'อนันต์'เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ยันไม่รู้จัก'ศุภชัย'

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ ) นายอนันต์ อัศวโภคิน อดีตผู้บริหารเครือแลนด์แอนด์เฮ้าส์ พร้อมทนายความ เข้าพบ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการสำนักการสอบสวน 3 สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ที่ได้มาจากการยักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 5 และ 9 พ.ร.บ.ฟอกเงิน 2542 โดยใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ทั้งนี้คดีดังกล่าว สืบเนื่องจากดีเอสไอตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่า นายศุภชัยศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์คลองจั่นฯนำเงินของสหกรณ์ จำนวน 275 ล้านบาท ไปเทคโอเวอร์หุ้นบริษัทเอ็มโฮมเอสพีวี 2 เพื่อครอบครองที่ดินย่าน ต.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จำนวน 46 ไร่ จากนั้นจึงนำไปขายในนายอนันต์ในราคา 93 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาประเมินถึง 3 เท่า นอกจากนี้ยังพบว่า นายศุภชัยทำหนังสือบริจาคที่ดินแปลงดังกล่าวให้กับวัดพระธรรมกาย

แต่ข้อเท็จจริงกลับพบว่า เป็นการทำสัญญาขาย ต่อมานายอนันต์ได้ขายที่ดินดังกล่าวเป็น 492 ล้านบาทแล้วนำเงิน 303 ล้านบาทมอบให้วัดพระธรรมกาย ส่วนที่เหลือเก็บไว้เอง ทำให้สหกรณ์ฯได้รับความเสียหาย

นายขจรศักดิ์ กล่าวภายหลังนายอนันต์เข้ารับทราบข้อกล่าวหาว่า เบื้องต้นนายอนันต์ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอเวลา 60 วัน เพื่อเตรียมเอกสารชี้แจงกับพนักงานสอบสวน ขณะนี้นายอนันต์ถือเป็นผู้ต้องหาในคดีแล้ว และสามารถใช้สิทธิต่อสู้คดีตามกฎหมาย โดยระหว่างนี้พนักงานสอบสวนจะสืบสวนหาพยานหลักฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง หากมีประเด็นใดที่จำเป็นต้องสอบปากคำอีกก็จะเรียกนายอนันต์เข้าสอบปากคำเพิ่มเติม ทั้งนี้ยืนยันว่า พนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานชัดเจนก่อนมีการแจ้งข้อกล่าวหา หลักฐานเกี่ยวโยงถึงบุคคลใดก็ตรวจสอบขยายผล รวมถึงนายศุภชัย ซึ่งหากพบประเด็นเพิ่มเติมก็จำเป็นต้องเข้าไปสอบปากคำอีกครั้ง สำหรับน.ส.อลิสา อัศวโภคิน ลูกสาวของนายอนันต์ซึ่งรับซื้อที่ดินจากนายศุภชัยเช่นกันนั้น คดีดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยเป็นการซื้อที่ดินคนละแปลงกัน

"สำหรับนายอนันต์มาพบพนักงานสอบสวนก่อนนัด หลังแจ้งข้อกล่าวหาจึงปล่อยตัวโดยไม่กำหนดหลักทรัพย์ประกันตัว และไม่มีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ" นายขจรศักดิ์ กล่าว

ขณะที่นายอนันต์ กล่าวว่า ตนเพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศจึงรีบเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ตนในฐานประธานธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์กำลังอยู่ในช่วงเพิ่มทุนพอดี และต่างชาติก็ตกลงที่จะนำเงินมาเพิ่มทุนด้วย ซึ่งยืนยันให้เห็นว่า นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในประเทศไทยที่มีการปกครองในระบอบที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาอย่างยาวนานและต่อเนื่อง ทำให้ความตั้งใจนำเงินมาลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ ไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะมีข่าวนี้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ทุกอย่างคงจะเคลียร์ปัญหาได้ และขณะนี้นักลงทุนพร้อมที่จะนำเงินมาลงทุน ซึ่งได้เซ็นต์สัญญากันเรียบร้อยแล้ว

"สำหรับคดีนี้ ผมปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ดีใจว่าธนาคารต่างประเทศก็ยังนำเงินมาลงทุน นักลุงทุนเชื่อว่า ประเทศไทยไปได้แน่นอน ส่วนรายละเอียดคดีขอให้ทนายชี้แจง เพราะผมเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศ ไม่รู้เรื่องและไม่มีเอกสารอะไรเลย ยืนยันว่า ส่วนตัวไม่รู้จักกับนายศุภชัย แต่เคยเจอ ในวัดเจอกัน เยอะมาก เจอคนเต็มไปหมด เจอกันทุกคนที่เห็นเดินในภาพก็มีเดินกับคุณศุภชัย และเดินกันทุกคน เมื่อออกจากวัด ก็ไม่เคยคุยกัน ไม่ได้ติดต่อกัน ไม่เคยคุยกันเรื่องธุรกิจ เรื่องการซื้อขายที่ดินแปลงนี้ ไม่ทราบละเอียดเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศได้เพียง 2 วัน ผมเชื่อมั่นว่า จะได้รับความยุติธรรม" นายอนันต์ กล่าว

ด้านนายกมล กล่าวว่า ยังไม่ขอชี้แจงรายละเอียดในคดี แต่จะขอเวลา 60 วันตามที่ดีเอสไอกำหนดเวลาไว้ หลังชี้แจงเป็นเอกสารกับดีเอสไอแล้วจึงจะแถลงข่าวอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ยังไม่ทราบประเด็นที่ถูกตั้งข้อกล่าวหา จึงไม่ได้เตรียมหลักฐานมาชี้แจง เมื่อรับทราบประเด็นคำถามแล้ว ก็จะนำเอกสารเข้าชี้แจงภายในกำหนดเวลา ทั้งนี้ตนยังไม่ขอตอบคำถามว่า มีการซื้อขายที่ดินกันจริงหรือไม่ รวมถึงการซื้อขายที่ดินที่ต่ำกว่าราคาประเมินถึง 3 เท่า

แหล่งข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยว่า คณะพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา พร้อมถามคำถามนายอนันต์ รวม 20 คำถาม แต่นายอนันต์ยังไม่ขอให้การในวันนี้ แต่จะขอนำคำถามทั้ง 20 ข้อ กลับให้ไปทนายความรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา