เกาะติด '7หุ้น' ส่อถูกสั่งซื้อขายเงินสด

เกาะติด '7หุ้น' ส่อถูกสั่งซื้อขายเงินสด

เกาะติด7หุ้น ส่อถูกสั่ง "ซื้อขายเงินสด"

เมื่อตลาดหุ้นผันผวนแรง หุ้นขนาดเล็กที่มีแรงเก็งกำไรคึกคัก ล่าสุด บล.ทิสโก้ คาดการณ์ 7 หุ้น มีโอกาสที่จะถูกสั่งซื้อขายได้เฉพาะบัญชีเงินสด(แคชบาลานซ์ในรอบสัปดาห์นี้โดยหุ้นที่มีโอกาสจะถูกแขวนแคชบาลานซ์ หากมีวอลุ่มการซื้อขายขยับขึ้นไปแตะเกณฑ์ ประกอบด้วย

หุ้นบริษัท อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง AMANAH ในวันที่ 25พ.ค.2560 อาจถูกห้ามเทรด หากมูลค่าการซื้อขาย(วอลุ่ม)รวม มากกว่าหรือเท่ากับ 267 ล้านบาท หุ้นบริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น AS หากวอลุ่มเทรดมากกว่าหรือเท่ากับ 299 ล้านบาท บริษัท เอทีพี 30 ATP30 วอลุ่มเทรดมากกว่าหรือเท่ากับ 299 ล้านบาท หุ้นบริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. K วอลุ่มเทรดมากกว่า 261 ล้านบาท

ส่วน บริษัท อีสต์โคสท์ เฟอร์นิเทค ECF วอลุ่มเทรดมากกว่าหรือเท่ากับ 43 ล้านบาท และราคาปิดต้องไม่มากกว่า หรือเท่ากับ 3.94บาท บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล KOOL วอลุ่มไม่มากกว่า 22 ล้านบาท และราคาปิดต้องไม่มากกว่า 4.42 บาท บริษัท ที.ซี.เจ.เอเซียTCJ วอลุ่มไม่มากกว่าหรือเท่ากับ 323 ล้านบาท และราคาปิดต้องไม่เกิน 10.5 บาท

ขณะที่หุ้นบริษัทการบินไทย THAI ติด Cash Balance วันสุดท้ายถึง 25 พ.ค. 2560 และบริษัท ซีซีเอ็น-เทค  CCN,ใบสำคัญแสดงสิทธิ์( CCN-W1)บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น D ถึง 26 พ.ค.(ถ้าไม่ถูกขยายเวลา)

บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)ระบุว่า หุ้นที่มีโอกาสติด Cash Balanceรอบสัปดาห์นี้ คือ หุ้นมาสเตอร์คูลและหุ้นอีสต์โคสท์

ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัทมาสเตอร์คูล ระหว่างวันที่ 22-24 พ.ค.2560 ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 4.16 บาท ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 3.74 บาท ราคาเฉลี่ย 3.99 บาท ขณะที่ หุ้นอีสต์โคสท์ ราคาหุ้นเคยปรับตัวขึ้นไปสูงสุด 3.90 บาท และต่ำสุด 3.42 บาท ราคาเฉลี่ย 3.68 บาท

ก่อนหน้านี้ บริษัทมาสเตอร์คูล รายงานผลประกอบการงวดไตรมาสแรกพลิกเป็นขาดทุน 17 ล้านบาท โดยสาเหตุของผลขาดทุนว่า มาจากการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่เข้าสู่ตลาด และใช้กลยุทธ์ราคาเข้าสู้ ทำให้บริษัทต้องยอมลดราคาสินค้าลงมาแข่งด้วย ทำให้กระทบกับอัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 23.93% จาก 35.87%จากงวดเดียวกันปีก่อน ขณะเดียวกันยังต้องเพิ่มงบประมาณจัดโปรโมชั่น ประกอบกับสภาพอากาศที่ไม่ร้อนเหมือนที่คาด และมีปริมาณฝนสูงสุดในรอบ 5 ปี ทำให้ความต้องการซื้อสินค้าพัดลมไอเย็นในภาพรวมหดตัวลง

ส่วนตลาดที่มีความหวังคือ ตลาดส่งออก เพราะคู่แข่งยังมีน้อย ทำให้ยอดขายเติบโตสวนในประเทศ ปัจจุบันขยายไปกว่า 40 ประเทศทั่วโลก แต่ช่องทางนี้มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าทุกช่องทาง ทำให้โดยรวมแล้วผลประกอบการไตรมาสแรกขาดทุน

ก่อนหน้านี้ อารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค ชี้แจงว่า ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2560มีรายได้รวมทั้งสิ้น 409.74 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6.77% และมีกำไรสุทธิ 18.63 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน ผลจากบริษัทย่อยที่ผลการดำเนินงานยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ประกอบกับยังไม่สามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจด้านพลังงาน