สอบพยาน61ปากคดีบึ้มรพ. ชี้ขบวนการกลุ่มการเมืองสุดโต่ง

สอบพยาน61ปากคดีบึ้มรพ. ชี้ขบวนการกลุ่มการเมืองสุดโต่ง

เผยสอบพยานคดีระเบิดรพ.พระมงกุฎฯ แล้ว 61 ปาก เชื่อเป็นขบวนการกลุ่มการเมืองสุดโต่ง อยู่ระหว่างหารือสเก็ตซ์ภาพผู้ต้องสงสัย-จำลองเหตุการณ์ เพื่อต่อจิ๊กซอว์ทั้งหมด

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน คดีลอบวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 61 ปาก ในจำนวนนี้มี 5 ถึง 6 ปาก ให้การเป็นประโยชน์และมีน้ำหนักเพียงพอ และยังเหลือพยานอีกกว่า 20 ปาก คาดว่าจะสอบสวนแล้วเสร็จวันนี้

พร้อมยืนยันขณะนี้ไม่มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวน แต่อยู่ระหว่างหารือกับทีมสืบสวนสอบสวนในการสเก็ตซ์ภาพผู้ต้องสงสัยพร้อมเตรียมจำลองเหตุการณ์ เพื่อต่อจิ๊กซอว์ทั้งหมด ซึ่งคดีมีความคืบหน้าไปมาก และเชื่อว่ามีคนร้ายมาก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 1 คน ทำป็นขบวนการของกลุ่มการเมืองที่นิยมความรุนแรง หรือ พวกสุดโต่ง ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนมั่นใจว่าผู้ก่อเหตุยังอยู่ในประเทศไทย และอยู่ระหว่างตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างผู้ส่งจดหมายเตือนและกลุ่มที่ก่อเหตุ

โดยไม่ตัดประเด็นการก่อเหตุใดทิ้ง และจากการตรวจสอบพบว่าชื่อที่ปรากฎในจดหมายเตือนไม่มีในระบบทะเบียนราษฎร จึงคาดอาจใช้ชื่อปลอมและได้สั่งการให้รวมคดีระเบิดที่หน้ากองสลากเก่า หน้าโรงละครแห่งชาติ และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โดยไม่เร่งรัดการดำเนินคดีให้พนักงานสอบสวนทำคดีด้วยความรอบคอบเพื่อป้องกันข้อครหายืนยันว่าตำรวจไม่มีการจับแพะ

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ออกมาระบุถึงเหตุระเบิดต่างๆในต่างประเทศ ทางการไทยก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้จึงเชิญผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ ศชต. และตำรวจสันติบาลหารือเรื่องการข่าวอย่างต่อเนื่อง โดยยอมรับว่าในกลุ่มตำรวจอาเซียนมีการประสานข้อมูลกันตลอดแต่ยังไม่มีการแจ้งเตือนใดๆเฉพาะ

นอกจากนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ระบุว่าทางตำรวจได้เชิญแพทยสภา และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร มาพูดคุยถึงการป้องกันเหตุโดยให้ตำรวจไปให้ความรู้การดูแลความปลอดภัยรวมถึงการคัดกรองบุคคล และการติดตั้งกล้องวงจรปิด และยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดในพื้นที่สำคัญต่างๆ ทั่วประเทศ