น้ำมันดิบปิดปรับตัวขึ้นสวนทางราคาทอง
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดทำการในวันจันทร์ ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องในวันเมมโมเรียล เดย์
สำหรับในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง ท่ามกลางบรรยากาศซื้อขายที่ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนถึงช่วงวันหยุดยาว ขณะที่ดัชนีแนสแด็กและเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับเพิ่มตัวเลขการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 1 สู่ระดับ 1.2% ซึ่งสูงกว่าระดับ 0.7% ในการประมาณการครั้งแรก และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.9% ด้วยแรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค การลงทุนภาคธุรกิจ และการใช้จ่ายภาครัฐที่สูงกว่าในรายงานเบื้องต้นเมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา
ส่วนราคาน้ำมันดิบตลาดล่วงหน้าสหรัฐ ปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยการที่สหรัฐเพิ่มการขุดเจาะน้ำมันบดบังปัจจัยการลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์ ปรับตัวขึ้น 19 เซนต์ ปิดตลาดที่ 49.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ขยับขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 52.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์ พบว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 2 แท่น สู่ระดับ 722 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2558 และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 19 ติดต่อกัน
การขุดเจาะน้ำมันที่เพิ่มขึ้น บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นเวลา 12 เดือนติดต่อกัน ซึ่งจะช่วยให้การผลิตน้ำมันของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า
อย่างไรก็ดี การซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซาในวันนี้ ขณะที่เป็นวันหยุดในจีน, สหรัฐ และอังกฤษ
ที่ประชุมของกลุ่มโอเปก และประเทศนอกกลุ่มโอเปก มีมติเห็นพ้องสำหรับการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือนจนถึงเดือนมี.ค.2018 โดยไม่มีการปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น
ทั้งนี้ โอเปกและกลุ่มนอกโอเปกจะยังคงผลิตน้ำมันราว 1.8 ล้านบาร์เรล/วันต่อไปอีก 9 เดือน
ส่วนการประชุมโอเปกครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 30 พ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาทบทวนกำลังการผลิตน้ำมัน
ขณะที่ราคาทองฟิวเจอร์ ปิดตลาดปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร หลังราคาทองดีดตัวขึ้นก่อนหน้านี้
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ร่วงลง 0.1% ปิดตลาดที่ 1,267.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทั้งนี้ ราคาทองพุ่งขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ระดับ 1,269.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการเจรจาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการประชุมสุดยอดของกลุ่ม จี7
การซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซาในวันนี้ ขณะที่เป็นวันหยุดในจีน, สหรัฐ และอังกฤษ