ปั้นอีเวนท์‘ผลไม้ไทย’ปลุกบริโภคชู‘ทุเรียน’ดึงนักท่องเที่ยว

ปั้นอีเวนท์‘ผลไม้ไทย’ปลุกบริโภคชู‘ทุเรียน’ดึงนักท่องเที่ยว

เข้าสู่ฤดูกาลผลไม้ไทย สินค้าเศรษฐกิจของไทยที่มีศักยภาพและจุดแข็ง ซึ่งภาคธุรกิจนำมาชูโรงขับเคลื่อนการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยผ่านกลยุทธ์  “Destination for Tropical Fruits”

โดยมี  King of Fruit อย่าง “ทุเรียน” เป็นไฮไลท์ กระตุ้นการบริโภคผลไม้ไทยและโปรโมทผลไม้ไทยในเวทีโลก 

ภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหารเครือข่ายร้านซูเปอร์มาร์เก็ต ท็อปส์ และ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ กล่าวว่า ได้นำราชาแห่งผลไม้ไทย “ทุเรียน” มาสร้าง “จุดขาย” โปรโมทให้เป็น “อีเวนท์แห่งชาติ” ในการกระตุ้นการบริโภคผลไม้ไทย และดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติควบคู่กัน 

เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จัด “บุฟเฟ่ต์ทุเรียน” ครั้งแรกเดือน ส.ค.ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปลายฤดูของทุเรียนจากภาคตะวันออก และเป็นฤดูเก็บเกี่ยวของทุเรียนภาคใต้ พบว่ามีการตอบรับที่ดีจากลูกค้าซึ่งเป็นสัดส่วนคนไทย 70% ต่างชาติ 30% มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นหลัก

 “บุฟเฟต์ทุเรียน ปลุกกระแสและสร้างการรับรู้ในตลาดต่างชาติให้รู้จักไทยในฐานะ Destination for Tropical Fruits ซึ่งถูกนำมาต่อยอดสร้างอีเวนท์แห่งชาติที่ต่างชาติต้องบุ๊กกิ้งเดินทางมาชิม”

ปีนี้ ได้ต่อยอดขยายความร่วมมือกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงพาณิชย์ และ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เซ็นทรัลเฟสติวัล และเซ็นทรัลเวิลด์ กำหนดนโยบายให้งาน “บุฟเฟ่ต์ทุเรียน” เป็นหนึ่งในอีเว้นท์หลักของบริษัทและประเทศไทย ภายใต้แคมเปญ Thailand Amazing Durian&Fruit Fest 2017 หรือ เทศกาลบุฟเฟ่ต์ทุเรียนและสุดยอดผลไม้ไทย มีจุดขาย ความหลากหลายของผลไม้ไทยและสินค้าแปรรูป 300 รายการ ขณะที่ไฮไลท์ “ทุเรียน” มีถึง 17 สายพันธุ์

ปักหลัก 3 เมืองท่องเที่ยวของไทย ได้แก่ กรุงเทพฯ  จัดงาน วันที่ 24-31 พ.ค. ลานด้านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตามด้วย "เชียงใหม่“  วันที่ 7-13 มิ.ย. ที่เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ และ ”ภูเก็ต"  วันที่ 28 มิ.ย.-4 ก.ค. ที่เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต

 ภัทรพร กล่าวว่า เฉพาะทุเรียน คาดสร้างยอดขายไม่ต่ำกว่า 100 ตัน มูลค่ามากกว่า 10 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการจำหน่ายผลไม้ที่ปลูกในประเทศผ่านร้านซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือปีนี้คาดยอดขาย 1 หมื่นตัน จากปี 2559 จำหน่ายกว่า 7,000 ตัน  “ท็อปเท็น” ได้แก่ กล้วย แตงโม เมล่อน ทุเรียน ส้ม มะม่วง สับปะรด มะละกอ ลองกอง และเงาะ

อีเวนท์ “บุฟเฟ่ต์ทุเรียน” ยังมีผู้ประกอบการค้าปลีกอย่าง จังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต จับมือ กระทรวงพาณิชย์ และ จังหวัดภูเก็ต จัดงาน Thailand: King Fruit Paradise @Phuket มหกรรมบุฟเฟ่ต์ทุเรียน และผลไม้สดตามฤดูกาล ดึงดูดบรรดาทุเรียนเลิฟเวอร์ ถึงวันที่ 30 พ.ค.นี้ 

ก่อนหน้านี้ “ดิ เอ็มควอเทียร์” จัดงาน “ควอเทียร์ ทุเรียน เฟสติวัลและของดีจังหวัดตราด” มีแม่เหล็กอย่างทุเรียนพันธุ์หมอนทองและชะนีจากเกาะช้าง ที่มีการตอบรับจากนักท่องเที่ยวชาวจีนมาใช้บริการไม่น้อย 

 

เดลิเวอรี่ผลไม้บูม

กานดา เดชเทวัญดำรง ผู้จัดการ ร้านไอยราพรีเมียมฟรุ๊ต และ ผู้ให้บริการเดลิเวอรีผลไม้เกรดพรีเมียม กล่าวว่า  ช่วงเปลี่ยนผ่านจากผลไม้นำเข้าสู่ฤดูกาลผลไม้ภายในประเทศขณะนี้ พบว่าตลาดคึกคักจากกระแสโปรโมท “อีเวนท์ผลไม้” ที่มีกิจกรรมการตลาดและการส่งเสริมการขายดึงดูดลูกค้ามากขึ้น

 ขณะนี้เป็นฤดูกาลของผลไม้ภาคตะวันออก โดยเฉพาะ“ทุเรียน-ราชาผลไม้ไทย” ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ความนิยมบริโภคผลไม้ไทยที่มีรสชาติอร่อยไม่แพ้ชาติใดในโลกมีมากขึ้น โดยไฮไลท์ยอดนิยมยังคงเป็นทุเรียนและมังคุด ซึ่งถือเป็นราชา-ราชินีผลไม้ไทย นอกจากนั้นยังมีเงาะ ลิ้นจี่”

 ส่งผลธุรกิจเดลิเวอรี่ผลไม้เกรดพรีเมียมมีโอกาสเติบโตสูง “สวนทาง” เศรษฐกิจและกำลังซื้อชะลอตัว โดยมีออเดอร์ 40-60 ราย ช่วงวันจันทร์-ศุกร์ หรือยอดสั่งซื้อเฉลี่ยรวมสำหรับผลไม้ไทยและผลไม้นำเข้า 15,000-30,000 บาทต่อวัน ขณะที่ช่วงเทศกาลตรุษจีน ปีใหม่ เพิ่มเป็นกว่า 100 ออเดอร์ บางรายซื้อหลักแสนบาทเป็นของฝากของขวัญ

จุดแข็ง ของไอยราฯ นอกจากความพรีเมียมของสินค้า “พนักงาน” เป็นหัวใจสำคัญ ทั้งทีมรับคำสั่งซื้อ คัดเลือกและบรรจุผลไม้ ควบคุมคุณภาพ จัดส่ง ฯลฯ ด้วยประสบการณ์ความชำนาญในการควบคุมมาตรฐานตลอดวงจร นับเป็นความได้เปรียบคู่แข่ง โดยไอยราฯ จะเปิดรับออเดอร์เดลิเวอรี่ผลไม้ล่วงหน้า 1 วัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. จากนั้นจะทำการจัดเตรียมแพ็คผลไม้ในตอนเช้าและจัดการขนส่งด้วยรถห้องเย็นควบคุมอุณหภูมิ

ผลไม้ไทยซื้อที่ใดก็ได้ จุดแข็งของเราคือความสะดวกในการสั่งเดลิเวอรี่ออนไลน์ ลูกค้าไม่ต้องออกจากบ้านไปเผชิญฝนตก รถติด"

แม้ความสดของผลไม้ คือ “ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น” แต่เป็นแม่เหล็กสำคัญที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจแบรนด์และกลับมาซื้อซ้ำ โดย 80% เป็นลูกค้าประจำที่กลับมาสั่งซื้อซ้ำในปริมาณเพิ่มขึ้น

ปีนี้ “ไอยราพรีเมียมฟรุ๊ต” มุ่งทำการตลาดเชิงรุก “สร้างการรับรู้ต่อแบรนด์” ผ่านออนไลน์และออฟไลน์เพื่อขยายฐานลูกค้า มุ่งโรดโชว์ ออกบูธ ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า กระตุ้นให้ทดลองใช้บริการสั่งผลไม้ควบคู่การทำตลาดผ่านดารานักแสดง เซเลบริตี้ต่างๆ ให้ได้ “ทดลองทาน” และ “โปรโมท”  เป็นเครื่องมือเพิ่มยอดขายอย่างเห็นได้ชัด