ดุสิตธานีแตกไลน์ทีมรับปรึกษาตั้งโรงแรมใหม่

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่าระหว่างที่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ปิดให้บริการเพื่อสร้างโครงการมิกซ์ยูสขึ้นมาใหม่ เตรียมแผนชดเชยรายได้ไว้หลายรูปแบบ โดยที่เริ่มเตรียมการไปแล้วคือ การนำทีมงานบริหารจากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ มาตั้งเป็นทีมที่ปรึกษาให้บริการวางระบบการบริหารจัดการโรงแรมให้กับเจ้าของธุรกิจโรงแรมที่ต้องการเปิดกิจการใหม่ (Pre-Opening Team) หรือต้องการปรับปรุงกิจการให้ดีขึ้น เน้นกลุ่มเป้าหมายโรงแรมระดับ 4-5 ดาวซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญของกลุ่มดุสิต ขณะนี้เริ่มมีการติดต่อเจรจาเพื่อขอรับบริการปรึกษาแล้ว โดยโรงแรมที่รับบริการ จะสามารถใช้แบรนด์ของตัวเองในการทำตลาดได้

นอกจากนั้น เริ่มขยายธุรกิจในรูปแบบเคเทอริ่ง หรือให้บริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ โดยเริ่มออกไปติดต่อทำตลาดในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์กูรเมต์ ซึ่งเป็นร้านเบเกอรี่ประจำที่ตั้งอยู่ในดุสิตธานี คู่ขนานไปกับการหาทำเลที่ตั้งเปิดร้านกูร์เมต์ที่นอกโรงแรมระหว่างการปิดโรงแรมด้วย นอกจากจะทำให้โรงแรมมีรายได้ต่อเนื่อง จะเป็นการสร้างตำแหน่งงานให้พนักงานที่ยังต้องการทำงานในประเทศไทย ขณะที่พนักงานอื่นๆ ยังมีแผนการเสนอตำแหน่งงานให้ เพราะขณะนี้กลุ่มดุสิตมีโครงการที่เซ็นสัญญาและอยู่ระหว่างรับบริหารถึง 51 แห่งทั้งไทยและต่างประเทศ

ขณะที่ธุรกิจการศึกษาภายใต้โรงเรียนดุสิตธานีการโรงแรม เตรียมแตกไลน์ธุรกิจด้วยการจัดทำโครงการระยะสั้น ฝึกอบรมทักษะวิชาชีพสำหรับคนที่ทำงานในด้านบริการอยู่แล้ว หรือบุคคลทั่วไปที่ไม่มีวุฒิการศึกษา แต่ต้องการเสริมทักษะที่มีมาตรฐานด้วย

ส่วนความคืบหน้าในการจัดทำแบรนด์ใหม่เพื่อขยายธุรกิจรับบริหารโรงแรมนั้น ได้นำเสนอและผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการบริษัทเรียบร้อยแล้วและคาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในปีนี้ โดยจะเซ็นสัญญาให้ได้อย่างน้อย 5 แห่ง จากปัจจุบันเซ็นสัญญาแล้ว 1 แห่งในกรุงเทพฯ และขณะนี้ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่าจะนำแบรนด์ใหม่นี้ไปลงทุนที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้ได้ทำเลในแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและตอบโจทย์แบรนด์แล้ว นอกจากนั้น ยังมีการเจรจาที่ฟิลิปปินส์อีก 3 แห่ง และเมียนมา 1 แห่ง

“มีโอกาสการขยายธุรกิจในฟิลิปปินส์ที่ดี ทั้งแบรนด์ใหม่ที่เตรียมเปิดตัว และแบรนด์เดิมที่มีอยู่แล้ว เพราะยังมีแหล่งท่องเที่ยวมีศักยภาพพร้อมพัฒนาเป็นจุดหมายใหม่อีกมาก เช่น ดาเวา, เซบู ขณะนี้กลุ่มดุสิตมีทั้งโรงแรมที่เปิดให้บริการแล้ว และอยู่ระหว่างการพัฒนาเตรียมเปิดตัวทั้งหมด 9 แห่งในฟิลิปปินส์”

ทั้งนี้ ช่วงไตรมาสแรกอัตราเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 70% ขึ้นไป มีแต่โครงการในมัลดีฟส์ที่มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยลดลง ซึ่งเป็นปัญหาภาพรวมของทั้งอุตสาหกรรม เนื่องจากมีห้องพักเพิ่มขึ้นในระบบจำนวนมาก ขณะที่ช่วงไตรมาสแรกปรับอัตราราคาลงไม่ทัน ดังนั้นจึงต้องมาปรับใหม่ในช่วงไตรมาส 2 ด้วยการนำเสนอแพ็คเกจที่เน้นความคุ้มค่า เช่น รวมบริการเครื่องบินซีเพลนถึงโรงแรม เป็นต้น วางกลุ่มเป้าหมายตลาดยุโรป, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ที่ฟื้นกลับเข้ามาอีกครั้ง ช่วยเสริมฐานตลาดจีนที่มีอยู่ดั้งเดิม