MORNING CALL ACTION NOTES (26 พ.ค.60)

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ดีดตัวขึ้นจากการซื้อ Cover Short กลุ่มหุ้นที่ทรุดตัวลงแรงหลังรายงานกำไร Q1/60 อ่อนแอ แต่ Volume ซื้อ/ขายค่อนข้างบางเนื่องจากนลท.รอผลการประชุมกลุ่มในและนอกโอเปก ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,569.41 จุด (+3.26 จุด) ด้วย Volume 3.4 หมื่นลบ.โดย Foreign Net +312 ลบ. TFEX Net +10,722 สัญญาตราสารหนี้ +4,693 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวขึ้น หลังรายงานการประชุม FOMC ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดโดยเพิ่มขึ้น 1,000 ราย สู่ 234,000 ราย

+ คมนาคมเตรียมชงโครงการรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง (สายสีส้มตะวันตก-สีม่วงใต้) วงเงินรวม 2.52 แสนล้านบาท เข้าครม. เดือนมิถุนายน

- ราคาน้ำมันทรุดตัวลงแรงล่าสุด 48.9 US/Barrel ผิดหวังกลุ่มในและนอกโอเปกขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีกเพียง 9 เดือนจนถึงเดือนมี.ค.2018 แต่ไม่มีการปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมโดยยังคงการผลิตน้ำมันรวมกันราว 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน

+/- ญี่ปุ่นเผย CPI พื้นฐานเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 0.3% หลังราคาพลังงานพุ่ง

+/- Fund Flow ต่างชาติผันผวนล่าสุดพลิกเป็น Net Buy 4 วันราว 2.3 พันลบ. รวมถึงเงินบาทแข็งค่าล่าสุด 34.1 Bath/USD

** AJD ขอขยายเวลาการนำส่งงบการเงิน Q1/60 เป็นภายใน 31 ก.ค.60

ภาวะตลาดหุ้นไทยถูกแรงกัดดันจากราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงแรงหลังผิดหวังผลการประชุมกลุ่มในและนอกโอเปควานนี้ ซึ่งเป็นลบต่อกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามกระแส Fund Flow ต่างชาติที่เริ่มพลิกเป็น Net Buy พร้อมกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นน่าจะช่วงพยุงดัชนีไม่ให้ย่อตัวลงแรง ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,565 – 1,575 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- CHO ข่าวประกาศผลประมูล e-Ticket ของขสมก. 1,700 ลบ. 31 พ.ค. และยื่นประมูลจัดซื้อรถ NGV ขสมก.รอบใหม่ 489 คัน

- AH เข้าซื้อหุ้น 25% ใน Sakthi Global Auto ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในอินเดีย-โปรตุเกส-สหรัฐ-จีน มูลค่า 3.52 พันลบ.

- LST VPO ราคาปาล์มพุ่งทำ High รอบ 2 เดือนล่าสุด 672 USD/Ton

- MSCI Thailand เพิ่มน้ำหนัก PTT PTTGC BEM ส่วน MSCI Small Cap เพิ่ม BCPG BIG FORTH PTL THANI เข้าคำนวณ มีผลตั้งแต่ 31 พ.ค.

หุ้นแนะนำพิเศษ

BCPG       (ราคาปิด 14.40 บาท Bloomberg Consensus 15.04 บาท)

- Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 60 อยู่ที่ 2.23 พันลบ. + 43%YoY เนื่องจากคาดว่าจะรับรู้รายได้จาก Solar ญี่ปุ่น 5 MW โรงไฟฟ้าพลังงานลม 20MW ในฟิลิปปินส์ และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในอินโดนีเซียอีก 182 MW โดยคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป ส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมเพิ่มขึ้นจาก 160 MW สู่ 367 MW (ดำเนินการผลิตแล้ว 332 MW และกำลังก่อสร้างอีก 35 MW)

- ความเห็น แนวโน้มผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นจากการรับรู้โรงไฟฟ้าโซลาร์สหกรณ์และญี่ปุ่นรวม 23 MW เต็มไตรมาส อีกทั้งราคาขายไฟฟ้าปรับตัวขึ้นตามค่าผันแปรไฟฟ้า (Ft) ที่เพิ่มขึ้น 12.52 สตางค์ต่อหน่วยและมีโอกาสปรับขึ้นอีกครั้งช่วงเดือนต.ค.ตามราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับขึ้น

หุ้นมีข่าว

- TISCO (ราคาปิด 76.25 ถือ ราคาเหมาะสม 77) เร่งเดินหน้าควบรวม SCBT หวังดำเนินการเสร็จสิ้นในเดือนก.ย. 2560 ตามแผน พร้อมเพิ่มโอกาสขยายสินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อบัตรเครดิต หนุนผลงานในอนาคตเติบโตแข็งแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)

  ความเห็น การเข้าซื้อธุรกิจรายย่อย และธุรกิจบัตรเครดิตจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ทำให้สินเชื่อปลายปีมีแนวโน้มเติบโตสูง ซึ่งเรามีมุมมองเชิงบวกต่อศักยภาพในการเติบโตของผลการดำเนินงานในปีนี้ คาดการณ์กำไรปี 60 ราว 6.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 26%

- ประเด็นบวกกลุ่มรับเหมา - คมนาคม เตรียมชงโครงการรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง วงเงินรวม 2.52 แสนล้านบาท เข้าครม. เดือนมิถุนายนนี้ "CK-ITD-STEC-UNIQ" ยิ้มรับงานใหม่ ฟาก BEM จ่อคว้างานเดินรถตลอดเส้นทางรับทรัพย์ก้อนโต (ที่มาทันหุ้น)

- ประเด็นบวกกลุ่มธนาคาร - ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานภาพรวมสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์เดือนเม.ย.2560 เพิ่มขึ้น 0.4%MoM และ 2.13%YoY เป็นระดับสูงสุดในปีนี้ ผลจากการเร่งตัวขึ้นของสินเชื่อที่อยู่อาศัย และการเติบโตต่อเนื่องของสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนของธุรกิจในประเทศ และธุรกิจระหว่างประเทศซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้นของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ในระยะข้างหน้าส่วนสินเชื่อเอสเอ็มอีโดยเฉพาะขนาดเล็กยังชะลอตัวต่อเนื่อง

  ความเห็น : การเร่งตัวของสินเชื่อเป็นสัญญาณที่ดีในการเติบโตของสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลัง ฝ่ายวิจัยมีแนวโน้มปรับน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารจาก “Underweight” เป็น “Neutral” หุ้น Top Pick ได้แก่ KBANK (ราคาปิด 190 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 215) SCB (ราคาปิด 154.50 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 174 บาท)

- ASIMAR เผย ITD ว่าจ้างประกอบ-ติดตั้งรั้วถนนมอเตอร์เวย์มูลค่า 10.70 ลบ.

- EGCO (ราคาปิด 211 Bloomberg Consensus 227.92) เล็งขายไฟตามแผนจ่อ COD โรงไฟฟ้า SPP กำลังการผลิต 102 เมกะวัตต์ ภายในเดือนมิถุนายนนี้ พร้อมบุ๊กทันที หนุนรายได้เพิ่ม ขณะที่ยังเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศไม่หยุด หวังเสริมแกร่ง-ขยายฐาน สร้างความมั่นคงระยะยาว (ที่มา ทันหุ้น)

- “อิงเกรสฯ” เล็งเสนอขายไอพีโอ 578.44 ล้านหุ้น และเข้าเทรดใน SET ภายในช่วงต้นไตรมาส 3/60 คาดเคาะราคาขายปลายเดือน ก.ค. หรือต้นเดือน ส.ค. ส่วนรายได้ปี 60 วางเป้าเพิ่มขึ้น 3% ตามการเติบโตอุตสาหกรรมยานยนต์ พร้อมเดินหน้าเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรอินเดีย เพื่อผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ คาดแล้วเสร็จปี 62 (ที่มา ข่าวหุ้น)

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +70.53 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,082.95 จุด เพิ่มขึ้น 70.53 จุด หรือ +0.34% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,415.07 จุด เพิ่มขึ้น 10.68 จุด หรือ +0.44% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,205.26 จุด เพิ่มขึ้น 42.23 จุด หรือ +0.69% โดยตลาดได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังจากบริษัทเบสท์ บาย ห้างค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของสหรัฐได้เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนขานรับรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำเดือนพ.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป

ตลาดน้ำมัน NYMEX -2.46 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 2.46 ดอลลาร์ หรือ 4.8% ปิดที่ 48.90 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดร่วงลงเกือบ 5% เมื่อคืนนี้ (25 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก ซึ่งมีมติขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีกเพียง 9 เดือน โดยไม่มีการปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น

Opportunity Day : APCO (ราคาปิด 1.42 Bloomberg Consensus 1.73)

- APCO มีรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 90% และกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเสริมความงาม 4% สัดส่วนรายได้ตามช่องทางการจัดจำหน่ายได้แก่ BIM Health Center 3 แห่งได้แก่สนญ.ถ.รัชดาฯ ศูนย์การค้าเอสพละนาด และศูนย์การค้าพาราได้ซ์พาร์ค สัดส่วนรายได้ 25% การขายตรงมีสัดส่วนรายได้ 71% และขายผ่านตัวแทน 4%

- ในช่วง 1Q60 มีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 94 ลบ. –5%YoY
–10%QoQ กำไรสุทธิ 24 ลบ. -3%YoY -46%QoQ Gross Profit Margin 85% Net Profit Margin 25%

- ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 60 เติบโต 20% หรือประมาณ 500 ล้านบาท ตั้งเป้ารักษา Gross Profit Margin ไม่ต่ำกว่า 85% มีแผนการตลาดในการเพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์ผ่าน social media และรายการโทรทัศน์ให้มากขึ้น ผลงาน 2Q60 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของกำลังซื้อ

- ราคาปิดล่าสุดซื้อขายที่ PER 31 เท่า PBV 6.06 เท่า