วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (29 พ.ค.60)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (29 พ.ค.60)

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม ตอบรับการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปคและนอกกลุ่มโอเปค

+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปคบรรลุข้อตกลงในการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไป 9 เดือน จากข้อกำหนดเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือน มิ.ย. 60 นี้ เพื่อให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง (OECD Commercial Inventory) ปรับลดลงจากระดับ 3,000 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ระดับ 2,700 ล้านบาร์เรล

- อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบที่ปิด ณ วันสิ้นสุดสัปดาห์อยู่ในระดับต่ำกว่าสัปดาห์ก่อนหน้า เนื่องจากตลาดโดยรวมผิดหวังต่อผลการประชุมของผู้ผลิตในกลุ่มโอเปคที่ขยายระยะเวลาในการปรับลดกำลังผลิตเพียง 9 เดือน น้อยกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ว่ามีโอกาสสูงถึง 1 ปี  


+ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ปรับเพิ่มตัวเลขการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 1/2560 มาอยู่ที่ระดับ 1.2% สูงกว่าระดับที่ประมาณการที่ 0.7% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 0.9% โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลัก ได้แก่ การขยายตัวของการใช้จ่ายผู้บริโภค การลงทุนภาคธุรกิจ และการใช้จ่ายภาครัฐที่แข็งแกร่ง

- ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ ประจำเดือน เม.ย. 60 ปรับตัวลดลง 0.7% ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยการปรับตัวลดลงดังกล่าวนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐ เริ่มเข้าสู่ภาวะชะลอตัวลง


- Baker Hughes รายงาน จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 26 พ.ค. 60 ปรับเพิ่มขึ้น 2 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 722 แท่น โดยนับเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 19 เนื่องจากตลาดมีการคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบอาจมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตอบรับการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปค 


ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเล็กน้อย จากแรงหนุนของอุปสงค์ที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลถือศีลอด ประกอบกับอุปสงค์ที่ปรับเพิ่มขึ้นจากภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของตลาดน้ำมันเบนซินในเอเชียยังคงถูกกดดันจากอุปทานที่ปรับเพิ่มขึ้นจากยุโรป

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากแรงกดดันของปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่สิงคโปร์ที่ปรับตัวสูงสุดในรอบ 3 เดือนครึ่ง มาอยู่ที่ระดับ 14.38 ล้านบาร์เรล


ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

         ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 48-53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

         ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 50-55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ มีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากโรงกลั่นในสหรัฐ คงกำลังการกลั่นในอัตราที่สูงต่อเนื่องที่ระดับสูงกว่าร้อยละ 93 เพื่อรองรับความต้องการน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูกาลขับขี่ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สิ้นสุด ณ วันที่ 19 พ.ค. 2560 ปรับลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 516.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งนับเป็นการปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน

- ปริมาณผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ มีทิศทางปรับตัวสูงขึ้น หลังราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาสูงกว่าระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  ส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐ เพิ่มจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี นับจากเดือน เม.ย. 58 และส่งผลทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ ปรับเพิ่มกว่าร้อยละ 10 จากช่วงกลางปีก่อนหน้าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 9.32 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดย Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 26 พ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 2 แท่นมาอยู่ที่ 722 แท่น

- ภาวะอุปทานโลกล้นตลาดมีแนวโน้มคลี่คลายลง หลังในการประชุมวันที่ 25 พ.ค. ผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปคบรรลุข้อตกลงในการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือนนับจากกำหนดการเดิมที่สิ้นสุด มิ.ย. 60 และคงปริมาณการปรับลดที่ราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม อิหร่าน ลิเบีย และ ไนจีเรียยังคงได้รับการยกเว้นการปรับลดกำลังการผลิต เนื่องจากประเทศเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรและเหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศ

---------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)

โทร.02-797-2999