WORK - ซื้อ

ประเด็นการลงทุน

ปัจจุบันช่อง Workpoint TV มีเรทติ้งเฉลี่ยนำหน้าทั้งช่อง 3 เอชดี และช่อง 7 ในช่วง Primetime สำหรับกลุ่มผู้ชมที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ในกรุงเทพฯ เราประเมินว่าจะเห็นการปรับประมาณการกำไรจากตลาดขึ้น หลังจากภาพรวมธุรกิจดิจิตอลทีวีออกมาดีกว่าคาด (ปัจจุบันสมมติฐานกำไรหลักของเราสูงกว่าตลาด 5%) เราเชื่อว่าผลประกอบการไตรมาส 1/60 เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการเติบโตสำหรับในปีนี้ (ราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นตามโมเมนตัมที่ดีของกำไร) WORK เป็นผู้นำช่องทีวีดิจิตอล โดยเรทติ้งผู้ชมของ WORK เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทยังมีมีความชัดเจนในแง่ของการทำกำไรมากที่สุดในกลุ่ม เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ

WORK ตั้งเป้าผู้ชมที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นมาที่ 1.5 ในปีนี้

เรตติ้ง 18 ชม. สำหรับช่อง Workpoint (ผู้ชมอายุ 15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ) เพิ่มขึ้นมาที่ 1.55 ในช่วงเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นจาก 1.33 ในช่วง ธ.ค. ปีที่แล้ว จากรายการออกอากาศที่เป็นที่นิยม ทั้ง The Mask Singer ซีซั่นแรก, I Can See Your Voice นักร้องซ่อนแอบ และ ไมค์ทองคำเด็ก โดยเรตติ้งได้ปรับตัวขึ้นมาสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 1.4 ทำให้บริษัทปรับเป้าหมายค่าเฉลี่ยเรตติ้ง ทั้งปีมาที่ 1.5 เรทติ้งของ WORK ชนะทั้งช่อง ช่อง 3 และช่อง 7 ได้แล้วในช่วงเวลาไพร์มไทม์ 6 โมงเย็น-4 ทุ่มครึ่ง สำหรับกลุ่มผู้ชมอายุ 15+ ใน กรุงเทพฯ ในไตรมาส 1/60 (เรตติ้งเฉลี่ยของ WORK อยู่ที่ 4.83 ในขณะที่เรตติ้งของช่อง 3 และ 7 อยู่ที่ 4.76 และ 4.05 ตามลำดับ)

Content is king

เราเชื่อว่าเรตติ้งของ WORK ยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากมีโปรแกรมใหม่ส่งลงผังมากขึ้น ได้แก่ We Kid Thailand เด็กร้องก้องโลก (ในไตรมาส 2/60-3/60), X Factor Thailand (ไตรมาส3/60) และ FIVB volleyball match (ไตรมาส3/60) ทั้งนี้อัตราค่าโฆษณาเฉลี่ยของรายการ X Factor Thailand อยู่ที่ประมาณ 3-4 แสนบาทต่อนาที (ขายโฆษณาไปหมดแล้ว) นอกจากนี้รายการหลักอย่าง The Mask Singer season-2 ยังคงดึงความสนใจจากผู้ชมอย่างแข็งแกร่ง (เรตติ้งเฉลี่ยสำหรับ Episodes 1-6 อยู่ที่ 7.84 เพิ่มขึ้นจาก 3.67 สำหรับ episodes เดียวกันใน season-1) หากเรตติ้งเฉลี่ยของ season-2 เกินกว่า 7 มีโอกาสที่บริษัทจะส่ง season-3 ลงผังต่อทันทีหลังจากจบ season-2

ไตรมาสที่สองเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี

หลังจากกำไรไตรมาส1/60 ของ WORK เติบโตน่าประทับใจ เราคาดว่ากำไรจะขยายตัวอีก YoY และ QoQ ในไตรมาส2/60 ซึ่งได้แรงหนุนจากรายได้ดิจิตอลทีวีที่สูงขึ้น ผู้บริหารตั้งเป้าอัตราค่าโฆษณาเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 75,000 บาทต่อนาที (เพิ่มขึ้น 40% YoY และ 20% QoQ) และอัตราการจองโฆษณาเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 77% ในไตรมาส2/60 เทียบกับ 72% ในไตรมาส2/58 และอีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนกำไรในไตรมาสนี้มาจาก มินิคอนเสิร์ตThe Mask Singer

WORK ปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ทีวีและรายได้ออนไลน์

ผู้บริหารปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ทีวีช่อง Workpoint และรายได้ออนไลน์มาอยู่ที่ 3.1 พันล้านบาท (จาก 2.8 พันล้านบาท) และ 200 ล้านบาท (จาก 150 ล้านบาท) ตามลำดับ เพื่อสะท้อนเรตติ้งที่ปรับตัวดีขึ้นและอัตราค่าโฆษณาที่สูงขึ้นกว่าที่คาดก่อนหน้านี้จากรายการใหม่ เป้าหมายรายได้รวมปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท (จาก 3.2 พันล้านบาท) ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการของเราที่ 3.55 พันล้านบาท แนวโน้มกำไรของ WORK อาจมีอัพไซต์หากรายการใหม่หนุนให้เรตติ้งดีกว่าปัจจุบัน