เดอะมอลล์ยกเครื่องกลยุทธ์ศูนย์การค้ารับมือช้อปออนไลน์

เดอะมอลล์ยกเครื่องกลยุทธ์ศูนย์การค้ารับมือช้อปออนไลน์

เดอะมอลล์  ปรับกลยุทธ์ธุรกิจ “ศูนย์การค้า” มุ่งการตลาด 4.0 รับมือโลกยุคดิจิทัล-ช้อปออนไลน์ กระทบพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน  เสริมแกร่ง “ไดนิ่ง-ไลฟ์สไตล์-อินเตอร์เนชั่นแนลอีเวนท์” แม่เหล็กดึงลูกค้า

นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า  เดอะมอลล์ ชอปปิง เซ็นเตอร์ จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อรับมือสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคและโลกการค้ายุคดิจิทัล 

ผู้บริโภคยุคปัจจุบันให้ความสำคัญกับการสื่อสาร การค้นหาข้อมูลในโลกโซเชียลมากขึ้น หรืออยู่ในยุค Sharing Economy และเรียกคนกลุ่มนี้ว่า Socialnomics มีผลต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายและใช้บริการในชอปปิงมอลล์

“โจทย์ของเราเวลานี้ ทุกอย่างอยู่บนมือถือ ลูกค้าจะซื้อของต้องเสิร์ชก่อนทุกอย่าง มาถึงก็เสิร์ซ จะซื้อก็เสิร์ซว่าดีหรือไม่ดี ลูกค้าไม่เชื่อผู้ค้า แต่เชื่อเพื่อน เชื่อบุคคลอื่นและประสบการณ์”

ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องสร้างเครื่องมือทางการตลาดและวิธีการเข้าถึงลูกค้าในแบบ “มาร์เก็ตติ้ง 4.0”  โดยใช้ฐานข้อมูล หรือ ดาต้า ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด  พร้อมกันนี้ ได้จัดสรรงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาทพัฒนาระบบเทคโนโลยีไอที รองรับการดำเนินงานดังกล่าว

เดินหน้า5กลยุทธ์

เดอะมอลล์ มุ่งใช้ “Customer-Centric Segmentation” และ “One-to-One Personalization”  ในการทำกิจกรรมการตลาดและโปรโมชั่นให้สอดคล้องไลฟ์สไตล์ลูกค้าแต่ละกลุ่ม ผ่าน 5 กลยุทธ์ทางการตลาดหลัก ประกอบด้วย  1.ออนไลน์ ดิจิทัล (Online Digital) การเข้าสู่ยุคการตลาด 4.0 ที่ต้องใช้ดิจิทัลเป็นตัวขับเคลื่อนในการสร้างประสบการณ์ใหม่ในการชอปปิง ผ่าน “3D” ได้แก่  ดาต้า (Data) ดิจิทัล (Digital) และ ดีไลท์ (Delight)

“ผู้ค้าปลีกต้องศึกษาพฤติกรรม ฐานข้อมูลลูกค้าเพื่อให้เข้าใจความต้องการในปัจจุบันและอนาคต เข้าใจประสบการณ์การใช้ชีวิต เข้าถึงสื่อ การสื่อสารทางการตลาดที่แตกต่างกันในแต่ละเจนเนอเรชั่น” 

โดยเฉพาะ เจเนอเรชั่น ซี หรือ Gen-Z ที่เติบโตมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวก ชื่นชอบการใช้เทคโนโลยีต่างๆ และอัพเดทข้อมูลข่าวสารผ่านโลกไซเบอร์ พร้อมที่จะแชร์ต่อทุกเมื่อ เปิดรับข่าวสารแบบ “ดิจิทัล มีเดีย”  เป็นหลัก GEN Z มีความพร้อมที่จะเปลี่ยนความภักดีจากแบรนด์หนึ่งไปยังอีกแบรนด์หนึ่งหากคุณภาพของแบรนด์ไม่ได้มาตรฐาน 

ปีที่ผ่านมา เดอะมอลล์กรุ๊ป มีการลงทุนพัฒนาระบบฐานข้อมูลสมาชิก ซอฟต์แวร์รองรับกับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก  Big Data นำข้อมูลการจับจ่ายซื้อสินค้าผ่านบัตรเอ็มการ์ด (MCard) ซึ่งเป็นบัตรสมาชิกที่ครอบคลุมห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้ามาศึกษาเชิงลึกเพื่อวางแผนกลยุทธ์การตลาดในแต่ละช่วงชีวิต (Life-Stage) และไลฟ์สไตล์ พฤติกรรมซื้อสินค้า ช่วงเวลา แบรนด์ที่ชอบ ประเภทสินค้าที่ต้องการในอนาคต หรือ Multi-dimension Segmentation

สำหรับ ดิจิทัล เดอะมอลล์ ได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจในการวางแผนระบบเครือข่าย ให้บริการฟรีไวไฟเริ่มจาก ดิ เอ็มโพเรี่ยม ดิ เอ็มควอเทียร์ เดอะมอลล์ โคราช บลูพอร์ต หัวหิน และขยายต่อไปในสาขาอื่นๆ โดยนำข้อมูล Digital footprint ที่ได้มาศึกษา พฤติกรรมการเดินภายในศูนย์การค้า วางแผนจัดกิจกรรม การจัดพื้นที่ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดีไลท์ หรือ การตลาดดิจิทัลเชิงลึกทั้งแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ระบบการตลาดอัตโนมัติ มาสร้างความแตกต่าง ด้วย Personalized Offers ไม่ว่าจะเป็นการส่งเอสเอ็มเอสอีเมล์ หรือโมบายแอพพลิเคชั่น แจ้งโปรโมชั่นหาลูกค้าในแต่ละรายตามแต่พฤติกรรมของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน เพื่อให้โดนใจและเข้าถึงมากที่สุด

2.Innovative CRM (MCard + Citi M) ปัจจุบัน เดอะมอลล์ มีลูกค้าที่เป็นสมาชิกบัตรเอ็มการ์ดกว่า 3.5 ล้านคน จะนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาระบบต่างๆ โดยเฉพาะการทำการค้าปลีกในยุค 4.0 คือ Beyond Shopping Experience เป็น The Really Inner Experience ให้มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น

“ลูกค้าแต่ละคนมีความต้องการที่แตกต่างไม่เหมือนกัน ต้องศึกษาความเปลี่ยนแปลงต่างๆ และนำข้อมูลมาวิเคราะห์ในเรื่องของ Data Mining เพื่อรู้ว่าต้องสื่อสารกับลูกค้าแต่ละกลุ่มเพื่อให้เข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

3.การทำ Collaboration ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ “เดอะมอลล์ ชอปปิง เซ็นเตอร์” ได้ผนึกพันธมิตรในการทำแคมเปญและจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่องตลอด 36ปี อาทิ พันธมิตรกลุ่มบัตรเครดิต ประกันชีวิต เครือข่ายมือถือ สายการบิน ยานยนต์ และอื่นๆ ซึ่งต่างก็มีกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์คล้ายคลึงเดอะมอลล์ ถือเป็นการผนึกกำลังให้เกิดซินเนอร์ยี (Synergy) ทางธุรกิจเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน 

4.Dining and Lifestyle Lead Marketing จากการวิจัยพฤติกรรมของผู้บริโภคพบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่จะมาห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าเพื่อรับประทานอาหารร่วมกันกับครอบครัวและเพื่อนฝูง ลำดับสอง มาชมอีเว้นท์ อัพเดทเทรนด์ใหม่ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำำด้านไลฟ์สไตล์ กิจกรรม และเทรนด์ใหม่ จะมี ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิวัตน์ กูรูผู้เชี่ยวชาญด้านไดนิ่ง (dining) และ โมเม นภัสสร บุรณะศิริ กูรูผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นบิวตี้และไลฟ์สไตล์ ซึ่งมียอดแฟนคลับเป็นจำนวนมาก โดยนำเสนอผ่านโลกออนไลน์ อาทิ LIVE สร้างคอนเทนท์แปลกใหม่ ให้ข้อมูลลูกค้าเกี่ยวกับเทรนด์ แบรนด์ หรือร้านค้า  ให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมแบบอินเตอร์แอคทีฟ จะช่วยสร้างประสบการณ์กับกลุ่มลูกค้า

5.International Events เดอะมอลล์ ได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรนำเสนออีเว้นท์ระดับโลก เช่น โชว์เต็มรูปแบบ GOT7 THAILAND TOUR “NESTIVAL” ครั้งแรกในภูมิภาคอีสาน ที่เดอะมอลล์โคราช งาน AVATAR : Discover Pandora – Bangkok งานเวิลด์ เอ็กซ์ซิบิชั่น ทัวร์ ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับ อินเตอร์แรคทีฟ เอ็กซ์ซิบิชั่น ที่ผสานศิลปะความบันเทิงและเทคโนโลยีจากภาพยนตร์ AVATAR งาน เดอะมอลล์เจแปนดิสคัฟเวอรี่ ถือเป็นงานประจำปี (Signature) ของเดอะมอลล์ โดยปีนี้ได้ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ฉลองครบรอบ 130 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทย-ญี่ปุ่น 

ทุ่ม50ล้านลุยแคมเปญใหญ่

นางสาวดวงตา พงษ์วิไลย์ ผู้จัดการใหญ่การตลาด กล่าวเสริมว่า ได้ร่วมกับพันธมิตร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยร้านค้า จัดสรรงบกว่า 50 ล้านบาท จัดแคมเปญ “THE MALL SHOPPING CENTER ANNIVERSARY HAPPY SURPRISE”  ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.- 2 ก.ค. มีไฮไลท์ GOT7 จัดการแสดงเต็มรูปแบบที่เดอะมอลล์ โคราช วันที่ 3 มิ.ย.

แคมเปญดังกล่าวเมื่อลูกค้าช้อปตามเงื่อนไข ลุ้นทริปญี่ปุ่นเที่ยวเมืองโอซาก้า ลูกค้าซื้อสูงสุด 80 รายแรกรับสิทธิพิเศษ ครึ่งปีหลัง เดอะมอลล์ ชอปปิง เซ็นเตอร์ ตั้งเป้าหมายลูกค้าหมุนเวียนเพิ่มขึ้น 15-20% กระตุ้นยอดขายร้านค้ากว่า 1,200 ร้านค้า

            เดอะมอลล์ ชอปปิง เซ็นเตอร์  จัดสรรงบ 800 ล้านบาท ทำการตลาดเชิงรุกตลอดทั้งปี  รวมมากกว่า 300 อีเวนท์  เฉพาะครึ่งปีหลังใช้งบทำตลาด 500 ล้านบาท เชื่อว่า กำลังซื้อน่าจะฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลและความคึกคักของธุรกิจท่องเที่ยว มีการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ คาดตลาดค้าปลีกเติบโต  5%