จับคาศาลากลางฯ แต่นิติกรซี7ปัดรีดเงินนายกฯ เผยฟันวินัย-อาญา

จับคาศาลากลางฯ แต่นิติกรซี7ปัดรีดเงินนายกฯ เผยฟันวินัย-อาญา

บุกจับคาศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุิ์ แต่นิติกรซี7ยังปฏิเสธรีดเงินนายกทต.นาตาล เผยฟันวินัย-อาญา พร้อมสั่งนายอำเภอกุฉินารายณ์ดำเนินการ แนะนายกทต.นาขามปมพักราชการหรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน

จากกรณีนายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสานิตย์ หาญรบ ท้องถิ่น จ.กาฬสินธุ์, พ.ต.อ.ทินณรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.อ.ประวัติ จารุตัน เสนาธิการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภ.จว.กาฬสินธุ์ตำรวจสภ.เมืองกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้าควบคุมตัวนายชัชวาลย์ ชัยศิลา ซึ่งมีตำแหน่งเป็นนิติกร ซี 7 ของเทศบาลตำบลนาขาม อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์

ขณะรับเงินจากนายวินิต วรรณจักร นายกเทศมนตรีเทศบาลนาตาล อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเงินสดของกลางจำนวน 20,000 บาท ที่บริเวณหน้าศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา

ภายหลังจากผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ได้รับเรื่องร้องเรียนนายวินิต วรรณจักร ว่านายชัชวาย์ ชัยศิลา ได้เรียกรับเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือการสอบวินัย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2560 นายสานิตย์ หาญรบ ท้องถิ่น จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องดังกล่าว เริ่มต้นจากนายวินิต วรรณจักร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาตาล อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ได้ร้องเรียนมายังผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ ว่านายชัชวาย์ ชัยศิลา ซึ่งมีตำแหน่งเป็นนิติกรเทศบาลตำบลนาขาม อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ มาอ้างว่าตนเองได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการสอบวินัยและเป็นตัวแทนจากทางจังหวัดเข้าไปพูดคุยกับนายกเทศมนตรีตำบลนาตาล ซึ่งเรื่องสอบสวนจะให้ดูแลจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่จะต้องไปบริหารจัดการร่วมกันกับคณะกรรมการ และช่วยเหลือการสอบสวนวินัยของนายวินิต วรรณจักร

เจ้าหน้าที่จึงซ้อนแผน โดยการไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์และนำธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 20 ฉบับ ไปถ่ายเอกสาร จนสามารถจับได้ดังกล่าว

นายสานิตย์ กล่าวต่อว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เนื่องจากผู้ที่เป็นข้าราชการและมีตำแหน่งถึงนิติกร การที่ไปแอบอ้างตำแหน่งหน้าที่และแอบอ้างผู้บริหารระดับสูง ไปแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และไม่มีสิทธิ์ไปเรียกรับเงินใคร

ทั้งนี้ ในส่วนของสำนักงานท้องถิ่นจังหวัดจะได้ดำเนินการทางปกครอง โดยกการทำหนังสือเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ลงนาม คำสั่งแจ้งไปยังนายอำเภอกุฉินารายณ์ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด ในการกำกับดูแลการบริหารงานของเทศบาล ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ในวันเวลาเกิดเหตุที่นายนายชัชวาย์ ถูกจับ ในช่วงเวลา 09.45 น. นั้นเป็นเวลาราชการ ได้อนุญาตให้นายชัชวาย์ ออกมานอกพื้นที่ เพื่อมาติดต่อราชการหรือไม่ หรือว่าเป็นการขาดราชการมา และเรื่องการใช้ยานพาหนะรถยนต์ โดยมีสติ๊กเกอร์คำว่ากองคลัง เทศบาลตำบลนาขาม ซึ่งทราบว่าได้มีการใช้รถยนต์ของเทศบาลเดินทางมา พร้อมพนักงานขับรถ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบว่าการเอารถยนต์หลวงมาได้ขออนุญาตมาถูกต้องหรือไม่ หากมาติดต่อราชการนั้นมาติดต่อกับหน่วยงานใด

นายสานิตย์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการสอบวินัยนั้น จะต้องเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งหากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีมูล ทางนายกเทศมนตรีตำบลนาขามก็จะต้องตั้งกรรมการสอบสวนวินัยต่อไป

ทั้งนี้ หากในระหว่างการสอบวินัยบุคคลที่ถูกกล่าวหามีพฤติกรรมเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานต่างๆก็เป็นหน้าที่ของนายกที่จะเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการบริหารงานบุคคลของเทศบาลให้พักราชการหรือให้ออกจากราชการไว้ก่อนก็ได้ ซึ่งทางท้องถิ่นจังหวัดยืนยันที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ด้านพ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รองผกก.(สอบสวบ) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน กล่าวว่า ได้ทำการสอบปากคำ นายชัชวาย์เป็นการเบื้องต้นไปแล้ว โดยเจ้าตัวปฏิเสธว่าไม่ได้เรียกรับเงิน เพียงแต่เป็นการให้นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาตาล ซึ่งหน่วยงานที่ถูกสอบสำรองจ่ายเพื่อเป็นค่าเดินทางของคณะกรรมการเท่านั้น และในเบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงทรัพย์ (ตามป.อาญา มาตรา 341) และข้อกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้ใดปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่อาจทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้น เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย สำหรับตนเองหรือผู้อื่น ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต ม.123

สำหรับในส่วนนายวินิต วรรณจักร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาตาล ที่เป็นผู้เสียหายก็ยืนยันว่ามีหลักฐานและมีพยานในการเรียกรับเงิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบปากคำทั้งสองฝ่ายอย่างละเอียดอีกครั้ง และรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมทั้งส่งสำนวนไปยังปปท.เขต 4 ขอนแก่น เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นข้าราชการ และมีตำแหน่ง ซี 7 ซึ่งต่ำกว่า ซี 8