‘สมุนไพรต้านโรค’เทรนด์ติดลมบน

‘สมุนไพรต้านโรค’เทรนด์ติดลมบน

“ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากสมุนไพรธรรมชาติ” เป็นเมกะเทรนด์ที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะกลุ่มที่มีสรรพคุณล้างพิษ ต้านการอักเสบและชะลอวัย

“ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากสมุนไพรธรรมชาติ” เป็นเมกะเทรนด์ที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะกลุ่มที่มีสรรพคุณล้างพิษ ต้านการอักเสบและชะลอวัย ล้วนพบได้หลากหลายและมากมายในไทย “เซเรบอส” เล็งนำสมุนไพรไทยต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ขานรับเทรนด์โลกทั้งรักสุขภาพ รักธรรมชาติและชูแนวทางป้องกันโรคแทนรักษา


“ในวงการผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สิ่งสำคัญคือ วัตถุดิบต้องมีประสิทธิภาพ ต้องได้รับการวิจัยว่า มีสรรพคุณในการดูแลสุขภาพจริงและไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย ซึ่งต้องใช้เวลานานในการค้นคว้าวิจัยและทดสอบ จึงยังไม่เห็นผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยออกสู่ตลาด อีกทั้งต้องทำงานกันอย่างใกล้ชิดกับทีมวิจัย ทีมการตลาด แต่สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นและกล้าที่จะซื้อไปบริโภค”นางสาวพุดตาน พงศ์พัฒนาไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว


ดันสมุนไพรไทยโตก้าวกระโดด


นายสุรพจน์ วงศ์ใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรของสหประชาชาติ วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า แนวทางการพัฒนาสมุนไพรกับการส่งเสริมการส่งเสริมสุขภาพรับไทยแลนด์ 4.0 สอดคล้องกับแนวโน้มความต้องการในตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันแทนรักษา โดยเฉพาะในกลุ่มโรคที่ถือว่าภัยคุกคามต่อมนุษยชาติในศตวรรษที่ 21 ซึ่งก็คือโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ประกอบด้วย 4 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด กลุ่มโรคเบาหวาน กลุ่มโรคมะเร็งและกลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง


ประเทศไทยมีสมุนไพรหลากหลายและจำนวนมาก โดยเฉพาะด้านชะลอวัย จึงควรศึกษาภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษมาสร้างนวัตกรรม ด้วยการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพตอบความต้องการผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ทั้งไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และปลอดภัยจากสารเคมี จะทำให้สมุนไพรไทยเติบโตแบบก้าวกระโดด และสร้างรายได้มหาศาลกลับเข้าประเทศ


ส่วนสมุนไพรที่มีสรรพคุณล้างพิษและต้านการอักเสบ กำลังได้รับความนิยมในต่างประเทศ เนื่องจากการดำเนินชีวิตของผู้คนต้องเผชิญกับมลภาวะมากมายรวมทั้งจากการบริโภคอาหารและยา จึงต้องการล้างพิษในร่างกายด้วยวิธีธรรมชาติ สมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณล้างพิษ เช่น รางจืด ย่านางแดง ขิง งา ชะเอม เป็นต้น ส่วนสมุนไพรที่มีสรรพคุณต้านการอักเสบ เช่น กระชายดำ ขมิ้นชัน ไพล อัญชัน บัวบก หม่อน น้ำมันจากจมูกข้าว เป็นต้น


สร้างความเชื่อมั่นด้วยงานวิจัย


นางสาวพุดตาน พงศ์พัฒนาไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะเป็นแนวการป้องกัน ซึ่งเป็นแนวโน้มเดียวกับตลาดโลกขณะที่ผู้บริโภคปัจจุบันใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่จะนำงานวิจัยสมุนไพรไทยซึ่งหลายตัวมีสรรพคุณที่น่าสนใจ มาผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพในเชิงพาณิชย์


“หากสังเกตจะพบว่า ผลิตภัณฑ์ของเซเรบอสจะเป็นอาหารเสริมที่ใช้วัตถุดิบหรือส่วนประกอบจากธรรมชาติหรือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น ซุปไก่ รังนก ฟู้ดเอสเซนต์ตระกูลวีต้า ล่าสุดได้นำเห็ดและโสมสกัดจากธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนประกอบ” นางสาวพุดตาน กล่าว และว่า

การพัฒนาสินค้าเกิดจากไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ประกอบกับการคาดการณ์ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เราไม่สามารถทำสินค้าวันนี้เพื่อวันนี้ จึงต้องทำนายอนาคตก่อน ยกตัวอย่าง วีต้าเบอร์รี่สกัดเกิดมานานกว่า 10ปี ก่อนที่ออกสู่ตลาด ซึ่งเป็นผลมาจากการคาดการณ์ว่าผู้บริโภคจะใช้สายตากับคอมพิวเตอร์และสมาร์ทดีไวซ์มากขึ้น


สำหรับแนวโน้มพฤติกรรมการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพของคนไทยจะมีความหลากหลายมากขึ้น แต่ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกคือ ความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ทั้งประสิทธิภาพและความปลอดภัย หากบริโภคเข้าไปในร่างกายจะปลอดภัยและมีประสิทธิภาพจริงตามที่ได้รับการบอกกล่าว ซึ่งรายงานการวิจัยจะเป็นตัวรองรับและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคที่ตรวจสอบได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ จึงไม่น่าแปลกใจที่กว่าบริษัทจะออกผลิตภัณฑ์แต่ละตัวต้องใช้เวลานาน เนื่องจากต้องมีงานวิจัยมารองรับมากกว่า 1 ฉบับ


ทั้งนี้ โครงการ “แบรนด์ เฮลธ์ รีเสิร์ซ อวอร์ด 2017” หรือทุนวิจัยเซเรบอสอวอร์ด เปิดรับสมัครผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับทางด้านโภชนศาสตร์ เภสัชศาสตร์ และสาขาที่เกี่ยวข้อง เช่น ผลิตภัณฑ์อาหาร สมุนไพร และยา รวมทั้งพฤติกรรมการบริโภคที่มีผลต่อโภชนบำบัดและการส่งเสริมสุขภาพ เพื่อชิงทุนวิจัย 5 แสนบาท ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 ก.ค.นี้