ททท.ผนึกประชารัฐจัดมหกรรมอาหารบูม“สตรีทฟู้ด”

ททท.ผนึกประชารัฐจัดมหกรรมอาหารบูม“สตรีทฟู้ด”

ททท.ผนึกคณะสานพลังประชารัฐ จัดมหกรรม “อะเมซิ่ง ไทย เทสต์” ดึง 128 ร้านดังบูมภาพลักษณ์ “สตรีทฟู้ด”

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จากการที่ไทยได้รับเลือกเป็นจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมด้านร้านอาหารข้างทาง (สตรีทฟู้ด) ต่อเนื่อง โดยที่กรุงเทพมหานครกำลังจัดระเบียบอาหารข้างทางใน 2 เรื่องหลัก ได้แก่ ความปลอดภัย และความสะอาด ดังนั้น เตรียมวางโครงการเพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการนำอาหารไทย, ผลไม้ไทย และข้าวไทย เป็นหนึ่งในสินค้าท่องเที่ยวกระตุ้นรายได้ ด้วยการจัดงานอะเมซิ่ง ไทย เทสต์ เฟสติวัล ระหว่างวันที่ 8-11 มิ.ย.นี้ ที่ลานกิจกรรม รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ สถานีมักกะสัน

ทั้งนี้ ร่วมมือกับคณะทำงานสานพลังประชารัฐ กลุ่มท่องเที่ยวและไมซ์ ที่มีภาคเอกชนกว่า 45 หน่วยงาน นำร้านค้ากว่า 128 ร้านเข้าร่วมออกร้าน คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมซื้อกว่า 8 หมื่นคน ก่อให้เกิดเงินสะพัดโดยตรงกว่า 40 ล้านบาท หรือนักท่องเที่ยวต่อรายใช้จ่ายด้านอาหารราว 500 บาท และหลังจากจบงานนี้แล้ว จะเริ่มต่อยอดโครงการอาหารถิ่น ตะลุยกินทั่วไทย เป็นปีที่ 2 หลังจากที่ปีที่แล้ว ส่งเสริมอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่นซึ่งไม่เป็นที่รู้จักให้กลับมามีความนิยมแพร่หลายระดับหนึ่งแล้ว

นอกจากนี้ ททท.มีแผนผลักดันโครงการอาหารต่อเนื่อง เพราะพบศักยภาพในการผลักดันเป็นหมวดหมู่ที่ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายสูงสุด จากการอ้างอิงรายงานองค์การการท่องเที่ยวโลก (ยูเอ็นดับเบิลยูทีโอ) ภายใต้หัวข้อ “โกลบอล รีพอร์ต ออน ฟู้ด ทัวริซึม” พบว่าอาหารครองสัดส่วน 1 ใน 3 ของค่าใช้จ่ายด้านท่องเที่ยวทั้งหมด และเทรนด์ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวเริ่มมองหาอาหารท้องถิ่นที่มีความแปลกใหม่ และเชื่อมโยงกับประสบการณ์ท้องถิ่น (Local Experience) ได้ และมาสอดคล้องกับโครงการศึกษาการตลาดท่องเที่ยวคุณภาพสูง : ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร (ยูเค) ออสเตรเลีย ของ ททท.ที่จัดทำในปี 2559 ศึกษาพบว่าอาหารเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเดินทางท่องเที่ยวของ 3 ตลาดดังกล่าวที่สุด และการชิมอาหารถิ่นเป็นกิจกรรมยอดนิยมอันดับ 2 โดยในตลาดยูเคยังสร้างรายได้เป็นอันดับ 2 รองจากหมวดที่พัก ส่วนออสเตรเลียและญี่ปุ่น ใช้จ่ายด้านอาหารเป็นอันดับ 3 รองจากที่พักและชอปปิง