แย้งผบ.ตร.! ยังไม่รู้ตัวคนวางบึ้มรพ.พระมงกุฏฯ-คืบหน้าแค่20%

แย้งผบ.ตร.! ยังไม่รู้ตัวคนวางบึ้มรพ.พระมงกุฏฯ-คืบหน้าแค่20%

"ศรีวราห์" แย้ง "ผบ.ตร." ย้ำยังไม่รู้ตัวคนวางบึ้มรพพระมงกุฏฯ ผลสืบสวนคืบแค่20% สั่งพฐ.ลงพื้นที่เก็บหลักฐานใหม่ ด้านสันติบาลชี้เป้าต้องสงสัย200คน ส่วนนครบาลชี้100คน เผยบึ้ม3จุดโยงไปป์บอมบ์ปี53

 เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 29 พฤษภาคม ที่ห้องศรียานนท์ อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ ศรีพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ด้านความมั่นคง เป็นประธานการประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า โดยมี พล.ต.อ.เดชา ช่วยบุญชุม พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา (สบ 10)และคณะพนักงานสอบสวน ชุดสืบสวน ร่วมประชุม นานกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที

พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้ (29 พ.ค.) ได้แบ่งมอบงานให้ พล.ต.อ.เดชา เป็นหัวหน้างานด้านสอบสวน พล.ต.อ.สุชาติ เป็นหัวหน้างานด้านสืบสวน ไปจัดสรรแบ่งมอบงานทีมงานทั้งหมด แม้การสืบสวนสอบสวนจะมีความคืบหน้าบ้าง แต่ส่วนตัวพอใจผลการสืบสวนสอบสวนเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ส่วนภาพสเกตช์ที่เป็นข่าวปรากฏในสื่อมวลชนก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ให้คะแนนเป็นศูนย์เลย ที่พอใจเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากชุดทำงานด้านต่างๆ ยังตอบคำถาม ข้อสงสัย ไม่ชัดเจน

โดยยอมรับว่าพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ยังไม่ชัดเจนนัก จึงสั่งการให้กองพิสูจน์หลักฐานและหน่วยที่เกี่ยวข้องลงไปดูที่เกิดเหตุที่ รพ.พระมงกุฏฯ อีกครั้ง ให้ไปเก็บหลักฐานเพิ่มให้ละเอียด เพื่อหาความเชื่อมโยงของคดีที่เกิดขึ้นทั้งหมด และความเชื่อมโยงกับคนร้าย รวมถึงรวบรวมพยานหลักฐานหาไทม์ไลน์ ลำดับเวลาการเกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีอะไรชัดเจนเท่าที่ควร ยังพยายามตรวจสอบกล้องวงจรปิด แต่ต้องถามว่าได้อะไรบ้างหรือไม่ ชัดหรือไม่ไปดูสิ กล้องรุ่นโบราณก็ไม่รู้จะได้อะไรบ้าง

พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่ออกมาเปิดเผยว่า รู้ตัวคนร้ายแล้ว โดยบอกว่า ในการสืบสวนสอบสวนของชุดทำงานนี้ยังไม่มี พบเฉพาะผู้ต้องสงสัย ก็มีบ้างที่พอจะทราบ แต่คงเอาข้อมูลที่มีไปขออนุมัติหมายจับไม่ได้ บางทีคนสติไม่ดีมาชี้ว่าคนนั้นคนนี้ทำ ต้องถามว่าเชื่อได้หรือ ศาลจะฟังและออกหมายจับให้หรือ ต่อให้ใครมาอ้างว่าตัวเองทำก็ยังออกหมายจับไม่ได้ หากไม่มีหลักฐาน ตอนนี้ในส่วนของตัวคนร้ายนั้นยังไม่ชัดเจนพอที่จะออกหมายจับใคร ซึ่งตำรวจออกหมายจับเองไม่ได้ หรือถ้าออกมาแล้วตัวจะอยู่ให้จับหรือไม่

“ตอนนี้ในทางสืบสวนสอบสวนนั้น มีการรายงานกลุ่มคนต้องสงสัยคนที่น่าจะเกี่ยวข้อง คนที่เป็นไปได้ว่าจะมาวางระเบิด หรือร่วมทีม จำนวนกว่า 200 คน ของนครบาลส่งข้อมูลมา 100 กว่าคน ของสันติบาล 80-90 คน ซึ่งไม่ตรงกันเลย ข้อมูลของใครของมัน นครบาลและสันติบาลต่างก็มีข้อมูลของตัวเอง ส่วนจะเป็นกลุ่มการเมืองหรือไม่ ผมพูดไม่ได้หรอก พูดไปก็แตกแยก เอาเป็นว่าต้องพิสูจน์ทราบ ตัดคนที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องออก แล้วหาคนที่หลักฐานชี้ไปถึง ทุกคนที่ปรากฏชื่อตามข่าว ก็เป็นแนวทางการสืบสวน ย้ำว่าการสืบสวนสอบสวนของตำรวจจะยังไม่ชี้ว่ามูลเหตุเป็นเรื่องใด การเมืองหรือไม่ พูดไม่ได้ เพราะสืบสวนสอบสวนจากพยานหลักฐานไปหาคนร้าย ตอนนี้ยังไม่กล้าสงสัยใครเลย ยังไม่จับใคร เพราะยังไม่มีข้อมูลชัดเจน ขณะนี้ระบุได้เพียงคนร้ายมีเจตนาสร้างความปั่นป่วน ไม่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหาร” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวถึงจดหมายข่มขู่ว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบที่มาว่าใครส่งมา จากไหน จุดประสงค์ที่ชัดเจน และยังไม่สามารถชี้ได้ว่าเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดรพ.พระมงกุฏหรือไม่ ส่วนการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล 3 ราย ก็อยู่ในสำนวน ให้การไม่เป็นประโยชน์ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้กรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่ามีการสอบผู้ต้องสงสัย 40-50 คน นั้นก็เป็นส่วนของกองทัพ

ส่วนนี้ตำรวจยังไม่ได้เข้าไปสอบ และทางกองทัพก็ยังไม่ได้ประสานข้อมูลมา หากทางกองทัพ ฝ่ายความมั่นคงเห็นว่ากลุ่มนี้จำเป็นที่ตำรวจต้องเข้าไปสืบสวนสอบสวน ทางกองทัพก็จะมาประสานมาเอง แม้ทางกองทัพจะออกมาชี้ว่ามูลเหตุการก่อเหตุครั้งนี้เป็นเรื่องการเมือง ก็เป็นเพียงข่าว ที่ยังไม่อยู่ในสำนวน ยืนยันว่าไม่เป็นการชี้นำ ชี้นำไม่ได้ ตำรวจยังสืบสวนตามพยานหลักฐาน ยืนยันเรื่องนี้ไม่มีตอ และไม่มีความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนกรณีไม่มีชื่อ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.ร่วมใน ชุดสืบสวนสอบสวน 201 นาย นั้น ไม่มีนัยยะขัดแย้งอะไร เป็นความผิดพลาดทางธุรการ ตอนนี้เพิ่มชื่อเข้าไปแล้ว และการที่ ผบช.น.ไม่ร่วมประชุมวันนี้ เพราะติดภารกิจของนายกรัฐมนตรี

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวด้วยว่า จากการสืบสวนพบว่า เหตุระเบิด 3 ครั้ง ล่าสุดใน กทม. นอกจากมีความเชื่อมโยงกับเหตุระบิดในปี 2550 แล้ว พยานหลักฐานเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดไปป์บอมบ์ในปี 2553 ที่มีผู้เสียชีวิตระเบิดฉีกร่างตัวเองย่านมีนบุรี อย่างไรก็ตามยอมรับว่า หลังเกิดเหตุระเบิด ตำรวจนครบาลลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว ตรวจสอบแหล่งพำนักของกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่เคยเคลื่อนไหวมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ บก.น.3 และ บก.น.4 ย่านหนองจอก มีนบุรี และคลองสามวา ก็เข้าไปหาข่าวกดดันต่อเนื่อง ส่วนความเกี่ยวข้อง นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ นั้น ไม่ขอตอบ เพราะอยู่ในสำนวน