ยอดใช้ 'พร้อมเพย์' พุ่ง 4.8 หมื่นล.

ยอดใช้ 'พร้อมเพย์' พุ่ง 4.8 หมื่นล.

ยอดใช้ "พร้อมเพย์" พุ่ง 4.8 หมื่นล. สมาคมแบงก์ชี้ครึ่งปีหลังส่ง 2 บริการ “รีเควสท์ทูเพย์ และชำระบิลข้ามธนาคาร”

แบงก์เผยยอดโอนผ่านพร้อมเพย์ทะลุ 7.5 ล้านรายการ มูลค่า 4.8 หมื่นล้านบาท จากผู้ลงทะเบียนบุคคล 28.3 ล้านราย นิติบุคคลกว่า 3 หมื่นราย ครึ่งปีหลังเปิด 2 บริการใหม่ รีเควสท์ทูเพย์ให้ร้านค้าเรียกเก็บเงินและบุคคลจ่ายเงินผ่านพร้อมเพย์ได้ และบริการชำระบิลข้ามธนาคารช่วยภาคธุรกิจออกบิลเพื่อการชำระเงินได้ง่าย คาดสิ้นปีลงทะเบียน 30 ล้านรายการ

นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ตามที่สมาคมธนาคารไทยและธนาคารทั้ง 21 แห่งได้ร่วมขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ National e-Payment เปิดให้บริการพร้อมเพย์ เพื่อเป็นช่องทางโอนเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับลูกค้าบุคคล ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมาและขยายสู่ลูกค้านิติบุคคลตั้งแต่ 1 มี.ค.มีผลตอบรับการใช้งานจากลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 21 พ.ค. 2560 พบว่า มูลค่าธุรกรรมสะสมผ่านพร้อมเพย์ทั้งระบบมากกว่า 4.8 หมื่นล้านบาท จากจำนวนธุรกรรม 7.5 ล้านรายการ โดยวันที่ปริมาณธุรกรรมสูงสุดมีการโอนประมาณ 1 แสนรายการ

เขากล่าวว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริการพร้อมเพย์จะเพิ่ม 2 บริการใหม่ เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายได้แก่บริการรีเควสท์ทูเพย์ (Request to Pay) ให้บริษัทผู้ขายสินค้าบริการ เบี้ยประกัน ฯลฯ ส่งคำสั่งเรียกเก็บเงินผ่านระบบพร้อมเพย์และลูกค้าก็สามารถกดยืนยันและชำระเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ได้ทันที ดังนั้นรีเควสท์ทูเพย์ จะอำนวยความสะดวกให้แก่ทั้งผู้เรียกเก็บเงินและผู้ชำระเงินโดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 4 ปีนี้

สำหรับอีกบริการ คือ บริการชำระบิลข้ามธนาคาร (Cross Bank Bill Payment) เป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ภาคธุรกิจที่ส่งบิลเรียกเก็บค่าบริการจากลูกค้าเป็นประจำ สามารถสมัครใช้บริการชำระบิลข้ามธนาคารกับธนาคารเพียงแห่งเดียว (Bank Agent) ลูกค้าของธุรกิจนั้น สามารถนำบิลที่ได้รับชำระผ่านพร้อมเพย์ได้ทันที ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ามาก ในขณะที่ภาคธุรกิจไม่ต้องทำข้อตกลงการรับชำระบิลกับธนาคารแต่ละแห่ง ช่วยให้ธุรกิจทำงานได้สะดวกและง่ายขึ้น โดยคาดว่าจะนำร่องทดลองใช้งานได้ในไตรมาส 4 ปีนี้

นายปรีดี กล่าวว่า จากการเปิดบริการพร้อมเพย์มาไม่ถึง 4 เดือน ปริมาณธุรกรรมมีมากกว่าการเปิดให้บริการในบางประเทศในยุโรปมาถึง 2 ปี และที่น่ายินดีก็คือ ในประเทศไทย ยังไม่พบลูกค้าร้องเรียนเรื่องความปลอดภัย และความผิดพลาดของระบบพร้อมเพย์เลย 

ดังนั้นทางสมาคม ฯ จึงเชื่อว่าลูกค้าจะมีความมั่นใจในการใช้บริการเพิ่มมากขึ้น และหวังให้บริการพร้อมเพย์เป็นทั้งบริการและโครงสร้างพื้นฐานที่จะช่วยตอบสนองการทำธุรกรรมและชำระเงินที่สะดวกขึ้นทั้งกับประชาชนผู้ประกอบธุรกิจรวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและด้วยบริการใหม่ ๆ ที่จะออกให้บริการต่อยอดในอนาคต จะเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ความนิยมใช้งานพร้อมเพย์เพิ่มขึ้นไปด้วย เพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดการใช้เงินสดซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการจัดการเงินสดให้กับประเทศโดยภาพรวมและช่วยสนับสนุนการเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยให้เกิดขึ้นจริง

ช่วงกลางเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ลงทะเบียนพร้อมเพย์เป็นนิติบุคคลจำนวน 30,000 รายการ เป็นบุคคลธรรมดาจำนวน 28.3 ล้านรายการ โดยตั้งเป้าหมายสิ้นปี 2560 จะมีผู้สมัครลงทะเบียนพร้อมเพย์ทั้งสิ้นมากกว่า 30 ล้านรายการ

ทั้งนี้การโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ อัตราค่าธรรมเนียมจะถูกลงดังนี้  โอนเงินไม่เกิน 5,000 บาท ไม่คิดค่าธรรมเนียม , โอนเงินมากกว่า 5,000-30,000 บาท ค่าธรรมเนียมรายการละไม่เกิน 2 บาท, โอนเงินมากกว่า 30,000-100,000 บาท ค่าธรรมเนียมรายการละไม่เกิน 5 บาท และ โอนเงินมากกว่า 100,000 บาท-วงเงินสูงสุดตามแต่ละธนาคารกำหนด ค่าธรรมเนียมรายการละไม่เกิน 10 บาท