7วันจับแก๊งยานรก8คดี รวบ15คน-ยึดขอกลางค่า1,200ล้าน

7วันจับแก๊งยานรก8คดี รวบ15คน-ยึดขอกลางค่า1,200ล้าน

ปส.โชว์ฝีมือ! 7วันจับแก๊งขนยานรก8คดี ได้ผู้ต้องหา15คน ยึดของกลาง ยาบ้า6ล้านเม็ด ไอซ์11กก.และยาเค2กก เผยมูลค่ากว่า1,200ล้านบาท

เมื่อเวลา 14.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผช.ผบ.ตร. ,พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3, พล.ท.ธนา จารุวัต รองแม่ทัพภาคที่3, พล.ต.ต.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกำเหนิด ผบก.ปส.3 และ พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ ผบก.สกส.

ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายวิทยา กันทะวัง อายุ 30 ปี ชาวจ.พะเยา , น.ส.อธิชา เพิ่มดี อายุ 32 ปี ชาวจ.พะเยา , นายบุญส่ง ปรีกมล อายุ 30 ปี ชาวจ.พะเยา , นายนิเวศน์ ใจตรง อายุ 43 ปี ชาวจ.พะเยา และ น.ส.จำนอง พรหมสุริยา อายุ 42 ปี ชาวจ.พะเยา พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภทที่1(ยาบ้า) จำนวน 300,000 เม็ด , รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน กย 8638 เชียงราย,รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ซิตี้ สีเทา หมายเลขทะเบียน กฉ 1012 พะเยา และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง

ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า ) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาติ สามารถจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนหน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ออน ระหว่าง กม. 29-30 ทางหลวงชนบท 1317 ต.บ้านสหกรณ์ อ.แม่ออน จว.เชียงใหม่ ต่อเนื่อง ป่าละเมาะหมู่บ้านห้วยฮ่องใคร้ หมู่ 8 ต.แม่โป่ง อ.ดอยสะเก็ด จว.เชียงใหม่ และต่อเนื่องถนนในหมู่บ้านสหกรณ์ 3 หมู่ 3 ต.บ้านสหกรณ์ อ.แม่ออน จว.เชียงใหม่

พล.ต.ต.ทนัย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด (บก.สกส.บช.ปส.) ได้รับแจ้งจากสายลับว่าในวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ต้องหาในคดีนี้ จะลักลอบลำเลียงขนยาเสพติดจากพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงราย ไปส่งมอบให้ลูกค้าใน จ.เชียงใหม่ โดยจะใช้รถยนต์เช่าขับขี่เป็นพาหนะในการลำเลียงจึงได้ร่วมกับ บก.ปส.3 และ บก.ขส.บช.ปส. จึงได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจรถที่มีลักษณะตรงตามที่สายลับส่งมา จนกระทั่ง เวลาประมาณ 06.21 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจพบว่ารถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน กย 8638 เชียงราย และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ซิตี้ สีเทา หมายเลขทะเบียน กฉ 1012 พะเยา ขับผ่านไปทาง ต.แม่เจดีย์ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ทิศทางมุ่งหน้าเข้า จ.เชียงใหม่ จึงได้สะกดรอยติดตามรถยนต์ทั้ง 2 คันไป กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสังเกตเห็นว่ารถยนต์คันหมายเลขทะเบียน กย 8638 เชียงราย ไหวตัวพยายามเร่งเครื่องยนต์เพื่อให้หลุดจากการติดตาม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าสกัดและหยุดรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน กฉ 1012 พะเยา พบ นายบุญส่ง ปรีกมล เป็นผู้ขับขี่ และมี น.ส.อธิชา เพิ่มดี นั่งที่นั่งข้างคนขับ โดยมี นายนิเวศน์ ใจตรง และ น.ส.จำนอง พรหมสุริยา นั่งอยู่ภายในรถด้วย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าควบคุมตัวไว้ได้ในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ขับขี่รถยนต์คันหมายเลขทะเบียน กย 8638 เชียงราย ได้พยายามเร่งความเร็วเพื่อหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสกัดและหยุดรถยนต์คันดังกล่าว และพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ลักษณะเปิดฝากระโปรงท้ายทิ้งไว้ แต่ไม่พบผู้ขับขี่ จึงได้ตรวจสอบบริเวณโดยรอบจนพบว่านายวิทยา กันทะวัง หลบซ่อนในพงหญ้าไม่ไกลจากที่รถยนต์จอด ทั้งนี้ นายวิทยา ให้การยอมรับว่า ตนเองได้รับจ้างลำเลียงยาเสพติดจาก จ.เชียงราย และได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเอายาเสพติดที่ทิ้งไว้ ที่ถนนในหมู่บ้านสหกรณ์ 3 หมู่ 3 ต.บ้านสหกรณ์ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ สามารถยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) หรือ เมทแอมเฟตามีน รวมอยู่ในถุงพลาสติกสีดำขนาดใหญ่ จำนวน 20 แพ็ค รวมจำนวน 300,000 เม็ด จึงยึดไว้ พร้อมของกลาง

พล.ต.ต.ทนัย กล่าวต่อว่า จากที่มีการปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้พบว่าการลักลอบข้นยาเสพติดในปัจจุบันมีการขนยาเสพติดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือน้อยลง แต่กลับมีการขนยาเสพติดเข้ามาจากทางภาคเหนือเพิ่มขึ้น กลุ่มของชาวเขาม้งถูกว่าจ้างให้ขนยาน้อยลง แล้วพบว่ามีคนไทยพื้นราบเข้ามาขนยาเสพติดด้วย ซึ่งจากการจับกุมขบวนการดังกล่าวได้มีหนึ่งในผู้ต้องหาที่เคยต้องโทษคดีค้ายาเสพติด ก่อนจะถูกประกันตัวออกมาและกลับมาก่อเหตุอีกครั้ง อีกทั้งยังเป็นลูกชายของนักการเมืองท้องถิ่นในระดับองค์การบริหารส่วนตำบลอีกด้วย

ด้าน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ทั้งนี้จากการปราบปราบยาเสพติดในช่วงเวลา 7 วันนี้ ในพื้นที่ปริมณฑล สามารถจับกุมขบวนค้ายาเสพติดได้ 8 คดี รวมผู้ต้องหา 15 ราย สามารถยึดยาเสพติดได้จำนวน 6,251,586 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 11.127 กิโลกรัม และ เคตามีน จำนวน 2 กิโลกรัม รวมมูลค่ากว่าก 1,280,791,200 บาท ซึ่งทั้ง 8 คดี ไม่ใช่เครือข่ายเดียวกัน แต่เป็นยาตัวเดียวกัน โดยยาตัวดังกล่าวมีขบวนการกลุ่มว้าใต้เป็นผู้ผลิต และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการกว้าดล้างยาเสพติด ทั้งนี้จะทำการสืบสวนขยายผล เพื่อหาตัวผู้ค้ารายใหญ่มาดำเนินคดีให้ได้ ส่วนยาเสพติดทั้งหมดจะส่งให้กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เป็นผู้จัดการทำลายต่อไป