เปรี้ยวไว้ก่อน อายุไม่เกี่ยว

เปรี้ยวไว้ก่อน อายุไม่เกี่ยว

ไม่ว่าวัยไหน ก็ชอบแต่งตัวและถ่ายภาพ ลองดูคุณยายคนนี้สิ เปรี้ยวไหม

...............

ไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นภาพแบบนี้ในเมืองไทย เพราะนางแบบอายุมากที่สุด 96 ปี อายุน้อยที่สุด 62 ปี

นั่นไม่ใช่ปัญหาที่ ทอม โพธิสิทธิ์ ช่างภาพอิสระเชิงสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือช่างภาพแฟชั่น ลำบากใจ เขาสนุกทีไ่ด้ร่วมงานกับผู้สูงวัย ในรายการTHE SENIOR “ปฏิบัติการ รุ่นใหญ่ขอเฟี้ยว”” ทางไทยพีบีเอส ซึ่งเป็นผลงาน Produced by บุญมีฤทธิ์ มีเดีย

ดีไซน์เนอร์รุ่นหลานกับช่างภาพแฟชั่นรุ่นลูก ชวนลุงๆ ป้าๆ มาแต่งตัวในแบบที่พวกเขาไม่เคยแต่ง ปรับเปลี่ยนกันตั้งแต่เสื้อผ้า หน้า ผม 

แค่ภาพยายหญิงเล็กวัย 96 ปีที่ชอบแต่งตัวเป็นชีวิตจิตใจ เสื้อผ้าเน้นตามสีวัน เจ็ดวันต้องเจ็ดสี ชอบใส่แว่นกันแดดและแว่นสายตา ใส่แหวน กำไล สร้อยข้อมือแบบจัดเต็ม ก็สร้างสีสันให้รายการได้แล้ว

ว่ากันว่า ที่บ้านยายมีแหวนกว่า 50 วง แต่ละวันจะใส่ไม่ต่ำกว่า 6 วง และทั้งหมดคือของปลอม ใส่ของจริงไม่ได้ ยายกลัวโจรปล้น และนาฬิกาที่ใส่มา ดูไม่ออกว่ากี่โมง เพราะถ่านหมด แต่ขอจัดเต็มไว้ก่อน

ส่วนแป้งที่ชอบ ทอม บอกว่า ต้องมองเลยะ และใช้ขี้ผึ้งทาปาก เวลาทาต้องท่องพุทโธ นะโมพุทธายะฯ เพื่อเสริมเสน่ห์ และแนวการแต่งตัวที่อยากแต่งคือ ให้เข้ากับบุคลิก ชอบเด่น ชอบงาม ถ้ายิ่งมีคนชมจะชอบมาก

ส่วนนางแบบนายแบบคนอื่นๆ ยังมีตั้งแต่ พี่วิเชียรวัย 74 ปี อดีตข้าราชการ,พี่สุพร วัย71 ปี อดีตแม่ค้าเสื้อผ้าที่รับมาจากญี่ปุ่น สมัยสาวๆสวยมาก หุ่นดี หน้าเหมือนญี่ปุ่น ชอบแต่งตัวตามวัย ไม่หวือหวาและยังมีอ.ประเศียร วัย 80 ปี ,พี่ติ๊ก อายุ 67 ปีอดีตช่างตัดเสื้อ,พี่ต๋อย วัย68 อดีตพนักงานธนาคารระดับสูง,พี่เล็ก ,พี่ชุบ พี่เปี๊ยก

กิจกรรมครั้งนี้ ใช้แฟชั่นเป็นสื่อ กับโปรเจคเรียลลิตี้สำหรับผู้สูงอายุครั้งแรกของเมืองไทย 

ทอม เล่าว่า จังหวะนั้นเขามีงานที่ต้องไปถ่ายทำที่อเมริกา แต่อยากทำงานชิ้นนี้มากกว่า

“ผมก็เลยไม่ไปอเมริกา รับงานชิ้นนี้แทน ผมอยากใช้ความสามารถของเรา สร้างความเปลี่ยนแปลงให้คนอื่น หลังจากเผยแพร่ไปแล้ว หลายคนบอกว่า คิดถึงคนที่บ้านจังเลย แค่นี้น้ำตาจะไหล เพราะที่บ้านเรา ก็มีผู้สูงอายุเยอะมาก แต่เสียชีวิตเกือบหมดแล้ว เมื่อรายการติดต่อมา เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้เรียนรู้ตัวเองด้วย และการให้ผู้สูงอายุมาแต่งตัวแล้วใช้แฟชั่นเป็นสื่อ จะมีผลกระทบหลายมิติคือ หนึ่ง...สร้างความมั่นใจให้ผู้สูงอายุ สอง...ทำให้เราสื่อสารกับพวกเขาได้ สาม...สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่มีเรื่องคุยกับผู้สูงอายุที่บ้านมากขึ้น ผู้สูงอายุก็จะได้รู้สึกว่า เขาไม่ได้หมดคุณค่า เมื่อแก่แล้ว ต้องแต่งตัวให้เป็นคนแก่”

ช่างภาพสร้างสรรค์คนนี้ คิดว่า การแต่งตัวมีนัยยะบางอย่างและเป็นความสนใจของแต่ละคน 

“ถ้าผู้สูงอายุได้ดูรายการ ก็น่าจะเกิดความรู้สึกบางอย่าง ลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเอง ไม่ใช่รอเวลาให้ตัวเองหมดคุณค่าไปเรื่อยๆ ”

เมื่อได้ร่วมงานกับคนสูงวัย ทอม บอกว่า พวกเราตื่นเต้นมาก เพราะไม่เคยเจอผู้สูงอายุเยอะขนาดนี้ วันนั้นมีเก้าคน ซึ่งแต่ละคนมีคาแรคเตอร์ต่างกันมาก เราต้องทำให้พวกเขาเชื่อใจ ก่อนจะถ่ายทำออกมาเป็นภาพ

“เราไม่ได้พยายามทำให้เป็นแฟชั่นหวือหวาเกินตัว ต้องตั้งอยู่บนความเหมาะสมและความต้องการของพวกเขาด้วย ต้องสร้างความมั่นใจให้พวกเขาก่อน ถ้าจะเอาอะไรไปยัดเยียดมากๆ ในฐานะช่างภาพพอร์ทเทรต เราไม่ทำ ไม่ใช่ว่าต้องการให้แบบเปรี้ยว ดูวาวเกินไป ”

เขายอมรับว่า ไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับผู้สูงอายุ ก็เลยต้องสื่อสารแบบตรงไปตรงมา และฝากเนื้อฝากตัว ปรากฎว่า ทุกคนให้ความร่วมมือ

“เราก็เปิดหนังสือว่าต้องการแบบไหน การทำงานร่วมกับสไตลิสต์รุ่นเด็ก เราก็ห่วงว่าจะทำงานร่วมกันได้ไหม และน้องๆ จะตีโจทย์ผู้สูงอายุได้ไหม แต่พวกเขาเป็นเด็กที่รับฟังผู้สูงอายุได้ดี งานจึงออกมาน่ารัก และทำงานสนุกมาก จริงๆ การทำงานถ่ายแบบให้ผู้สูงอายุ เปลี่ยนโลกทัศน์ผมเลย เพราะแม่ผมก็อยู่ในวัยสูงอายุ และชอบทำตัวแก่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่แม่ไม่ได้แก่ขนาดนั้น เมื่อก่อนแม่ก็ชอบแต่งตัว แต่งผม แต่งหน้า เดี๋ยวนี้ไม่ทำเลย เราก็ชวนแต่งตัว ซึ่งการทำงานชิ้นนี้ ทำให้เราสื่อสารกับแม่ เพื่อช่วยให้แม่มีความมั่นใจมากขึ้น"

และนั่นทำให้เขาเปลี่ยนความคิดในเรื่องผู้สูงวัย จากไม่รู้จะคุยอะไรกับพวกเขา ทำตัวห่างๆ ก็เปิดกว้างมากขึ้น

“ เรารู้จักวิธีการคุยกับพวกเขามากขึ้น มีหลายช่องทางที่เราจะสื่อสารกับเขา ไม่ใช่เรื่องการแต่งตัวอย่างเดียว คุยเรื่องสังคมก็ได้ เราต้องกล้าที่จะก้าวเข้าไปในพื้นที่ของเขา เพราะผู้สูงอายุในเมืองไทย คนส่วนใหญ่ชอบคิดว่า ต้องอยู่ในพื้นที่ที่ต้องเคารพอย่างเดียว”

เมื่อต้องทำงานกับคุณยายวัย 96 ปี ทอมบอกว่า เจอวันแรกก็ตกใจ อายุมากแล้ว แต่ดูกระตือรือร้น สามารถพูดจาสื่อสาร มีมุขตลอด

“แกจะมีคาแรคเตอร์ชัดเจน เจ็ดวันยายจะใส่เสื้อผ้าเจ็ดสีตามวัน ใส่แหวนครบสิบนิ้ว มีที่คาดผม รองเท้าแตะจะต้องมีเพชรและใส่แว่นตลอดเวลา แกก็พยายามสร้างคุณค่าให้ตัวเอง ไม่ได้ปล่อยให้ตัวเองเป็นคนแก่ที่อยู่บ้านมีลูกหลานเลี้ยงดู แกก็ออกมาทำกิจกรรม เป็นคนที่น่ารักมาก แกบอกว่าถ้าจะให้แต่งตัว ขอให้เปรี้ยวสุด ปังสุด ทำได้หมด”

นอกจากนี้ยังมีผู้ใหญ่อีกหลายคนที่ทอมบอกว่า ต้องลองให้เขาแต่งตัวแบบอื่นๆ บ้าง

"บางคนรับราชการมาก่อน ก็จะระมัดระวังตัว ไม่อยากให้คนว่าแก่แล้ว ทำไมมาแต่งตัวแบบนี้ อย่างพี่ชุ คนใส่เสื้อสีชมพู ไม่ค่อยชอบแต่งตัว ไม่ชอบออกงานสังคม แกมีความคิดว่า ถ้าจะแต่งตัว ต้องแต่งให้เข้ากับวัยของตัวเอง อย่างพันตรีวิชัย ชอบเล่นกีฬา ก็จะใส่แต่ชุดวอร์ม ไม่เคยแต่งตัวแบบแคชชวล เขาบอกว่าไม่ใช่เขา ดูไม่เหมาะสม ผมก็ชวนว่า คุณอาลองแต่งตัวแบบนั้นดูไหม

เมื่อถามถึงความประทับใจในการทำงาน  ทอมบอกว่า การทำงานครั้งนี้ ไม่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้เขาคนเดียว กลุ่มสไตลิสต์ ช่างภาพ และทีมงาน บอกตรงกันว่า การทำงานครั้งนี้ทำให้โลกของเขาเปลี่ยนในการมองผู้สูงอายุ

“เมื่อก่อนพวกเขามองว่า ผู้สูงอายุคือภาระ แต่ตอนนี้คือ คนสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต มันตลกมาก ผมก็รู้สึกเช่นเดียวกัน และคนชมรายการก็คงคิดแบบนั้น สิ้นปีผมอาจนำภาพเหล่านี้กลับมาแสดงรวมกับงานชุดอื่นของผม"