‘แอตต้า’ชงท่องเที่ยวผนึกวีแชทป้อนข้อมูล‘ทัวร์จีน’

‘แอตต้า’ชงท่องเที่ยวผนึกวีแชทป้อนข้อมูล‘ทัวร์จีน’

แอตต้าชงกระทรวงท่องเที่ยว จับมือ “วีแชท” เจาะตลาดจีน 700 ล้านคน ตั้งระบบป้อนข้อมูลเรียลไทม์เมื่อถึงไทย หวังยกระดับทัวร์คุณภาพ-ป้องกันปัญหา

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า  เดือน มิ.ย.นี้ ตัวแทนจากสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (ซีเอ็นทีเอ) จะมาประชุมร่วมกับกระทรวงเพื่อติดตามความคืบหน้าความร่วมมือส่งเสริมท่องเที่ยว  ทั้งด้านมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว มาตรการยกระดับทัวร์คุณภาพ การปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมาย 

ไทยมีประเด็นที่ต้องติดตามจากซีเอ็นทีเอ เช่น การสอดส่องจากต้นทางในจีนถึงการขายแพ็คเกจทัวร์ในราคาที่เหมาะสม  ซึ่งต้องพิจารณาด้วยว่า ซีเอ็นทีเอ ได้ดำเนินมาตรการเดียวกันในประเทศอื่นหรือไม่อย่างไร เพื่อยกระดับมาตรฐานสอดคล้องกันทั้งภูมิภาคไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการแข่งขันจับตลาดจีน

ขณะเดียวกันได้หารืออย่างไม่เป็นทางการกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) และสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ให้ช่วยกันสอดส่องการทำธุรกิจนำเที่ยวมาไทย เนื่องจากที่ผ่านมามักพบปัญหานักท่องเที่ยวที่ไม่พอใจในบริการจะไปร้องเรียนทางการเมื่อกลับไปถึงประเทศแล้ว

“ทำให้เกิดเสียงสะท้อนกลับมาระหว่างหน่วยงานภาครัฐ  แม้ว่าทัวร์ผิดกฎหมายหายไปจากระบบแล้วกว่า 95% แต่ยังต้องดำเนินมาตรการควบคุมอย่างเข้มข้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำเดิม”

นายอดิษฐ์ชัย รัตนานนท์ เลขาธิการ สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า  ต้องการให้ภาครัฐดำเนินมาตรการบังคับใช้กฎหมายห้ามทัวร์ขายบริการนำเที่ยวเสริม (ออพชั่นทัวร์) ราคาสูงเกิน 3,000 บาท เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการบังคับขายในราคาสูงเกินจริงและเกิดการทิ้งทัวร์เมื่อลูกค้าไม่ยอมจ่ายเงินซื้อออพชั่นเพิ่ม 

นอกจากนั้นได้เสนอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ใช้เทคโนโลยีในการให้ข้อมูลเข้าถึงตลาดขาเข้า (อินบาวด์) จากจีน ด้วยการร่วมมือกับวีแชทช่องทางสังคมออนไลน์ที่เข้าถึงฐานผู้ใช้งานกว่า 700 ล้านคนในจีนจัดทำบัญชีอย่างเป็นทางการของกระทรวงเพื่อส่งต่อข้อมูลสำคัญด้านการท่องเที่ยว เช่น กฎระเบียบต่างๆ การดูแลความปลอดภัยโดยตั้งระบบอัตโนมัติแจ้งเตือนทันทีเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงไทย เช่น เตือนให้ทราบการซื้อออพชั่นทัวร์ในราคาที่ไม่ควรเกิน 3,000 บาท ตามข้อกำหนด 

พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พร้อมยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวขั้นต่อไปด้วยการลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ร่วมกันของ 3 หน่วยงาน ได้แก่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และสทท. เพื่อร่วมมือด้านวิชาการและการวิจัยนำข้อมูลมาต่อยอดการวางนโยบายต่างๆ 

เริ่มต้นด้วยการจัดประชุมทางวิชาการเพื่อสร้างความร่วมมือด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการของไทย (ทีเอฟทีอาร์ไอ) วานนี้ (25 พ.ค.) ซึ่ง สกว.กำหนด 11 กรอบงานวิจัยภายใต้ 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มการท่องเที่ยวข้ามพรมแดน  กลุ่มการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และการท่องเที่ยวโดยชุมชน  และกลุ่มการสร้างมูลค่าเพิ่มทางการท่องเที่ยว

นางกอบกาญจน์ กล่าวเสริมว่า  จะนำการวิจัยมาต่อยอดนโยบาย เช่น การพัฒนาลุ่มน้ำโขงให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวร่วมกันของกลุ่มประเทศลุ่มน้ำมีเป้าหมายพัฒนาคล้ายกับแม่น้ำดานูบของฝรั่งเศส

เบื้องต้น ได้มีแนวทางร่วมมือกับลาวพัฒนา 3 พื้นที่หลัก ได้แก่ 1.บริเวณภูชี้ฟ้าและภูชี้ดาวทางฝั่งไทยขึ้นกับ อ.เวียงแก่น และอ.เทิงของเชียงราย ส่วนฝั่งลาวขึ้นกับเมืองปากทาแขวงบ่อแก้ว 2.บริเวณช่องทางบ้านฮวก-กิ่วหกโดยไทย ขึ้นอยู่กับ อ.ภูซาง จ.พะเยา และ ลาว ขึ้นกับเมืองคอบแขวงไซยะบุรี 3.บริเวณแก่งผาได อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย