตรียมเรื่องข้อกฎหมายในการดำเนินการไว้หมดแล้ว ขาดเพียงแค่แหล่งที่อยู่และคำขอ เราก็ได้บอกไปให้เตรียมไว้กี่ชุด

ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่าในที่ประชุมได้มีการหารือกับตำรวจอย่างเข้มข้น และยืนยันว่าหลักการทำงานและประสานงานอย่างใกล้ชิดในครั้งนี้ เราก็ยืนยันได้ว่าสามารถที่จะได้ตัวในอายุความ ส่วนเรื่องที่พำนักของผู้ต้องหาตรงนั้นเป็นเรื่องกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถตอบรายละเอียดในส่วนนี้ได้

เมื่อถามย้ำว่า จะสามารถติดตามตัวนายวรยุทธ ได้ก่อนที่ข้อหาไม่หยุดรถช่วย จะหมดอายุความในเดือน ก.ย.หรือไม่ นายประยุทธ์ กล่าวว่า จะทำให้ได้ภายในอายุความ ซึ่งทั้งสองหน่วยงานตระหนักประเด็นนี้ ซึ่งในที่ประชุมก็ได้มีการหารือเรื่องนี้ว่าจะให้เสร็จในเงื่อนเวลา

เมื่อถามว่า มีข่าวว่า นายวรยุทธเดินทางไปที่ประเทศสิงค์โปร แสดงว่าผู้ต้องหาได้พาสปอร์ตใหม่แล้วหรือไม่ นายประยุทธ กล่าวว่า เป็นขั้นตอนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ไม่สามารถลงรายละเอียดข้อมูลเพราะอาจกระทบต่อการทำงาน ส่วนเรื่องพาสปอร์ต ยังไม่ปรากฏว่าได้มีเหตุการณ์ดังกล่าว หากมีเหตุการณ์เช่นนั้นเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ก็จะมีขั้นตอนปฎิบัติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากการประชุม พล.ต.ต.อภิชาติ ผบก.กองการต่างประเทศ สตช.ได้เดินทางกลับทันที โดยไม่ได้ร่วมในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน คงมีคณะทำงานฝ่ายตำรวจส่วนหนึ่งอยู่ ร่วมรับฟังการแถลงข่าว ซึ่งสื่อมวลชนได้พยายามซักถามประเด็นเกี่ยวกับเรื่องว่ามีการออกหมายจับของอินเตอร์โพล นอกจากเรื่องการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปแล้วหรือไม่ ซึ่งได้รับการปฎิเสธโดยอ้างว่าไม่ทราบข้อมูล