ร.ร.ราชวินิจบางแก้ว น้ำลดลงแล้ว

ร.ร.ราชวินิจบางแก้ว น้ำลดลงแล้ว

ร.ร.ราชวินิจบางแก้ว น้ำลดลงแล้ว คาดเปิดเรียนตามปกติวันที่ 29 พ.ค. นี้

จากกรณีเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 25 พฤษภาคม 2560 ฝนได้กระหน่ำตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันหลายชั่วโมงจนกระทั่งช่วงเช้า ทำให้บนถนนหลายสายในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงทำการจราจรเคลื่อนตัวได้ช้า โดยเฉพาะที่โรงเรียนราชวินิจบางแก้ว ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และชุมชนใกล้เคียง ที่มีปริมาณน้ำท่วมขังสูงกว่า 80 เซนติเมตร ทำให้โรงเรียนต้องประกาศหยุดเรียนเป็นเวลา 1 วันเพื่อประเมินสถานการณ์ปริมาณน้ำที่ไหลทะลักเข้ามาท่วมขังอยู่ภายในโรงเรียนจนเต็มพื้นที่ และยังไม่มีที่ท่าว่าจะลดลงแต่อย่างไร

จนกระทั่งล่าสุดในวันนี้ (26 พฤษภาคม 2560) โรงเรียนราชวินิจบางแก้ว ได้ประกาศหยุดเรียนเพิ่มอีก 1 วันเนื่องจากปริมาณน้ำที่ท่วมขังในโรงเรียนยังไม่ลดลง และเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลบางแก้ว ได้นำกระสอบทรายจำนวนมากมาวางปิดกั้นที่ด้านหน้าทางเข้าออกโรงเรียน เพื่อป้องกันไม่ให้ปริมาณน้ำที่ท่วมขังอยู่ในถนนด้านหน้าไหลเข้าไปในโรงเรียน ก่อนที่ทางโรงเรียนจะทำการเปิดปั้มขนาดใหญ่ เพื่อทำการสูบน้ำออกจากโรงเรียน จนกระทั้งในช่วงบ่ายปริมาณน้ำที่ท่วมขังในโรงเรียนได้เริ่มลดลงเหลือเพียงทางเดินด้านหน้าโรงเรียนเท่านั้นที่ยังมีปริมาณน้ำท่วมขังอยู่ประมาณ 5-10 เซนติเมตร ซึ่งคาดว่าหากในวันนี้ไม่มีฝนตกลงมาเติมอีกน่าจะสามารถสูบน้ำออกจากภายในโรงเรียนได้ทั้งหมด

ขณะเดียวกันบนถนนซอยราชวินิจบางแก้ว และซอยแยกย่อยซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนเมืองแก้ว ยังคงมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงกว่า 50 เซนติเมตร โดยทาง อบต.บางแก้ว ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงนำเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กมาช่วยสูบน้ำออกตามซอยแยกย่อย เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ไปติดตั้งตามจุดระบายน้ำต่าง ๆ จำนวน 7 เครื่องเพื่อทำการเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังลงสู่คลองสำโรง เพื่อส่งออกทะเลปากอ่าว

นางนภาวรรณ ศรีจันทร์ อายุ 40 ปี ซึ่งมีบ้านพักอยู่ภายในซอยเมืองแก้ว 4 ได้กล่าวว่า เมื่อดึกคืนที่ฝนตกหนักทุกคนยังไม่ทันตั้งตัว จึงทำให้รับมือไม่ทันเพราะไม่คิดว่าจะมีปริมาณน้ำท่วมสูงขนาดนี้ ซึ่งที่บ้านของตนติดตั้งระบบปั้มน้ำอัตโนมัติ แต่เวลาไฟดับปั้มจะไม่ทำงานทำให้น้ำไหลทะลักเข้าไปท่วมบ้านที่บริเวณชั้นล่างข้าวของได้รับความเสียหายหมดเลย เพื่อขนหนีน้ำขึ้นไปบนชั้นที่ 2 ไม่ทันน้ำมันมาแบบว่าเราตั้งตัวไม่ทัน ก็อยากจะให้ทางหมู่บ้านที่เป็นเจ้าของถนนยกให้เป็นทางสาธารณะทาง อบต.จะได้เข้ามาดูแลได้

ด้านนายสมชาย เกตุลอย อายุ 58 ปี ได้กล่าวว่า อยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางออกให้น้ำใหม่ เพราะตอนนี้ปริมาณน้ำที่ท่วมขังอยู่ในขณะนี้มันไม่มีทางออก คือว่าคลองมันหาย และท่อระบายน้ำริมถนนบางนาตราดมันกว้างแค่ 120 เซนติเมตร แถบนี้ทั้งหมดมันรับไม่ทันหลอก เดิมที่ปริมาณน้ำที่ท่วมขังบนถนนแห่งนี้มันระบายออกได้ 2 ทาง คือคลองปลัดเปรียง และคลองบางแก้ว ตอนนี้ห้างเมกามาปิดทางน้ำไปทางด้านโน้นไม่ได้เลย มาทางนี้ทางเดียว ถนนนี้ก็เลยกลายเป็นที่รับน้ำแทน โดยกันหมดทั้งหมู่บ้านเที่ยวนี้เสียหายกันหลายหลังคาเรือน รถของชาวบ้านถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ก็อยากจะให้แก้ไขโดยการหาทางระบายน้ำออกให้ได้ เพราะพื้นที่รับน้ำในแถวนี้ไม่มีแล้วหมดถูกหมู่บ้านสร้างใหม่ยึดไปหมดแล้ว

ด้านนางสาวพัชนนท์ ทองนุต อายุ 54 ปี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว ที่ถูกน้ำไหลทะลักท่วมเข้ามาในร้านจนทรัพย์สินสูญหายลอยไปกับกระแสน้ำจำนวนมาก ได้กล่าวว่า เดือดร้อนมาก เมื่อวานก็ไม่ได้ขายเลยสักชาม และในวันนี้ก็คงยังไม่ได้ขายเหมือนเดิม แต่ของที่เตรียมเอาไว้ขายเมื่อวานนี้มันจะเสียก็เลยต้องมาดู ตั้งแต่เช้ามาปกติในช่วงเที่ยงของทุกวันลูกค้าจะมายืนรอเต็มหน้าร้าน ปกติเช้าถึงเที่ยงตนจะได้แล้วค่ารถค่าเช่าที่ แต่วันนี้ตั้งแต่เช้ามายังขายได้ไม่ถึง 3 ชามเลย เดือดร้อนมาก เดือดร้อนจริง ๆ ซึ่งปกติน้ำจะท่วมทุกปี แต่ไม่มากเหมือนปีนี้ที่มีปราณน้ำท่วมขังสูงมากและขังอยู่ยาวนานน้ำลงยากที่สุดไม่รู้เป็นเพราะอะไร เพราะปกติท่วมเช้าเย็นก็ลดลง แต่เที่ยวนี้อยู่ยาว และถ้าหากคืนนี้ฝนตกลงมาซ้ำอีก ก็คงไม่ได้ขายอีกแน่นอนตอนนี้เดือดร้อนมากจริง ๆ