ผู้นำจี7เสียงแตกประเด็นสิ่งแวดล้อม-การค้า

ผู้นำจี7เสียงแตกประเด็นสิ่งแวดล้อม-การค้า

ปธน.ทรัมป์กล่าวในที่ประชุมด้วยว่า เขาไม่ต้องการที่จะเห็นโลกตั้งกำแพงภาษีที่สูงลิ่ว แต่เขาต้องการที่จะเห็นการค้าที่เป็นธรรม เสรีและเปิดกว้าง

ผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก คว้าน้ำเหลวในการโน้มน้าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐให้ปฏิบัติตามความตกลงปารีส ว่าด้วยปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ในระหว่างการประชุมซัมมิตจี7 วันแรกที่ประเทศอิตาลีเมื่อวานนี้ โดยปธน.ทรัมป์ ยังคงยืนกรานว่า กฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อมดังกล่าวเป็นตัวการสำคัญที่จะฉุดรั้งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ทั้งยังเป็นอุปสรรคต่อการสร้างงานให้กับชาวอเมริกันด้วย

การประชุมสุดยอดผู้นำจี7 ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลาสองวันที่เมืองตาออร์มินา ประเทศอิตาลี เปิดฉากขึ้นเมื่อวานนี้(26พ.ค.) โดยนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น พร้อมด้วยผู้นำประเทศคนอื่นๆ ต่างเรียกร้องให้ปธน.ทรัมป์ ยึดมั่นในข้อตกลงระหว่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อม ที่จัดทำขึ้นในปี 2558

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐ เปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์ ซึ่งยึดมั่นจุดยืนอเมริกาต้องมาก่อน จะตัดสินใจภายหลังการประชุมซัมมิตที่อิตาลีว่า สหรัฐจะหันหลังให้กับพันธสัญญาในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามข้อตกลงกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือความตกลงปารีสหรือไม่

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว กล่าวเสริมว่านายทรัมป์ต้องการเวลาเพื่อทำความเข้าใจกับประเด็นปัญหาเหล่านี้ให้ดีกว่านี้ ก่อนจะตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง

นอกจากประเด็นสภาพภูมิอากาศที่คาดกันว่าที่ประชุมจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดๆกันได้แล้ว ผู้นำจี7 ยังมีความเห็นไม่ลงรอยกันเกี่ยวกับประเด็นการค้าเช่นกัน โดยปธน.ทรัมป์เรียกร้องให้ประเทศต่างๆยึดถือแนวทางปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน พร้อมกับยื่นเงื่อนไขว่า หากสหรัฐ ลดกำแพงภาษีสินค้านำเข้าบางรายการ ประเทศอื่นๆก็ควรจะปฏิบัติตาม ด้วยการปรับลดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตราเดียวกัน

ปธน.ทรัมป์กล่าวในที่ประชุมด้วยว่า เขาไม่ต้องการที่จะเห็นโลกตั้งกำแพงภาษีที่สูงลิ่ว แต่เขาต้องการที่จะเห็นการค้าที่เป็นธรรม เสรีและเปิดกว้าง