ลูกชายนายทหารใหญ่ ผูกคอตายปริศนา ตร.ไม่ฟันธง สั่งตรวจสอบละเอียด หลังเมมโมรี่การ์ดกล้องหน้ารถ และโทรศัพท์มือถือของผู้ตายหายไป
พ.ต.ต.ปุณธพัฒน์ คุณอาสาสิริสกุล สว. (สอบสวน) สภ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งพบคนผูกคอเสียชีวิตที่ บริเวณกลางทุ่งนา หมู่5ต.สามชุก อ.สามชุก ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ไพฑูรย์ตันเจริญรัตน์ผกก.กำลังฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.สุพรรณบุรี แพทย์เวร รพ.สามชุก และเจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ที่เกิดเหตุพบศพชายทราบชื่อ พ.อ.อ.ณัฐพล สุวรรณหงษ์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่319/11 หมู่ที่8ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง จ.ลพบุรี สภาพศพใช้เชือกไนลอนผูกติดกับกิ่งมะม่วง กลางทุ่งนาห่างจากถนนสาย 340 ชัยนาท-สุพรรณบุรี ประมาณ500เมตร ตรวจสอบไม่พบบาดแผลถูกทำร้าย และไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด ใกล้กันมีรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน ฆต 5745 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายจอดอยู่สภาพปกติโดยประตูถูกปิดล็อกไว้
จากการสอบถาม นายบุญยืน สุวรรณหงษ์ อายุ 49 ปี อาของผู้ตายเล่าว่าหลานชายเป็นทหารอากาศ อยู่หน่วยทหารพัฒนา ประจำอยู่ที่ จ.อุทัยธานี เป็นบุตรของ พ.อ.พิเศษ ธนพัฒน์ สุวรรณหงส์ นายทหารประจำกองบัญชาการกองทัพไทย ครอบครัวรับราชการทุกคน ผู้ตายเป็นคนนิสัยดี แต่เป็นคนเงียบขรึม ส่วนสาเหตุการผูกคอตายนั้นตนสงสัยอาจจะถูกฆาตกรรมเนื่องจาก จากการสอบถามพ่อ แม่ และญาติทราบว่าและผู้บังคับบัญชา ทราบว่าช่วงเย็นวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมาผู้ตายได้นัดกับหญิงสาวที่คบหากันซึ่งมีแฟนอยู่แล้ว เพื่อไปซื้อของ จากนั้นเวลา 3 ทุ่มก็ไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ กระทั่งมาพบว่าผูกคอเสียชีวิต ทำให้สงสัยว่าหลานชายจะถูกลวงมาฆ่าก็อาจเป็นไปได้
ด้าน พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ตันเจริญรัตน์ ผกก.สภ.สามชุก กล่าวว่า จากการสอบถามญาติของผู้ตายทราบว่ามีทรัพย์สินของผู้ตาย ประกอบด้วยเมมโมรี่การ์ดกล้องหน้ารถ และโทรศัพท์มือถือของผู้ตายหายไป และยังพบรอยคราบเปื้อนผ้าปูเบาะรถ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เก็บรายละเอียดทั้งจุดเกิดเหตุและในรถของผู้ตายอย่างละเอียดพร้อมส่งศพไปตรวจพิสูจน์สาเหตุการตายอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวชฯ เป็นเหตุผูกคอฆ่าตัวตายเองหรือเป็นการฆาตกรรม
พร้อมกับสั่งการพนักงานสอบสวน สอบประเด็นต่างๆ ที่สงสัยว่าจะนำมา ซึ่งการก่อเหตุให้ครบเพื่อเป็นแนวทาง และให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูล ว่าผู้ตายมีปัญหาขัดแย้งกับใครหรือไม่ อย่างไรหากเป็นการฆาตกรรมจริงจะได้เร่งหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนต่อไป