ลุ้นผลตรวจรถลัมโบร์กินีนักร้อง 'ด'

ลุ้นผลตรวจรถลัมโบร์กินีนักร้อง 'ด'

"ดีเอสไอ" ขอตรวจสอบหมายเลขตัวถัง-เครื่องยนต์รถหรูนักร้อง "ด" ชี้อาจคนละคันกับรถที่โดนขโมยจากอังกฤษ พร้อมลุยไล่ล่ารถโจรกรรมอีก 32 คัน

พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ ) กล่าวถึงการตรวจสอบขบวนการนำเข้ารถยนต์หรูหลบเลี่ยงภาษีโดยจำนวนหนึ่งเป็นรถที่โจรกรรมมาจากประเทศอังกฤษ ว่า หน่วยต่อต้านการโจรกรรมรถยนต์ สหราชอาณาจักร หรือNaVcis(National Vehiclei Crime Intelligence Sevice) ได้ประสานข้อมูลมายังดีเอสไอให้สืบสวนสอบสวนจนพบรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาแล้ว 10 คัน โดยยอมรับว่าข้อมูลหลักฐานจาก Na Vcis ที่ประสานผ่านช่องทางความร่วมมือในการดำเนินคดีอาญาระหว่างประเทศ เจาะจงให้ตรวจสอบโชว์รูมรถยนต์หรูในประเทศไทย ซึ่งมีข้อมูลพัวพันกับการโจรกรรมรถยนต์ในประเทศอังกฤษ

ต่อมาดีเอสไอได้สืบสวนจนพบรถยนต์ต้องสงสัย นำไปสู่การอายัดรถยนต์หรูจำนวน 7 คัน ส่วนกรณีการตรวจสอบพบสัญญาฝากขายรถยนต์ลัมโบร์กินี ซึ่งลงชื่อโดยนักร้องและนักแสดงหนุ่ม อักษรย่อ "ด" นั้น ขณะรายละเอียดยังไม่ชัดเจน โดยในวันที่ 29 พ.ค.นี้ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะตรวจสอบหมายเลขตัวถังและหมายเลขเครื่องยนต์ให้ชัดเจนว่า เป็นลัมโบร์กินีคันเดียวกันหรือไม่ เท่าที่ได้รับรายงานเบื้องต้นอาจเป็นรถยนต์คนละคัน ซึ่งจะมีความชัดเจนหลังการตรวจสอบหลักฐานในวันพรุ่งนี้

ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า Na Vcis ประสานมายังดีเอสไอว่าประเทศอังกฤษถูกโจรกรรมรถซูเปอร์คาร์และรถยนต์หรูทั้งหมด 60 คัน ส่งมาที่ประเทศไทยจำนวน 42 คัน เจ้าหน้าที่ดีเอสไอพบแล้ว 10 คัน หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ NaVcis จะเดินทางมาที่ประเทศไทย เพื่อนำข้อมูลและแผนประทุษกรรมของขบวนการโจรกรรมมาแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทางการไทย ในส่วนแผนประทุษกรรม หรือแผนโจรกรรมรถหรูจากประเทศอังกฤษนั้น

เบื้องต้น NaVcis ให้ข้อมูลมาว่าเป็นลักษณะเช่าซื้อรถ หรือผ่อนชำระกับไฟแนนซ์ของคนอังกฤษ หลังจากนั้นจะนำรถไปขายให้กับคนไทย ที่ร่วมในขบวนการโจรกรรมรถ ก่อนส่งรถหรูลงเรือขนส่งมาประเทศไทย หลังจากนั้นจึงค่อยแจ้งความกับตำรวจอังกฤษว่ารถหรูถูกขโมยเพื่อเคลมประกัน ซึ่งรูปแบบการกระทำความผิดคล้ายกับขบวนการโจรกรรมรถยนต์หรูจากประเทศมาเลเซียส่งข้ามแดนมายังไทย และอาจเชื่อมโยงกับขบวนการลักลอบนำเข้ารถซุปเปอร์คาร์ในประเทศลาวด้วย

สำหรับปฏิบัติการตรวจค้นโชว์รูมซุปเปอร์คาร์ของดีเอสไอทั้ง 2 ครั้ง ในวันที่ 18 พ.ค. และ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา อายัดรถยนต์ที่พบว่ามีการสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริงเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีอากรรวม 160 คัน มูลค่าความเสียหายทางภาษีกว่า 3,000 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวพบเป็นรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาจากอังกฤษ 10 คัน จอดรอการขายอยู่ในโชว์รูม 6 คัน ขายโอนทะเบียนให้ผู้ครอบครองแล้ว 3 คัน และจอดอยู่ในเขตปลอดอากร 1 คัน ส่วนอีก 32 คันอยู่ระหว่างการสืบสวนเบื้องต้นพบเบาะแสแล้ว 10 คัน โดยขบวนการลักลอบนำเข้ารถยนต์สร้างความเสียหายให้กับการจัดเก็บภาษีของรัฐบาลไทยนับ 10,000 ล้านบาท และยังสร้างความเสียหายให้กับประเทศอังกฤษโดยบริษัทประกันภัยต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับรถที่ถูกโจรกรรม ซึ่งถูกลักลอบส่งออกมาขายในประเทศไทย