MORNING CALL ACTION NOTES (7 มิ.ย.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (7 มิ.ย.60)

Selective Buy

ตลาดหุ้นไทยวานนี้รีบาวด์ขึ้นจากแรงซื้อกลุ่มที่กำไร Q1/60 เติบโต เช่น FIN STEEL PETRO แต่ถูกแรงกดดันจากลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง ส่งผลให้ SET ปิดบวกเล็กน้อยที่ 1,568.95 จุด (+2.10 จุด) ด้วย Volume 4.1 หมื่นลบ.โดย Foreign Net +18 ล้านบาท TFEX Net -5,315 สัญญา และตลาดตราสารหนี้ -3,239 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ครม.อนุมัติให้กทพ.สร้างทางด่วนพระราม 3 -ดาวคะนอง วงเงิน 3.1 หมื่นลบ. ใช้เงินจากไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ และอนุมัติรัฐวิสาหกิจ-บ.ลูกเข้าเพิ่มทุน"เหมืองโปแตซ"แทนคลัง

+ รฟม. มั่นใจชงโครงการสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ วงเงิน 1.31 แสนล้านเข้าครม.ได้เดือนมิ.ย.

+ ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นล่าสุด 48 US/Barrel จากคาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะลดลงติดต่อกัน 9 สัปดาห์ โดยคาดว่าจะลดลง 3.25 ล้านบาร์เรล รวมถึงข่าวคูเวตจะเป็นคนกลางประสานความสัมพันธ์ของกาตาร์และกลุ่มประเทศอาหรับ

+/- Fund Flow ต่างชาติผันผวนล่าสุดเป็น Net Buy 3 วันราว 1.7 พันลบ. และเงินบาทแข็งค่าล่าสุด 34 Bath/USD

+/- ตลาดหุ้น DJ อ่อนตัวลง หลังนลท.ชะลอการลงทุนก่อนเหตุการณ์สำคัญวันที่ 8 มิ.ย.

** 8 มิ.ย. ECB ประชุมนโยบายการเงิน (คาดคงดอกเบี้ยที่ 0% และคงการใช้ QE 60,000 ล้านยูโร/เดือน / กำหนดเลือกตั้งในอังกฤษ / นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผอ.FBI จะเข้าให้การต่อวุฒิสภาเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ และรัสเซีย

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากครม.อนุมัติหลายโครงการใหญ่กระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ตามคาดว่านลท.จะชะลอการซื้อเพื่อติดตามผล 3 เหตุการณ์สำคัญในวันพรุ่งนี้ (8 มิ.ย.) ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ1,560 – 1,575จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy

- กลุ่มรพ. บอร์ดสปส. มีมติเพิ่มค่าบริการทางการแพทย์ผู้ป่วยประกันสังคม1,500 บ.ต่อคนต่อปี

- DTAC กสทช. ชี้ช่อง 2300 ดีแทค มีสิทธิ์ใช้ได้ทั้งเสียง-ดาด้า แค่"ทีโอที"ยื่นขออนุญาตเพิ่มเติมเข้ามา (ข่าวหุ้น)

- TRC SQ ครม.อนุมัติรัฐวิสาหกิจเข้าร่วมทุนเหมืองโปแตซ APOT

- หุ้นนำเข้า BIG COM7 SYNEX SIS ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า

- หุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณรอบใหม่ของ SET50 EA MTLS BJC BPP TISCO และ SET100 BCPG WORK ANAN GFPT

หุ้นแนะนำพิเศษ

TRC (ราคาปิด 1.35 บาท ราคาเหมาะสม 1.53 บาท)

- เตรียมเซ็นสัญญาเหมืองโปแตช ไตรมาส 3 รับรู้รายได้ปีนี้ 6 พันล้าน ด้าน ครม. ไฟเขียวบริษัทลูกรัฐวิสาหกิจเข้าถือหุ้นแทนคลัง จับตา PTTGC ตัวเต็ง ส่วน “เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์” และสมาชิกรวม 5 ประเทศหนุนเต็มที่ อยากเห็นโครงการเกิดโดยเร็วที่สุด (ที่มาข่าวหุ้น)

- ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อการเห็นชอบของครม. เพราะจะทำให้ TRC สามารถเซ็นสัญญาก่อสร้างกับ APOT ได้หลังจากมีการเพิ่มทุน โดยเราคาดว่าปี 60 TRC จะมีรายได้ก่อสร้างที่ 8 พันล้านบาท +114%YoY (Back log 3 พันล้านบาทและ APOT 5 พันล้านบาท) แต่เราคาดว่ากำไรจะเติบโตเพียง 75%YoY สู่ระดับ 529 ล้านบาท เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นของงาน APOT ต่ำกว่างานในปัจจุบันทำให้กำไรขั้นต้นรวมปรับตัวลงมาอยู่ที่ราว 13% จากเดิมที่ระดับ 17-20%

- โดยงานก่อสร้าง APOT มีมูลค่าราว 3.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้จนถึงปี 63 ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อการเติบโตของรายได้บริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 61 สู่ระดับ 1 หมื่นล้านบาทเติบโต 25%YoY

หุ้นมีข่าว

- PTT (ราคาปิด 385 Bloomberg Consensus 421.56) จับมือพันธมิตรศึกษาโอกาสทางธุรกิจร่วมกับ Continental Automotive (Thailand) ผุดสินค้ายางรถยนต์ พร้อมตั้งโรงงานในไทยเล็งต่อยอดธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องสร้างมูลค่าเพิ่ม (ที่มาทันหุ้น)

- ประเด็นบวก DTAC (ราคาปิด 46 Bloomberg Consensus 39.89 ) กสทช. ชี้ช่อง 2300 ดีแทค มีสิทธิ์ใช้ได้ทั้งเสียง-ดาด้า แค่ทีโอทียื่นขออนุญาตเพิ่มเติมเข้ามา

  ความเห็น ความกังวลเรื่องคลื่น 2300 MHz เริ่มคลี่คลายบางส่วน หลัง กสทช.เปิดช่อง อนุญาติให้ TOT (คู่ค้า DTAC) สามารถยื่นคำขออัพเกรดให้บริการวอยซ์เพิ่มเติมเข้ามาได้ (จากเดิมที่ให้บริการได้เฉพาะดาต้าอย่างเดียว) อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามความชัดเจนจากรายละเอียดสัญญาระหว่าง TOT และ DTAC ที่มีกำหนดส่งไปยัง กสทช.ภายในสิ้นเดือน มิ.ย. นี้อย่างใกล้ชิด โดยวานนี้ ราคาหุ้น DTAC ปรับตัวลง 1.6%

- ประเด็นบวก LH (9.95 Bloomberg Consensus 11.15) กองทรัสต์ LHHOTEL เคาะราคาเสนอขายสุดท้ายที่ 13.00 บาทต่อหน่วย คาดว่าหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ ประมาณสัปดาห์ที่ 3 ของ มิ.ย.นี้

  ความเห็น LH ถือหุ้น 60% ในบจ.แอลแอนด์เอช พร็อพเพอร์ตี้ที่จะขาย เพื่อโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริเข้า LHHOTEL คาดว่าจะบันทึกรายการพิเศษที่เป็นกำไรก่อนภาษีราว 900 – 1,000 ลบ.ในช่วง 2Q60 ซึ่งเป็นอัพไซต์จากประมาณการกำไรปกติที่ราว 8.5 พันล้านบาทซึ่งเติบโต 5% จากกำไรปกติในปี 59 ทำให้กำไร 2Q60 มีแนวโน้มเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากระดับ 2,631 พันลบ.ใน 2Q59 และ 1,774 ลบ. ใน 1Q60

- ประเด็นบวกกลุ่มรับเหมา "CK-STEC-ITD-UNIQ" ครม.อนุมัติโครงการทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวน ตต.มูลค่าก่อสร้าง 3.04 หมื่นลบ. โดยใช้แหล่งเงินทุนจากกองทุน Thailand Future Fund และ “รฟม.” มั่นใจชงโครงการสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ วงเงิน 1.31 แสนล้านเข้าครม.ได้เดือนนี้ แต่อาจเปิดประมูลปลายปี 60 พร้อมต่อรองเงินกู้ ADB (ที่มาข่าวหุ้น)

   ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้างใหญ่ เนื่องจากงานก่อสร้างขนาดใหญ่เริ่มผ่านครม.และมีความคืบหน้ามากขึ้นจากที่ก่อนหน้านี้มีการล่าช้าบ่อยครั้ง โดยล่าสุดรถไฟทางคู่หัวหิน-ประจวบ(มูลค่า 7.3 พันล้านบาท)และนครปฐม-หัวหิน(มูลค่ารวม 1.6 หมื่นล้านบาท)ได้กำหนดวันประมูลเป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันที่ 27 ก.ค. และ 10 ส.ค. ตามลำดับ

- WHAUP ชี้แจงแตกพาร์หลังเข้าซื้อขายในตลท. 2 เดือนเนื่องจากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับหลักทรัพย์อื่นในกลุ่มพลังงาน ประกอบกับราคาต่อหุ้นค่อนข้างสูง และมีปริมาณหุ้นไม่มาก ซึ่งการแตกพาร์จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและกระจายหุ้นสู่นักลงทุนทุกกลุ่มได้ดีขึ้น พร้อมยืนยันจะไม่มีผลกระทบต่อสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้น (ที่มา อินโฟเควสท์)

- MAX จะใช้เงิน 880 ลบ.เข้าซื้อหุ้น 60% พร้อมลงทุนเพิ่มในบ.ผู้ผลิต-จำหน่ายน้ำมันปาล์ม-โรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส 


- บริษัท เจทีดับบลิว แอ็ซเซท จำกัดขายหุ้น SANKO หมดพอร์ต 18.29%

- BRR กำหนดสัดส่วนจำนวนหน่วยลงทุนของกองทุน BRRGIF ให้ผถห.บริษัทในอัตรา 17.8484 : 1

- “บี.กริม เพาเวอร์” เตรียมขายไอพีโอ 716.90 ล้านหุ้น เคาะราคาขายต้นเดือน ก.ค.นี้ พร้อมขึ้นสังเวียนเทรดใน ตลท.วันที่ 19 ก.ค.นี้ หวังระดมทุนหมื่นล้าน เคลียร์หนี้ D/E ลดฮวบ 1.5 เท่า จาก 3.4 เท่า ลั่นปี 64 ดันกำลังผลิตไฟฟ้า 2,357 MW


ตลาดหุ้นดาวโจนส์ -47.81 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,136.23 จุด ลดลง 47.81 จุด หรือ -0.23% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,429.33 จุด ลดลง 6.77 จุด หรือ -0.28% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,275.06 จุด ลดลง 20.63 จุด หรือ -0.33% เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) จะเข้าให้การต่อวุฒิสภาในประเด็นรัสเซียในวันที่ 8 มิ.ย. และก่อนการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษซึ่งจะมีขึ้นในวันเดียวกัน นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 8 มิ.ย.นี้เช่นกัน

ตลาดน้ำมัน NYMEX +0.79 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 79 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 48.19 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 9 รวมทั้งความหวังที่ว่า สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างกาตาร์และกลุ่มประเทศอาหรับ จะคลี่คลายไปในทางที่ดี หลังจากที่คูเวตได้แสดงความตั้งใจที่จะเป็นคนกลางในการประสานความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย

SYMC Analyst meeting (ราคาปิด 11.70 Bloomberg consensus 10.8 บาท)

- หลังกำไรงวด 1Q60 ออกมาอยู่ที่ 28 ลบ. โตเด่นถึง 150% yoy ผู้บริหารได้กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเคเบิลใต้น้ำ หรือ MCT ว่าอยู่ระหว่างการยื่นประมูลรับงานจาก Mobile operator 3 – 4 ราย ล่าสุด SYMC ได้ผ่านเข้าสู่รอบที่ 3 ของการเสนอราคา และน่าจะทราบผลใน 1 – 2 เดือนข้างหน้า โดยคาดการณ์ว่า โครงการ MCT จะสามารถสร้างรายได้ในส่วนธุรกิจ IPLC ได้ตั้งแต่ 2H60 เป็นต้นไปราว 90 ลบ. และปี 61 ที่ 240 ลบ. ทั้งนี้โครงการ MCT ยังมีโอกาสได้รับ BOI หลังที่ประชุม เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 60 ที่ผ่านมา เห็นชอบให้ส่งเสริมประเภทกิจการใหม่ คือ โครงข่ายการสื่อสารผ่านเคเบิลใต้น้ำ ซึ่งปัจจุบัน SYMC ได้มีการยื่นเอกสารแล้ว และหากได้รับ BOI จะได้รับสิทธิประโยชน์เป็นเวลา 8 – 13 ปี

- สำหรับดีลเสนอซื้อหุ้นจาก TIME เป็นสัดส่วน 35 – 37% จากทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วทั้งหมดในราคา 12.2 บาท น่าจะจบลงในเดือน ส.ค. 60 ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการพิจารณาจาก กลต. และ Bank Negara (แบงค์ชาติประเทศมาเลเซีย)

- แต่ธุรกิจ Broadcast อาจกดดันรายได้บางส่วนไปอีกราว 2 ไตรมาส เนื่องจากอุตฯทีวีดิจิทอลที่ยังคงผันผวน จนมีผู้ประกอบการบางรายหยุดทำการแล้ว

  ความเห็น เชื่อว่าโครงการ MCT จะเป็นประเด็นสำคัญต่อการเติบโตในอนาคต แต่ต้องติดตามความชัดเจนการเข้าประมูลงานของบริษัทอย่างใกล้ชิด พร้อมกับโอกาสในการปรับเพิ่มประมาณการของนักวิเคราะห์ Bloomberg consensus ซึ่งปัจจุบันคาด กำไรปี 60 ลดลง 14.5% yoy